xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กก่อสร้างQ1กำไรทรงตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในเมืองไทย โชว์ตัวเลผลประกอบการไตรมาสแรก ส่วนใหญ่กำไร แต่ไม่มาก "อิตัลไทย"กำไร 66 ล้านบาทเทียบกับ 238 ล้านบาทในไตรมาสแรกปี 50 "ซินเท็ค"กำไร 38.89 ล้านบาทเทียบ 50.65 ล้านบาท ด้านบริษัทแอสคอนฯกลุ่มก๊วนอดีตรัฐบาลชุดเก่าขาดทุน 4.09 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท

ความไม่แน่นอนทางการเมือง ประกอบกับแนวโน้มของราคาวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาเหล็ก ซึ่งได้ปัจจัยกระทบจากราคาน้ำมันที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ได้กดดันให้ภาคธุรกิจต่างๆต้องบริหารจัดการในการควบคุมต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อมิให้กระทบต่อตัวเลขฐานะทางการเงินของบริษัท

ล่าสุด ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาสแรกของปี 51 (ม.ค.-มี.ค.)ที่ทยอยประกาศผลประกอบการออกมา ในส่วนของบริษัทรับเหมาก่อสร้างพบว่า บริษัทหลายแห่งยังคงมีผลกำไรสุทธิอยู่ เพียงแต่อัตราการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิไม่สูง บางแห่งมีกำไรสุทธิลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 50

โดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ "อิตัลไทย" มีกำไรสุทธิ 66.80 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 50 ที่มีกำไรสุทธิถึง 238.31 ล้านบาท บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 97.87 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 96.930 ล้านบาท บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 5 ล้านบาท (จาก 16.46 ล้านบาท) เนื่องจากในปี 2551 บริษัทฯมีผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เลิกดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น จํานวน 18 ล้านบาท กําไรขั้นต้นลดลง จํานวน 7 ล้านบาทเนื่องจากรายได้จากงานก่อสร้างลดลงประมาณ 23 % ประกอบกับรายได้อื่นๆลดลงจำนวน 3 ล้านบาทและ มีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นจำนวน 3 ล้านบาท

บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) มีผลกำไรสุทธิ 38.898 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ 50.656 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 50 ลดลง 11.758 ล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลง 23.21% บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิ 106.03 ล้านบาท เทียบกับผลขาดทุนสุทธิในงวดไตรมาสแรกปี 50 ที่ 475.25 ล้านบาท เนื่องจากโครงการก่อสร้างที่ประสบปัญหาขาดทุนหลายโครงการได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วในปี 2550 อย่างไรก็ตาม โครงการที่บริษัทประสบปัญหาการก่อสร้างยังคงมีอยู่ เช่น โครงการก่อสร้างสะพาน 4 สะพานที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา ขณะที่โครงการก่อสร้างอื่น ๆ ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและราคาวัสดุก่อสร้างหลัก หลายรายการปรับราคาสูงขึ้นมาก รวมทั้งค่าจ้างเหมาแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในส่วนที่เป็นแรงงานฝีมือ ทั้งนี้ ในส่วนที่เป็นโครงการของภาครัฐ บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินชดเชยบางส่วนจากค่าปรับราคาค่าก่อสร้าง แต่ในส่วนงานภาคเอกชน ไม่ได้รับชดเชยใด ๆ ที่สำคัญแล้ว จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ลูกหนี้การค้าของงานโครงการก่อสร้างทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ชำระค่าก่อสร้างล่าช้า ทำให้บริษัทต้องรับภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น

สำหรับบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) มีผลขาดทุนสุทธิ 4.09 ล้านบาทจากกำไรสุทธิ 15.21 ล้านบาท ขณะที่บริษัท

แต่สิ่งที่ต้องจับตามองอย่างมาก คือ การที่บริษัท เค-เทค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เดินเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาขาดทุนจำนวนมาก โดยงวดบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.50 มีผลขาดทุนสุทธิ 977.45 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.49 ขาดทุนสุทธิ 18.35 ล้านบาท การขาดทุนเพิ่มขึ้น เกิดจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการก่อสร้างที่เกี่ยวกับรายได้ การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายทั่วไปและ ค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร การเพิ่มขึ้นของค่าปรับต่างๆ รวมทั้งเงินพิเศษ (surcharges) และการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่สงสัยจะสูญ
กำลังโหลดความคิดเห็น