ผลประกอบการไตรมาสแรกสวยหรู ธนาคารออมสินกำไรสุทธิกว่า 3,400 ล้าน ยอดสินเชื่อและปริมาณเงินลงทุนขยายตัว ดันกำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนเกือบ 1,200 ล้านบาท ลั่นทั้งปีจะมีกำไรสุทธิสูงกว่าเป้าหมาย ขณะที่ ผอ.คนใหม่ รองฯวรวิทย์มาแรง เจ้าตัวยอมรับตั้งใจลงชิงเก้าอี้
นายวิศิษฐ์ วงศ์รวมลาภ กรรมการธนาคารออมสินและรักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมกับนายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส แถลงข่าวผลประกอบการธนาคารออมสิน งวดไตรมาสแรกปี 2551 (1 มกราคม – 31 มีนาคม 2551) มีกำไรสุทธิ 3,464 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,196 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (ไตรมาสแรกปี 2550) ที่มีกำไรสุทธิ 2,268 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพราะปริมาณสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 และเงินลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 ประกอบกับการมีมาตรการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพ จึงทำให้ปริมาณหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
"การที่ผลประกอบการของธนาคาร ยังคงมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแทบทุกด้านนั้น เป็นผลมาจากการความร่วมมือของพนักงานที่นำนโยบายทั้งในเชิงสังคมและธุรกิจไปปรับใช้ในการทำงานได้อย่างสมดุล แสดงออกถึงศักยภาพของออมสินที่โดดเด่นในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาล ควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจด้านต่างๆ ดังนั้นผลการดำเนินงานปีนี้ จะมีกำไรสุทธิสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายวิศิษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ สินเชื่อที่สนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย เช่น สินเชื่อธนาคารประชาชน ปล่อยสินเชื่อได้ 975 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 สินเชื่อต่อยอดกองทุนหมู่บ้านสามารถปล่อยได้ 750 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19 และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก สามารถปล่อยได้ 1,608 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16 ของเป้าหมายทั้งปี
ณ วันที่ 31 มี.ค. 51 ธนาคารฯ มีเงินให้สินเชื่อรวมทั้งสิ้น 477,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34,140 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีก่อน โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้มีการอนุมัติสินเชื่อเพิ่มสุทธิ 7,664 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24.7 ของเป้าหมายสินเชื่อเพิ่มสุทธิทั้งปี ครอบคลุมสินเชื่อทุกประเภท ได้แก่ สินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ สินเชื่อภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ สินเชื่ออเนกประสงค์ สินเชื่อเอกชนขนาดใหญ่ และสินเชื่อธุรกิจ มีสินทรัพย์รวม 757,352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,961 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2550 มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์จำนวน 234,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20,867 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.8 มียอดเงินฝากทั้งสิ้น 643,974 ล้านบาท ลดลง 2,798 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 0.4 ขณะที่ส่วนของทุนอยู่ที่ 88,899 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,081 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.7 และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ 22.43
สำหรับผลการดำเนินงานที่สำคัญด้านสินเชื่อของธนาคารออมสิน โดยเฉพาะการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนทุกระดับเข้าถึงแหล่งทุน โดยในปี 2551 ธนาคารฯ ตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 176,500 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรกได้มีการอนุมัติไปแล้วจำนวน 46,575 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26 ของเป้าหมาย สำหรับสินเชื่อที่ดำเนินการได้ตามเป้าหมายได้แก่ สินเชื่อเคหะ สินเชื่อบุคคล โดยเฉพาะสินเชื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ (สินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตครู และ สินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการ) และ สินเชื่อภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ที่สามารถดำเนินการได้สูงกว่าเป้าหมายมากที่สุด ถึงร้อยละ 60 และร้อยละ 177 ของเป้าหมาย ตามลำดับ
นายวิศิษฐ์กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2551 ว่า ยังคงบทบาทส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินสำหรับประชาชนทุกระดับ การขยายธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มทุกระดับ และบทบาทที่สำคัญในขณะนี้ คือ มุ่งเน้นร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยยังคงบทบาทสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพเศรษฐกิจฐานราก
***"วรวิทย์" ลุยชิงเก้าอี้ ผอ.ออมสิน
แหล่งข่าวธนาคารออมสินเปิดเผยความคืบหน้าการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนใหม่ว่า หลังการปิดรับสมัครไปแล้วเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 51 พบว่ามีผู้สนใจยื่นใบสมัครรวม 11 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ ส่วนใหญ่เป็นบุคคลภายนอก สำหรับบุคคลภายในคือ นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายการเมือง
"นอกจากฝีมือการทำงานแล้ว นายวรวิทย์ยังสนิทสนมกับนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง ส่วนนายกรพจน์ อัศวินวิจิตร อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ก็หนุนหลัง" แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนายวรวิทย์กล่าวว่า ตนมีความตั้งใจที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้อำนวยการ เพื่อนำธนาคารออมสินให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามผลจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหา
ส่วนนายวิศิษฐ์กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ส่วนตัวแล้วอยากให้คนในธนาคารขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการ เพราะเชื่อในความสามารถในการบริหารธนาคารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ที่สำคัญสามารถสานต่องานได้ดีกว่าคนนอก
