ลูกบ้านในหมู่บ้านประชานิเวศร์ 2 เดือนร้อน หลังโครงการปริญสิริสามัครีทุบรั้วที่ติดกับหมู่บ้านฯ หวังใช้เป็นทางผ่านสาธารณะ ขณะที่ลูกบ้านในหมู่บ้านประชานิเวศร์ฯ หวั่นเกิดขโมยเพิ่มขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมา ด้านปริญสิริฯ ระบุเป็นอำนาจหน้าที่ของเทศบาล
ลูกบ้านรายหนึ่งในหมู่บ้านประชานิเวศร์ 2 ได้ร้องเรียนมายังหนังสือพิมพ์ผู้จัดการว่า ขณะนี้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนฯกำลังได้รับความเดือนร้อนจากการที่โครงการปริญสิริสามัคคี (เดิมใช้ชื่อ"ปริญสิริประชาชื่น")ได้นำเครื่องจักรหนักมาทุบรั้วหมู่บ้านประชานิเวศร์ 2 ซอย 10 ฝั่งตะวันออก เนื่องจากรั้วที่กันเป็นรั้วของหมู่บ้าน ซึ่งกันเอาไว้ ทำให้โครงการไม่สามารถใช้ถนนภายในหมู่บ้านเป็นทางสาธารณะ ขณะเดียวกัน เหตุผลที่ทางหมู่บ้านได้ทำรั้วกัน เพื่อป้องกันการเข้ามาของกลุ่มมิชาชีพที่เข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้าน เพราะที่ผ่านมา ผู้อยู่อาศัยถูกปล้น ถูกลักทรัพย์ติดต่อมาหลายปีแล้ว
นอกจากนี้ ทางผู้บริหารหมู่บ้าน ต้องเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกับผู้ที่อยู่อาศัย เพื่อจ้างยามมาดูแลความปลอดภัยเพิ่มอีก 1 ด้านในส่วนของรั้วที่ทุบทิ้งไป อีกทั้งถนนของโครงการปริญสิริสามัคคีสูงกว่าหมู่บ้านประชานิเวศร์ 2 ทำให้เวลาเกิดฝนตก น้ำจะไหลเข้ามาท่วมบ้านที่อยู่อาศัยใกล้กับโครงการ โดยเฉพาะบริเวณซอยสามัคคี 58/10 ซึ่งในส่วนนี้มีผู้อยู่ประมาณ 30 หลังคา
" ที่ดินในหมู่บ้านประชานิเวศร์ 2 เดิมเป็นที่ดินของการเคหะแห่งชาติ หลังจากนั้นในช่วงปี 2537 การเคหะฯได้ยกถนนในหมู่บ้านให้แก่เทศบาลนนทบุรี ซึ่งทางผู้อยู่อาศัยไม่ได้รับรู้เลย อย่างไรก็ตาม เรื่องของการทุบรั้ว ทางเราก็พบว่า เป็นรถแทกเตอร์ที่มาจากโครงการปริญสิริสามัคคี เนื่องจากเดิมรถแทกเตอร์ของเทศบาลชำรุด ดังนั้น ทางโครงการก็บอกว่าถ้าไม่ทุบ ทางโครงการจะดำเนินการเอง ซึ่งทางคนขับแทกเตอร์ก็บอว่า อยากทุบก็ทุบ "แหล่งข่าวกล่าว
รายงานข่าวจากบริษัทปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ระบุถึงข้อขัดแย้งดังกล่าวว่า ทางบริษัทพยายามปรึกษาหารือกับผู้อยู่อาศัยมาโดยตลอด เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความสบายใจมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ เลยประสานไปยังหน่วยงานดำเนินการแทน เนื่องจากถนนภายในโครงการของบริษัทฯได้ยกให้แก่เทศบาลไปแล้ว
ทั้งนี้ ตามประกาศของเทศบาลนนทบุรี เรื่อง กำหนดการรื้อถอนกำแพงที่ก่อสร้างโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ลงประกาศ ณ วันที่ 6 พ.ค. 51 โดยนายสิทธิพล วงษ์ดนตรี ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ระบุว่า จะดำเนินการรื้อถอนกำแพง ซึ่งก่อสร้างรุกล้ำที่สาธารณะประโยชน์ และกำแพงที่ก่อสร้างดังกล่าวไม่มีเจ้าของ ดังนั้น ทางเทศบาลฯจะดำเนินการรื้อถอนตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.
