เค-เทค คอนสตรัคชั่น โผล่แจ้งงบงวด 9 เดือนที่ขาดทุนสุทธิกว่า 927 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 2 บาท หลังเจอพิษต้อนทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้น ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ แขวน "SP" ยาว หลังผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเชื่อมั่นและอาจส่งผลกระทบต่อฐานะบริษัท
นายโดมินิค เดอ เคโวเคียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค-เทค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTECH กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุด 30 กันยายน 2550 ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 809.59 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.75 บาท เทียบกับปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1.14 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท ขณะที่งวด 9 เดือนขาดทุนสุทธิรวม 927.44 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 2.00 บาท ขณะที่ปีก่อนกำไรสุทธิ 3.56 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท
สำหรับสาเหตุที่บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้นนั้น เกิดจากปัจจัยหลักเรื่องการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการก่อสร้างที่เกี่ยวกับรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน อาทิ ค่าใช้จ่ายทั่วไปและค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร ค่าปรับต่างๆ รวมทั้งเงินพิเศษ (surcharges) และหนี้ที่สงสัยจะสูญ
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขและฐานะการเงินที่ปรากฏอยู่ในงบการเงินสำหรับไตรมาสที่ 3/2550 สิ้นสุด ณ วันที่30 กันยายน 2550 นี้ ไม่กระทบกับตัวเลขและฐานะการเงินในงบประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ที่บริษัทได้นำส่งไปเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2551
ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังคงประกาศห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ KTECH ต่อไป แม้ว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินประจำไตรมาส 3 เรียบร้อยแล้ว แต่ผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นต่องบการเงินของ KTECH ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของ KTECH ที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อาจสั่งการให้ KTECH แก้ไขงบการเงินดังกล่าวได้
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) หลักทรัพย์ของ KTECH ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2550 เนื่องจากบริษัทไม่ได้นำส่งงบการเงินประจำไตรมาส 3 ปี 2550
นอกจากนี้ ยังคงเครื่องหมาย NP (Notice Pending) ต่อไปจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่า KTECH ไม่ต้องแก้ไขงบการเงินไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 และงบการเงินประจำปี 2550 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550
นายโดมินิค เดอ เคโวเคียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค-เทค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTECH กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุด 30 กันยายน 2550 ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 809.59 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.75 บาท เทียบกับปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1.14 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท ขณะที่งวด 9 เดือนขาดทุนสุทธิรวม 927.44 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 2.00 บาท ขณะที่ปีก่อนกำไรสุทธิ 3.56 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท
สำหรับสาเหตุที่บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้นนั้น เกิดจากปัจจัยหลักเรื่องการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการก่อสร้างที่เกี่ยวกับรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน อาทิ ค่าใช้จ่ายทั่วไปและค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร ค่าปรับต่างๆ รวมทั้งเงินพิเศษ (surcharges) และหนี้ที่สงสัยจะสูญ
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขและฐานะการเงินที่ปรากฏอยู่ในงบการเงินสำหรับไตรมาสที่ 3/2550 สิ้นสุด ณ วันที่30 กันยายน 2550 นี้ ไม่กระทบกับตัวเลขและฐานะการเงินในงบประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ที่บริษัทได้นำส่งไปเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2551
ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังคงประกาศห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ KTECH ต่อไป แม้ว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินประจำไตรมาส 3 เรียบร้อยแล้ว แต่ผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นต่องบการเงินของ KTECH ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของ KTECH ที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อาจสั่งการให้ KTECH แก้ไขงบการเงินดังกล่าวได้
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) หลักทรัพย์ของ KTECH ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2550 เนื่องจากบริษัทไม่ได้นำส่งงบการเงินประจำไตรมาส 3 ปี 2550
นอกจากนี้ ยังคงเครื่องหมาย NP (Notice Pending) ต่อไปจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่า KTECH ไม่ต้องแก้ไขงบการเงินไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2550 และงบการเงินประจำปี 2550 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550
