สมาคมค้าส่ง-ค้าปลีก มึนปัญหาเศรษฐกิจไทย หลังเกิดปัญหาต้นทุนผลัก รัฐบาลเข้าแทรกแซงกลไกตลาด ทำให้ขยับราคาสินค้าไม่ได้ สบช่องโยนบาปการชุมนุมพันธมิตรฯ ทำให้การใช้จ่ายซบเซาลง
วันนี้ (28 พ.ค.) นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าปลีก-ค้าส่ง ออกมาเปิดเผยว่า เหตุวุ่นวายทางการเมืองขณะนี้ กำลังซ้ำเติมบรรยากาศการใช้จ่ายของประชาชนซบเซาลง โดยเฉพาะคนชั้นกลางจะหันไปออมเงินมากขึ้นและไม่กล้าจับจ่ายเพราะกลัวว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนคนระดับล่างก็อยู่ไม่ได้ เพราะรายได้เพิ่มน้อยกว่ารายจ่าย โดยตอนนี้ปัญหาเรื่องค่าครองชีพ ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบต่อคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ หากยังมีความไม่แน่นอนทางการเมือง และรัฐบาลยังไม่ลงมือแก้ไขอย่างจริงจังจะกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองแน่นอน
ก่อนหน้านี้ นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าไทย กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่มีการชุมนุมของภาคประชาชนว่าอาจทำให้การเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 5% โดยเฉพาะในครึ่งปีหลังที่จะกระทบมาก ซึ่งขณะนี้นักลงทุนต่างชาติกำลังวิตกปัญหาการเมือง เกรงว่าจะเกิดปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้นจึงมีการชะลอการลงทุนไปมาก และหากมีการชุมนุมยืดเยื้อจนเกิดความรุนแรงขึ้น จะทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพการลงทุนและเกิดความไม่มั่นใจต่อการดำเนินธุรกิจทางการค้าและการลงทุน แต่หากชุมนุมไปตามครรลองประชาธิปไตย ก็ไม่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าพูดคุยด้วยเหตุผลมากกว่า ใช้กำลังที่รุนแรงที่จะไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ
นอกจากนี้ สิ่งที่กังวลคือปัญหาราคาน้ำมัน หากสถานการณ์ราคาน้ำมันยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง อาจกระทบอัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยด้วย ซึ่งถือว่าน่าเป็นห่วงเพราะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตสินค้าในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงค่าครองชีพประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งหามาตรการจะกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยเติบโตไม่ต่ำกว่า 5%
