รมช.พาณิชย์ เปิดงานแสดงสินค้าอาหารเอเชีย คาดการจัดงาน 5 วัน เชื่อเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท “บรรยิน” ชี้ ชาติเอเชียยกไทยแนวหน้าสินค้าอาหารสำเร็จรูป เนื่องจากมีการพัฒนาศักยภาพต่อเนื่อง เผย ส่งออกอาหารไทยปีที่แล้วกว่า 5 แสนล้านบาท วางเป้าปีนี้เติบเพิ่ม 10% มั่นใจช่วยพัฒนาศักยภาพสินค้าอาหารไทยได้
วันนี้ (21 พ.ค.) พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ กล่าวในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าอาหาร 2551 (THAIFEX-World of Food Asia 2008) หรือไทยเฟกซ์ ณ ศูนย์แสดงสินค้า เมืองทองธานี โดยระบุว่า การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นการแสดงสินค้าอาหารที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดงานหนึ่งในเอเชีย ที่จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ 3 หน่วยงาน ซึ่งงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงการส่งออกสินค้าอาหาร เพราะเป็นการเผยแพร่ศักยภาพของประเทศ-ไทย ในฐานะผู้ผลิตและเป็นศูนย์กลาง การจัดงานแสดงสินค้าอาหารและบริการต่างๆ เกี่ยวข้องกับ อุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้าร่วมแสดงสินค้า กว่า 2,000 คูหา ที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมนับแสนราย และคาดว่า จะช่วยสร้างรายได้ตลอด 5 วัน ในการจัดงานได้กว่า 2 พันล้านบาท
พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า งานในปีนี้ ยังได้รับความสนใจจาก รมว.อุตสาหกรรม และพาณิชย์ของประเทศบาห์เรน ที่ได้นำบรรดานักธุรกิจชั้นนำของประเทศเข้าร่วมชมงาน เพื่อหาแนวทางเพิ่มมูลค่าและขยายความร่วมมือ ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยและบาห์เรนต่อไป
ทั้งนี้ ในปี 2550 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารถึงกว่า 15,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 5 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10 ของยอดส่งการออกโดยรวมของประเทศ และในปี 2551 คาดว่า ยอดส่งออกสินค้าอาหารไทยจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% มูลค่าเกินกว่า 5 แสนล้านบาทแน่นอน
สำหรับเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ (2551) รัฐบาลได้กำหนดไว้ที่ 16,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมูลค่าการส่งออกในไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม-มีนาคม 2008) โดยในกลุ่มส่งออกอาหาร มีมูลค่าไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันในปี 2550 ร้อยละ 32 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสินค้าอาหารมีศักยภาพอย่างมากต่อภาคการส่งออกของไทย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยต่อว่า การจัดงาน THAIFEX ระหว่างวันที่ 21-25 พ.ค.นี้ ณ เมืองทองธานี มีผู้ประกอบการออกบูทกว่า 2,000 คูหาจาก 1,000 บริษัท คาดว่า จะมีผู้เข้าชมงาน นักลงทุนต่างชาติ และชาวไทยนับแสนราย สามารถสร้างรายได้รวมตลอด 5 วัน กว่า 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากปัญหาราคาวัตถุดิบต่างๆ ถีบตัวสูงขึ้นนั้น พ.ต.ท.บรรยิน ระบุว่า ย่อมกระทบต่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มสินค้าอาหารแปรรูป และอาหารสำเร็จรูปนั้น จะได้รับผลกระทบน้อยกว่าสินค้าภาคเกษตร เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้เพิ่มมูลค่า ทำให้สามารถทำกำไรได้สูงกว่า