BGH มั่นใจรายได้โต 15% เน้นรักษาฐานคนไข้ในประเทศ พร้อมดึงคนไข้ต่างชาติในตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้ ปีนี้อัดงบ 2.2 พันล้านบาท สร้างโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง ทำให้ปี 53 มีโรงพยาบาลเพิ่มเป็น 22 แห่ง แย้มอาจสร้างเพิ่มอีกในอนาคตหากจังหวะเหมาะ ด้านผู้บริหารระบุใช้สิทธิจองหุ้นเพิ่มทุนของ PYT แน่นอน ส่วนหุ้น RAM ยันถือยาว หลังผลประกอบการไตรมาส 1/51 ออกมาดี
นายแพทย์ชาตรี ดวงเนตร ประธานคณะผู้บริหารศูนย์การแพทย์ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH เปิดเผยว่า BGH ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตที่ 15%จากปีก่อนที่มีรายได้ 18,885 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากคนไข้ในประเทศ 55% และคนไข้ต่างชาติ 45% ซึ่ง BGH จะเน้นกลุ่มคนไข้ในประเทศแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังคงรักษาลูกค้าเดิมในประเทศเพื่อนบ้าน ยุโรป และเอเชีย ในส่วนค่ารักษาพยาบาลบริษัทไม่มีนโยบายปรับขึ้น เพียงแต่จะปรับตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะไม่เกิน 6%
ทั้งนี้ ในปี 51 BGH จะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,200 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาล 3 แห่ง คือโรงพยาบาลที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ประมาณ 1,175 ล้านบาท ขนาดประมาณ 100 เตียง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปลายปี 52 โรงพยาบาลที่อาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต ประมาณ 300 ล้านบาท ขนาด 30 เตียง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงต้นปี 52 และโรงพยาบาลที่หัวหิน ประมาณ 750 ล้านบาท ขนาด 50 เตียง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีหน้า และเปิดให้บริการในปี 53
ปัจจุบันBGH มีโรงพยาบาลทั้งหมด 19 แห่ง ภายใต้แบรนด์ โรงพยาบาลกรุงเทพ 13 สาขา มีเตียงทั้งหมด 2,018 เตียง ,สมิติเวช 3 สาขา จำนวน 775 เตียง, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช 1 สาขา จำนวน 86 เตียง และโรงพยาบาลรอยัล อินเตอร์เนชั่นแนล 2 สาขา จำนวน 80 เตียง เมื่อรวมกับโรงพยาบาลที่กำลังจะสร้างใหม่อีก 3 แห่งที่กล่าวมา จะทำให้บริษัทมีโรงพยาบาลทั้งสิ้น 22 แห่ง ซึ่งในอนาคตหากมีโอกาสบริษัทจะสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่เพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
สำหรับ กรณีการเพิ่มทุนจดทะเบียนของโรงพยาบาลพญาไท (PYT) จำนวน 1,000 ล้านบาท หุ้นละ 1 บาท ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วน 16% นั้น ทาง BGH จะใช้สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนอย่างแน่นอน เพราะใช้เงินไม่มาก ประกอบกับโรงพยาบาลพญาไท ก็เตรียมที่จะออกจากแผนฟื้นฟูภายในปีนี้ ซึ่งมองว่าในอนาคตมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี
อย่างไรก็ตามหากในอนาคตได้ราคาที่น่าพอใจ บริษัทก็อาจจะพิจารณาขายหุ้นทิ้ง ขณะที่ในส่วนบมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ซึ่งBGH ถือหุ้นอยู่ 38.2% BGH ไม่มีนโยบายขายหุ้นออกมา เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีการเติบโตที่ดี โดยในไตรมาส 1/51 BGH มีรายรับจาก RAM 46 ล้านบาท ซึ่งในอนาคตหากราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจก็อาจพิจารณาซื้อหุ้น RAM เพิ่มเติม
นายแพทย์ชาตรี ดวงเนตร ประธานคณะผู้บริหารศูนย์การแพทย์ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH เปิดเผยว่า BGH ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตที่ 15%จากปีก่อนที่มีรายได้ 18,885 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากคนไข้ในประเทศ 55% และคนไข้ต่างชาติ 45% ซึ่ง BGH จะเน้นกลุ่มคนไข้ในประเทศแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังคงรักษาลูกค้าเดิมในประเทศเพื่อนบ้าน ยุโรป และเอเชีย ในส่วนค่ารักษาพยาบาลบริษัทไม่มีนโยบายปรับขึ้น เพียงแต่จะปรับตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะไม่เกิน 6%
ทั้งนี้ ในปี 51 BGH จะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,200 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาล 3 แห่ง คือโรงพยาบาลที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ประมาณ 1,175 ล้านบาท ขนาดประมาณ 100 เตียง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปลายปี 52 โรงพยาบาลที่อาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต ประมาณ 300 ล้านบาท ขนาด 30 เตียง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงต้นปี 52 และโรงพยาบาลที่หัวหิน ประมาณ 750 ล้านบาท ขนาด 50 เตียง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีหน้า และเปิดให้บริการในปี 53
ปัจจุบันBGH มีโรงพยาบาลทั้งหมด 19 แห่ง ภายใต้แบรนด์ โรงพยาบาลกรุงเทพ 13 สาขา มีเตียงทั้งหมด 2,018 เตียง ,สมิติเวช 3 สาขา จำนวน 775 เตียง, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช 1 สาขา จำนวน 86 เตียง และโรงพยาบาลรอยัล อินเตอร์เนชั่นแนล 2 สาขา จำนวน 80 เตียง เมื่อรวมกับโรงพยาบาลที่กำลังจะสร้างใหม่อีก 3 แห่งที่กล่าวมา จะทำให้บริษัทมีโรงพยาบาลทั้งสิ้น 22 แห่ง ซึ่งในอนาคตหากมีโอกาสบริษัทจะสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่เพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
สำหรับ กรณีการเพิ่มทุนจดทะเบียนของโรงพยาบาลพญาไท (PYT) จำนวน 1,000 ล้านบาท หุ้นละ 1 บาท ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วน 16% นั้น ทาง BGH จะใช้สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนอย่างแน่นอน เพราะใช้เงินไม่มาก ประกอบกับโรงพยาบาลพญาไท ก็เตรียมที่จะออกจากแผนฟื้นฟูภายในปีนี้ ซึ่งมองว่าในอนาคตมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี
อย่างไรก็ตามหากในอนาคตได้ราคาที่น่าพอใจ บริษัทก็อาจจะพิจารณาขายหุ้นทิ้ง ขณะที่ในส่วนบมจ.โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ซึ่งBGH ถือหุ้นอยู่ 38.2% BGH ไม่มีนโยบายขายหุ้นออกมา เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีการเติบโตที่ดี โดยในไตรมาส 1/51 BGH มีรายรับจาก RAM 46 ล้านบาท ซึ่งในอนาคตหากราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจก็อาจพิจารณาซื้อหุ้น RAM เพิ่มเติม