xs
xsm
sm
md
lg

แก้"คอนโดวัน"กระทบแสนสิริ ขาดทุน 254 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แสนสิริฯ งวดไตรมาสแรก แสดงผลขาดทุน 254 ล้านบาท ผลกระทบหลักเกิดจากการปรับเปลี่ยนแบบอาคารชุดกลุ่มโครงการคอนโด วันเครือพลัสฯ ขาดทุนจากการแก้แบบเกือบ 380 ล้านบาท ด้านพลัสฯปรับกลยุทธ์เร่งก่อสร้างโครงการอื่นๆให้เร็ว เพื่อส่งมอบลูกค้า ค่ายแลนด์ฯระบุไตรมาสแรก กำไร 676 ล้านบาท รายได้รวมขยับจากบริษัทร่วมทุนเพิ่ม 105.03 ล้านบาท แต่รายได้จากการขายลดลงกว่า 200 ล้านบาท

หลังจากที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก แห่เข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาอยู่อาศัยในเมืองมากขึ้น ในภาวะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ส่งผลโครงการคอนโดฯที่เปิดตัวได้ไม่นาน สามารถปิดการขายอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้ประกอบการจำนวนมาก ไม่ต้องการเสียโอกาสทอง จึงดำเนินการก่อสร้างอาคารโดยยังไม่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้าง แต่อาศัยมาตรา 39 ทวิ ซึ่งสามารถก่อสร้างก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตก่อสร้าง และล่าสุด โครงการของผู้ประกอบการบางแห่ง จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบของโครงการใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)

นายวันจักร์ บุรณศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้รายงานผลการดำเนินงานของบริษัท ประจำไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.นี้ ปรากฏว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงเกินกว่า 20 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาสนี้ แสดงผลขาดทุนที่ประมาณ 254 ล้านบาท(ได้หักส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของบริษัทย่อย จำนวน 25.809 ล้านบาท) ลดลงอย่างมีสาระสำคัญ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 42 ล้านบาท รายได้รวมลดลงเล็กน้อย 4 % หรือประมาณ 112 ล้านบาทจาก 2,690 ล้านบาทเป็น 2,578 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายรวมเพิ่มขึ้น 9 %จาก 2,566 ล้านบาทเป็น 2,789 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 224 ล้านบาท

" การเพิ่มขึ้นของค่าใช่จ่ายรวมดังกล่าว มีสาระสำคัญหลักจากผลของการปรับเปลี่ยนแบบอาคารชุดพักอาศัยของกลุ่มโครง การคอนโด วัน จำนวน 11 โครงการ "นายวันจักร์ กล่าว

อนึ่ง ในงบกำไรขาดทุนระบุว่า งบรวมในส่วนของค่าใช้จ่าย มีรายการขาดทุนจากการแก้ไขแบบอาคารชุดพักอาศัย 379.346 ล้านบาท (งบเฉพาะขาดทุน 19.920 ล้านบาท) ขณะที่ ผลประกอบการในปี 2550 รายได้รวมทั้งกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 13,88.54 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 707.93 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทพลัสฯ ได้วางแนวทางในการดำเนินการ เพื่อสร้างรายรับของพลัสฯในปี51 เพื่อชดเชยการเสียโอกาสทางธุรกิจ ที่อาจมีบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งพลัสฯ ได้ปรับเป้ารายได้ปีนี้ให้สูงขึ้นกว่าเดิมจาก 7,000 ล้านบาท เป็น 7,200 ล้านบาท โดยมีแนวทางเพิ่มเติมในการเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยอื่นๆ ได้แก่ โครงการทาวน์เฮาส์ และคอนโดฯอื่นๆ อาทิ โครงการมายคอนโด เพื่อส่งมอบกับลูกค้าให้เร็วขึ้น

ในส่วนของบริษัทปริญสิริ จำกัด (มหาชน) เร่งดำเนินการดูแลลูกค้าในส่วนของโครงการคอนโดฯ The PULSE พหลโยธิน 37 ทั้ง 2 อาคาร ที่ขณะนี้ได้หยุดการก่อสร้างแล้ว ตามคำสั่งของสำนักงานการโยธากทม. แยกเป็นเมื่อถึงช่วงเวลาโอนกรรมสิทธิ์และลูกค้าขอยกเลิกสัญญา ทางบริษัทฯจะคืนเงินพร้อมบวกคืนดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าในอัตรา 7.5% ต่อปี ส่วนที่ลูกค้าไม่ขอคืนเงิน แต่ต้องการสิทธิ์ซื้อห้องชุด ทางบริษัทจะจ่ายค่าปรับให้ลูกค้า ซึ่งเดิมตามแผนจะโอนให้แก่ลูกค้าได้ในไตรมาส 2 ปี 51 แต่ต้องเลื่อนออกไปคาดว่าจะเริ่มโอนได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยทางบริษัทจะจ่ายค่าปรับตามอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 0.01% ต่อวันตามราคาห้องชุด

ก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานนนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ชี้ว่า มีโครงการคอนโดฯกว่า 100 โครงการ ที่มีปัญหาและอยู่ระหว่างการพิจารณาของบอร์ดสวล.

**LHรายได้จากการขายบ้านลดลง

นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH กล่าวว่า ไตรมาสแรกปี 51 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 676.79 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิจำนวน 530.04 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 146.75 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 27.69% เกิดขึ้นเนื่องจากรายได้ตามส่วนได้เสียจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้นจำนวน 105.03 ล้านบาท จากผลประกอบการที่ดีขึ้นของบริษัทร่วม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงจากปีก่อน จำนวน 39.51 ล้านบาท แต่หากพิจารณาในส่วนของรายได้จากการขายกลับลดลงมาอยู่ที่ 3,678.214 ล้านบาท หรือลดลงมาประมาณ 229 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น