สำหรับนายวรวิทย์ เรียนจบด้านบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จาก Schiller International University, London, England เข้าธนาคารออมสิน เมื่อปี 2544 ทำหน้าที่กรรมการและกรรมการบริหาร พร้อมกับเป็นที่ปรึกษา รมช.คลัง (นายวราเทพ รัตนากร)
นายวิศิษฐ์ วงศ์รวมลาภ กรรมการธนาคารออมสินและรักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมกับนายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส แถลงข่าวผลประกอบการธนาคารออมสิน งวดไตรมาสแรกปี 2551 (1 มกราคม – 31 มีนาคม 2551) มีกำไรสุทธิ 3,464 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,196 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (ไตรมาสแรกปี 2550) ที่มีกำไรสุทธิ 2,268 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพราะปริมาณสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 และเงินลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 ประกอบกับการมีมาตรการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพ จึงทำให้ปริมาณหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
"การที่ผลประกอบการของธนาคาร ยังคงมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแทบทุกด้านนั้น เป็นผลมาจากการความร่วมมือของพนักงานที่นำนโยบายทั้งในเชิงสังคมและธุรกิจไปปรับใช้ในการทำงานได้อย่างสมดุล แสดงออกถึงศักยภาพของออมสินที่โดดเด่นในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาล ควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจด้านต่างๆ ดังนั้นผลการดำเนินงานปีนี้ จะมีกำไรสุทธิสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายวิศิษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ สินเชื่อที่สนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย เช่น สินเชื่อธนาคารประชาชน ปล่อยสินเชื่อได้ 975 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 สินเชื่อต่อยอดกองทุนหมู่บ้านสามารถปล่อยได้ 750 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19 และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก สามารถปล่อยได้ 1,608 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16 ของเป้าหมายทั้งปี
ณ วันที่ 31 มี.ค. 51 ธนาคารฯ มีเงินให้สินเชื่อรวมทั้งสิ้น 477,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34,140 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีก่อน โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้มีการอนุมัติสินเชื่อเพิ่มสุทธิ 7,664 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24.7 ของเป้าหมายสินเชื่อเพิ่มสุทธิทั้งปี ครอบคลุมสินเชื่อทุกประเภท ได้แก่ สินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ สินเชื่อภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ สินเชื่ออเนกประสงค์ สินเชื่อเอกชนขนาดใหญ่ และสินเชื่อธุรกิจ มีสินทรัพย์รวม 757,352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,961 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2550 มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์จำนวน 234,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20,867 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.8 มียอดเงินฝากทั้งสิ้น 643,974 ล้านบาท ลดลง 2,798 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 0.4 ขณะที่ส่วนของทุนอยู่ที่ 88,899 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,081 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.7 และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ 22.43
สำหรับผลการดำเนินงานที่สำคัญด้านสินเชื่อของธนาคารออมสิน โดยเฉพาะการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนทุกระดับเข้าถึงแหล่งทุน โดยในปี 2551 ธนาคารฯ ตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 176,500 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรกได้มีการอนุมัติไปแล้วจำนวน 46,575 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26 ของเป้าหมาย สำหรับสินเชื่อที่ดำเนินการได้ตามเป้าหมายได้แก่ สินเชื่อเคหะ สินเชื่อบุคคล โดยเฉพาะสินเชื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ (สินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตครู และ สินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการ) และ สินเชื่อภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ที่สามารถดำเนินการได้สูงกว่าเป้าหมายมากที่สุด ถึงร้อยละ 60 และร้อยละ 177 ของเป้าหมาย ตามลำดับ
นายวิศิษฐ์กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2551 ว่า ยังคงบทบาทส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินสำหรับประชาชนทุกระดับ การขยายธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มทุกระดับ และบทบาทที่สำคัญในขณะนี้ คือ มุ่งเน้นร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยยังคงบทบาทสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพเศรษฐกิจฐานราก
***"วรวิทย์" ลุยชิงเก้าอี้ ผอ.ออมสิน
แหล่งข่าวธนาคารออมสินเปิดเผยความคืบหน้าการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนใหม่ว่า หลังการปิดรับสมัครไปแล้วเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 51 พบว่ามีผู้สนใจยื่นใบสมัครรวม 11 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ ส่วนใหญ่เป็นบุคคลภายนอก สำหรับบุคคลภายในคือ นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายการเมือง
"นอกจากฝีมือการทำงานแล้ว นายวรวิทย์ยังสนิทสนมกับนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง ส่วนนายกรพจน์ อัศวินวิจิตร อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ก็หนุนหลัง" แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนายวรวิทย์กล่าวว่า ตนมีความตั้งใจที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้อำนวยการ เพื่อนำธนาคารออมสินให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามผลจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหา
ส่วนนายวิศิษฐ์กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ส่วนตัวแล้วอยากให้คนในธนาคารขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการ เพราะเชื่อในความสามารถในการบริหารธนาคารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ที่สำคัญสามารถสานต่องานได้ดีกว่าคนนอก
สำหรับนายวรวิทย์ เรียนจบด้านบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จาก Schiller International University, London, England เข้าธนาคารออมสิน เมื่อปี 2544 ทำหน้าที่กรรมการและกรรมการบริหาร พร้อมกับเป็นที่ปรึกษา รมช.คลัง (นายวราเทพ รัตนากร)
