หนุ่มใหญ่ไร่มันสำปะหลัง นครสวรรค์ ควงลูกชายเข้าขอความเป็นธรรมกองปราบฯ หลังถูกน้องชายตำรวจใหญ่ในพื้นที่ ยิงสาหัสขณะกลับจากหาหนู-กบ ในท้องนา ย้ำ คดีไม่คืบ ความเป็นอยู่พลิกผัน ต้องเป็นหนี้นอกระบบ นำเงินมารักษาลูก แถมยังถูกข่มขู่เอาเงินฟาดหัวให้เรื่องยุติ ลั่น เงินล้านไม่สามารถเยี่ยวยาจิตใจได้
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองปราบปราม นายสมใจ ทองเที่ยง อายุ 50 ปี อาชีพทำไร่มันสำปะหลัง อยู่บ้านเลขที่ 442 หมู่ 9 ต.แม่วงก์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ พา นายณัญธวัฒน์ ทองเที่ยง อายุ 20 ปี บุตรชาย ซึ่งเป็นนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคแม่วงก์ และสามเณร สุรพล แถมพร อายุ 14 ปี เข้าพบ พ.ต.ท.จาตุรนต์ ทัศน์เอี่ยม พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีที่ นายณัญธวัฒน์ ถูก นายวิชัย โฉมศรี อายุ 53 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกันใช้อาวุธปืนลูกซองยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่ถนนข้างทุ่งนา ต.แม่วงก์ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา
จากการสอบสวน นายสมใจ ให้การว่า วันเกิดเหตุบุตรชายพร้อมด้วยสามเณรสุรพล ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้บวช ได้พากันออกไปหาหนู หากบ ในท้องนา ตามปกติ จนขากลับได้เดินผ่านพื้นที่เลี้ยงวัวของ นายวิชัย ซึ่งขณะนั้นอยู่ในอาการมึนเมาสุรา ก็ได้ใช้ปืนลูกซองยาวยิงใส่บุตรชายของตนจำนวน 1 นัด จนล้มลงโดยไม่ทราบสาเหตุ เณรสุรพล จึงพูดขึ้นว่า ลุงยิงผมทำไม นายวิชัย ก็ยิงมาอีก 1 นัด จึงต้องเงียบเสียง นายวิชัย ก็เลยเดินหนีไป ส่วน นายณัญธวัฒน์ ได้ถูกระสุนเข้าที่ศีรษะจนบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลต้องเย็บถึง 11 เข็ม ตนก็เลยเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ธีระยุทธ ศรีเกตุ พงส.(สบ 2) สภ.แม่วงก์ เพื่อให้ดำเนินคดี นายวิชัย แต่เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะ นายวิชัย มีพี่ชายเป็นตำรวจอยู่ที่ สภ.แม่วงก์
นายสมใจ กล่าวต่อไปว่า จากนั้นได้มีนายตำรวจนายหนึ่งในพื้นที่มาขอเจรจาไกล่เกลี่ย โดยทางฝ่าย นายวิชัย จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญจำนวน 2 แสนบาท แต่หลังจากนั้นได้ขอลดเหลือเพียง 1.3 แสนบาท แต่ตนไม่ยอมรับ ทางฝ่ายนายตำรวจคนดังกล่าวบอกว่า “กำขี้ดีกว่ากำตด” ถ้าไม่รับเงิน ก็จะไม่ได้อะไรเลย พร้อมข่มขู่ต่างๆ นานา ตนจึงต้องข้ออนุญาตแพทย์ นำตัว นายณัญธวัฒน์ ที่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล มาร้องเรียนดังกล่าว
“หลังเกิดเรื่องผมไม่เป็นอันทำมาหากิน ต้องไปกู้หนี้ยืมสินจากเงินนอกระบบมารักษาบุตรชาย ซึ่งหมดเงินไปกว่า 6 หมื่นบาทแล้ว อีกทั้งลูกชายกำลังจะเรียนจบในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว ต้องมานอนรักษาตัวนานนับเดือน นอกจากนี้ ร่างกายเขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ต่อให้เงินล้านก็ไม่สามารถเยียวยาจิตใจของผมและลูกได้แน่นอน จึงอยากให้ตำรวจกองปราบช่วยให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวเราด้วย”