ลูกบ้านรายหนึ่งในหมู่บ้านประชานิเวศร์ 2 ได้ร้องเรียนมายังหนังสือพิมพ์ผู้จัดการว่า ขณะนี้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนฯกำลังได้รับความเดือนร้อนจากการที่โครงการปริญสิริสามัคคี (เดิมใช้ชื่อ"ปริญสิริประชาชื่น")ได้นำเครื่องจักรหนักมาทุบรั้วหมู่บ้านประชานิเวศร์ 2 ซอย 10 ฝั่งตะวันออก เนื่องจากรั้วที่กันเป็นรั้วของหมู่บ้าน ซึ่งกันเอาไว้ ทำให้โครงการไม่สามารถใช้ถนนภายในหมู่บ้านเป็นทางสาธารณะ ขณะเดียวกัน เหตุผลที่ทางหมู่บ้านได้ทำรั้วกัน เพื่อป้องกันการเข้ามาของกลุ่มมิชาชีพที่เข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้าน เพราะที่ผ่านมา ผู้อยู่อาศัยถูกปล้น ถูกลักทรัพย์ติดต่อมาหลายปีแล้ว
นอกจากนี้ ทางผู้บริหารหมู่บ้าน ต้องเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกับผู้ที่อยู่อาศัย เพื่อจ้างยามมาดูแลความปลอดภัยเพิ่มอีก 1 ด้านในส่วนของรั้วที่ทุบทิ้งไป อีกทั้งถนนของโครงการปริญสิริสามัคคีสูงกว่าหมู่บ้านประชานิเวศร์ 2 ทำให้เวลาเกิดฝนตก น้ำจะไหลเข้ามาท่วมบ้านที่อยู่อาศัยใกล้กับโครงการ โดยเฉพาะบริเวณซอยสามัคคี 58/10 ซึ่งในส่วนนี้มีผู้อยู่ประมาณ 30 หลังคา
" ที่ดินในหมู่บ้านประชานิเวศร์ 2 เดิมเป็นที่ดินของการเคหะแห่งชาติ หลังจากนั้นในช่วงปี 2537 การเคหะฯได้ยกถนนในหมู่บ้านให้แก่เทศบาลนนทบุรี ซึ่งทางผู้อยู่อาศัยไม่ได้รับรู้เลย อย่างไรก็ตาม เรื่องของการทุบรั้ว ทางเราก็พบว่า เป็นรถแทกเตอร์ที่มาจากโครงการปริญสิริสามัคคี เนื่องจากเดิมรถแทกเตอร์ของเทศบาลชำรุด ดังนั้น ทางโครงการก็บอกว่าถ้าไม่ทุบ ทางโครงการจะดำเนินการเอง ซึ่งทางคนขับแทกเตอร์ก็บอว่า อยากทุบก็ทุบ "แหล่งข่าวกล่าว
รายงานข่าวจากบริษัทปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ระบุถึงข้อขัดแย้งดังกล่าวว่า ทางบริษัทพยายามปรึกษาหารือกับผู้อยู่อาศัยมาโดยตลอด เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความสบายใจมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ เลยประสานไปยังหน่วยงานดำเนินการแทน เนื่องจากถนนภายในโครงการของบริษัทฯได้ยกให้แก่เทศบาลไปแล้ว
ทั้งนี้ ตามประกาศของเทศบาลนนทบุรี เรื่อง กำหนดการรื้อถอนกำแพงที่ก่อสร้างโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ลงประกาศ ณ วันที่ 6 พ.ค. 51 โดยนายสิทธิพล วงษ์ดนตรี ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ระบุว่า จะดำเนินการรื้อถอนกำแพง ซึ่งก่อสร้างรุกล้ำที่สาธารณะประโยชน์ และกำแพงที่ก่อสร้างดังกล่าวไม่มีเจ้าของ ดังนั้น ทางเทศบาลฯจะดำเนินการรื้อถอนตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.
