xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.คึกหนุนกำไรบล. Q1 พุ่ง "ซีมีโก้-กิมเอ็ง" นำโด่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บริษัทหลักทรัพย์พาเหรดโกยกำไรไตรมาส 1/51 หลังจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น กว่า 7 พันล้านบาท นำโดย บล.ซีมิโก้ ที่กำไรสุทธิโตกว่า 6 พันเปอร์เซ็นต์ ส่วน "กิมเอ็งฯ" กำไรสูงสุด 166 ล้านบาท ขณะที่ แอ๊ดคินซัน พลิกสถานการณ์จากขาดทุน 106.98 ล้านบาท เป็นกำไร 136.39 ล้านบาท จากกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย

บรรยากาศการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ได้ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ที่มีรายได้หลักจากค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยไตรมาส 1/51 ตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์รวม 1,187,312.92 ล้านบาท เฉลี่ยวันละ 18,846.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,046.16 ล้านบาท จากไตรมาส 1/50 ที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 11,800.08 ล้านบาท

ผลการรวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์ ประจำไตรมาส 1/51 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 51 ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งสิ้น 7 บริษัท จากจำนวนบล.ที่จะทะเบียนทั้งสิ้น 13 บริษัท ปรากฏว่า บล.ทุกแห่งมีผลกำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิในงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ที่มีผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 3 อันดับแรก คือ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO กำไรสุทธิ 32.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 5 แสนบาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 31.70 ล้านบาท คิดเป็น 6,340%
อันดับสอง บล. แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL กำไรสุทธิ 136.39 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนขาดทุนสุทธิ 106.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 234.37 ล้านบาท หรือ 227.49% และอันดับสาม บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST กำไรสุทธิ 166.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 65.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.18 ล้านบาท หรือ 154.43%

นางดวงรัตน์ วัฒนพงศ์ชาติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO กล่าวว่า ไตรมาสแรกปี 51 บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 84 ล้านบาท หรือ 50% เกิดจากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 45 ล้านบาท หลังจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 79% ขณะที่ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มขึ้น 63% และส่วนแบ่งตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 3.5% เป็น 3.9% รวมถึงรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 12 ล้านบาท จากส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นจาก 1.8% เป็น 4.8%

ทั้งนี้ ผลตอบแทนจากการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทเพิ่มขึ้นปีก่อน 31 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีผลกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีบริษัท 15 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีบริษัท 16 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทได้รับผลกระทบจากผลขาดทุนจากบริษัทย่อยประมาณ 5 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทย่อยอยู่ในระยะเริ่มดำเนินการรายได้จึงยังไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

นายสดาวุธ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล. แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL กล่าวว่า บริษัทรายได้รวมเพิ่มขึ้น 234.02 ล้านบาท เป็น 307.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 317.62% มาจากรายได้ค่านายหน้าเพิ่มขึ้น 43.37 ล้านบาท เป็น 128.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51.11% ตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น 157.64 ล้านบาท เป็น 165.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,980.40% เนื่องจากบริษัทได้รับชำระหนี้ตั๋วแลกเงินจากบจก.อู่เชิดชัยอุตสาหกรรม จำนวน 2 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย 151.40 ล้านบาท และกำไรจากการขายทรัพย์สิน 4.16 ล้านบาท ขณะที่บริษัทขาดทุนจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 21.27 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 35.07 ล้านบาท หรือ 62.25%

นายภูษิต แก้วมงคลศรี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST กล่าวว่า บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 154.43% เนื่องจากรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 85.56% จากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น คือ ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 1,718 ล้านบาท เป็น 3,129 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนรายย่อย และปริมาณการซื้อขายโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯ

นอกจากนี้ รายได้จากค่านายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 23.75 ล้านบาท เป็น 34.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 225.72% เนื่องมาจากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 473 สัญญา เป็น 1,669 สัญญา ซึ่งเป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายโดยรวมของตลาดอนุพันธ์

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. บีฟิท จำกัด (มหาชน) หรือ BSEC แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/51 ว่า งบการเงินเฉพาะกิจการบริษัทมีกำไรสุทธิ 55.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.09 ล้านบาท หรือ 118.23% เนื่องจากรายได้รวมเพิ่มขึ้น 71.73 ล้านบาท หรือคิดเป็น 52.98% โดยที่รายได้หลักของบริษัท คือ ค่านายหน้าจาการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 36.49 ล้านบาท คิดเป็น 34.91% เป็น 141.02 ล้านบาท เป็นผลจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่สูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน

สำหรับรายการกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 24.33 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทรับรู้ผลกำไรในบัญชีเงินลงทุนบริษัททั้งจากการขายและการปรับมูลค่าตามราคาตลาด รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 7.59 ล้านบาท หรือ 106.01% ซึ่งเป็นผลจากธุรกิจวานิชธนกิจของบริษัทซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 10.20 ล้านบาท หรือ 313.85% เป็นผลจากการบริหารจัดการการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์จากธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์แก่ลูกค้า

นายสุวิทย์ มาไพศาลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA กล่าวว่า บริษัทมีรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 56.24 ล้านบาท เป็น 266.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26.78% ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่น้อยกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัท หลังจากบริษัทได้ปรับอัตราค่าธรรมเนียมการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์กับเมอร์ริลลินช์เป็นแบบลักษณะคู่ค้า (Exclusive Partner) ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุญาตตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 50

ขณะเดียวกัน รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่เพิ่มขึ้น 44.80 ล้านบาท เป็น 62.13 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้ที่ปรึกษาทางการเงินและการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนให้กับบริษัทจัดการกองทุนรวมต่างๆ

นางสาววรางคณา วสุวานิช ผู้บังคับบัญชาสายงานการเงิน บล. พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/51 สิ้นสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 51 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 34.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 68.67% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20.65 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 40.54 ล้านบาท เช่นเดียวกับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 19.62 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการด้านตราสารหนี้และการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 10.09 ล้านบาท จากการขายหลักทรัพย์เผื่อขายและโอนกลับขาดทุนจากการด้อยค่าของหลักทรัพย์นี้

นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้อำนวยการ บล. บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS แจ้งว่า ไตรมาส 1/51 บริษัทมีกำไรสุทธิ 53.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43.29% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37.65 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 87.21 ล้านบาท หรือ 79.69% จากมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมและส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ที่เพิ่มขึ้นจาก 8.57 ล้านบาท เป็น 17.36 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น