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองปราบปราม นายสมใจ ทองเที่ยง อายุ 50 ปี อาชีพทำไร่มันสำปะหลัง อยู่บ้านเลขที่ 442 หมู่ 9 ต.แม่วงก์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ พา นายณัญธวัฒน์ ทองเที่ยง อายุ 20 ปี บุตรชาย ซึ่งเป็นนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคแม่วงก์ และสามเณร สุรพล แถมพร อายุ 14 ปี เข้าพบ พ.ต.ท.จาตุรนต์ ทัศน์เอี่ยม พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีที่ นายณัญธวัฒน์ ถูก นายวิชัย โฉมศรี อายุ 53 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกันใช้อาวุธปืนลูกซองยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่ถนนข้างทุ่งนา ต.แม่วงก์ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา
จากการสอบสวน นายสมใจ ให้การว่า วันเกิดเหตุบุตรชายพร้อมด้วยสามเณรสุรพล ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้บวช ได้พากันออกไปหาหนู หากบ ในท้องนา ตามปกติ จนขากลับได้เดินผ่านพื้นที่เลี้ยงวัวของ นายวิชัย ซึ่งขณะนั้นอยู่ในอาการมึนเมาสุรา ก็ได้ใช้ปืนลูกซองยาวยิงใส่บุตรชายของตนจำนวน 1 นัด จนล้มลงโดยไม่ทราบสาเหตุ เณรสุรพล จึงพูดขึ้นว่า ลุงยิงผมทำไม นายวิชัย ก็ยิงมาอีก 1 นัด จึงต้องเงียบเสียง นายวิชัย ก็เลยเดินหนีไป ส่วน นายณัญธวัฒน์ ได้ถูกระสุนเข้าที่ศีรษะจนบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลต้องเย็บถึง 11 เข็ม ตนก็เลยเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ธีระยุทธ ศรีเกตุ พงส.(สบ 2) สภ.แม่วงก์ เพื่อให้ดำเนินคดี นายวิชัย แต่เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะ นายวิชัย มีพี่ชายเป็นตำรวจอยู่ที่ สภ.แม่วงก์
นายสมใจ กล่าวต่อไปว่า จากนั้นได้มีนายตำรวจนายหนึ่งในพื้นที่มาขอเจรจาไกล่เกลี่ย โดยทางฝ่าย นายวิชัย จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญจำนวน 2 แสนบาท แต่หลังจากนั้นได้ขอลดเหลือเพียง 1.3 แสนบาท แต่ตนไม่ยอมรับ ทางฝ่ายนายตำรวจคนดังกล่าวบอกว่า “กำขี้ดีกว่ากำตด” ถ้าไม่รับเงิน ก็จะไม่ได้อะไรเลย พร้อมข่มขู่ต่างๆ นานา ตนจึงต้องข้ออนุญาตแพทย์ นำตัว นายณัญธวัฒน์ ที่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล มาร้องเรียนดังกล่าว
“หลังเกิดเรื่องผมไม่เป็นอันทำมาหากิน ต้องไปกู้หนี้ยืมสินจากเงินนอกระบบมารักษาบุตรชาย ซึ่งหมดเงินไปกว่า 6 หมื่นบาทแล้ว อีกทั้งลูกชายกำลังจะเรียนจบในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว ต้องมานอนรักษาตัวนานนับเดือน นอกจากนี้ ร่างกายเขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ต่อให้เงินล้านก็ไม่สามารถเยียวยาจิตใจของผมและลูกได้แน่นอน จึงอยากให้ตำรวจกองปราบช่วยให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวเราด้วย”