xs
xsm
sm
md
lg

บล.ธนชาตคาดอนุพันธ์อิงตปท. ตั้งเป้าปี51แชร์ตลาดนี้ให้ได้4%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บล.ธนชาต คาดตลาดอนุพันธ์ช่วงนี้อิงกับปัจจัยต่างประเทศ พร้อมต้องจับตาการเมืองในประเทศ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ ด้านบริษัทตั้งเป้ามาร์เกตแชร์ในตลาดอนุพันธ์ที่ 4% เผยการเทรด Options ยังต้องใช้เวลา เพื่อให้นักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ขณะที่การนำสินค้าใหม่เข้าเทรดช่วงปลายปีจะเป็นการเพิ่มทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุน

นายสมบูรณ์ วัฒนาอาษากิจ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บล.ธนชาต กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยและตลาดอนุพันธ์ช่วงนี้จะอิงกับปัจจัยต่างประเทศ หลังแนวโน้มดัชนีดาวโจนส์ที่ดีขึ้น เมื่อความกังวลเกี่ยวกับปัญหาซับไพรม์ลดลง แต่ยังต้องติดตามปัญหาการเมืองในประเทศว่าการแก้รัฐธรรมนูญของรัฐบาลและการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ จะออกมาเป็นอย่างไร รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งกระทบกับต้นทุนการผลิตและกำลังซื้อของประชาชน

"โดยส่วนตัวคิดว่าตลาดทุนในช่วงนี้จะเคลื่อนไหวอิงกับปัจจัยต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ดียังต้องจับตาปัญหาการเมืองในประเทศ ซึ่งส่งผลกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ หลังจากปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะกระทบกับต้นทุนการผลิต ตลอดจนการใช้จ่ายของประชาชน และในส่วนของบริษัทปีนี้ตั้งเป้ามาร์เกตแชร์ในตลาดอนุพันธ์ที่ 3-4% จากปัจจุบันที่อยู่ที่ประมาณ 2% โดยเป็นนักลงทุนรายย่อยในประเทศเกือบทั้งหมด ซึ่งบริษัทจะพยายามเพิ่มในส่วนของนักลงทุนสถาบันรวมถึงนักลงทุนต่างชาติ แต่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป" นายสมบูรณ์ กล่าว

สำหรับกรณี SET 50 Index Options ที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นสินค้าที่ค่อนข้างใหม่สำหรับนักลงทุนทั่วไป ดังนั้น ต้องให้เวลาในการศึกษาและทำความเข้าใจ ขณะนี้เดียวกันต้องเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้กับนักลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้ในระหว่างนี้มีการระดมความคิดและข้อเสนอแนะเข้าไปเพื่อปรับปรุงรายละเอียดของสัญญา ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการหาข้อสรุป

ส่วนการนำสินค้าใหม่คือ Gold Futures และ Stock Futures เข้ามาเทรดในช่วงเดือนกันยายนและเดือนพฤศจิกายนมองว่าเป็นเรื่องดีที่จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนมากขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่า Stock Futures น่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากกว่า เนื่องจากเป็นสินค้าที่อ้างอิงกับหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทย ขณะที่เป็นหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่กลุ้มองสูงและมีมาร์เกตแคปใหญ่ ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักลงทุนโดยส่วนใหญ่อยู่แล้ว ต่างกับ Gold Futures ยังถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับนักลงทุนทั่วไป

" แม้ SET 50 Index Options จะเข้าเทรดได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องทำความเข้าใจค่อนข้างมาก ต้องใช้เวลาสักพักดังนั้นต้องใช้เวลา ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะค่อยๆ ดีขึ้น ขณะที่การนำสินค้าใหม่เข้ามาเทรดในช่วงปลายปีจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนมากขึ้น แต่จะเป็นเรื่องที่ดีกับตลาด โดยสินค้าใหม่ที่น่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากกว่าคือ Stock Futures เนื่องจากอ้างอิงกับหุ้นที่นักลงทุนส่วนใหญ่รู้จักอยู่แล้ว" นายสมบูรณ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น