แรงซื้อกลุ่มแบงก์-อสังหาฯ หนุนดัชนีภาคเช้าปิดบวก 3.92 จุด พร้อมกับมีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน นักวิเคราะห์ฯ ชี้พื้นฐาน 3 แบงก์ขนาดใหญ่แข็งแกร่ง นักลงทุนซื้อกลับเข้าพอร์ต
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันนี้ (13 พ.ค.) ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ 846.14 จุด เพิ่มขึ้น 3.92 จุด เปลี่ยนแปลง +0.47% มูลค่าการซื้อขาย 8,824 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์ อสังหาฯที่พักตัวไปตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มพลังงานมีแรงขายทำกำไรออกมาส่วนหนึ่งเพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มอ่อนตัวลง แนวโน้มช่วงบ่ายคาดยัง sideway
โดยบรรยากาศในการซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 848.48 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 843.85 จุด
ทั้งนี้ พบว่าหุ้นกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ มีการซื้อขายอย่างคึกคัก โดยเฉพาะหุ้นของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL , ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ราคาวิ่งขึ้นแรงยกแผง และมีวอลุ่มเทรดที่หนาแน่น
โดยเมื่อเวลา 11.31 น. ราคาหุ้น SCB อยู่ที่ 91.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท (+2.81%) มูลค่าซื้อขาย 256.93 ล้านบาท , หุ้น BBL ราคาอยู่ที่ 133.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท (+2.31%) มูลค่าซื้อขาย 224.57 ล้านบาท และหุ้น KBANK ราคาอยู่ที่ 88.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท(+2.33%) มูลค่าซื้อขาย 333.61 ล้านบาท
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการส่วนวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ กล่าวถึงราคาหุ้นในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ทั้ง 3 ตัว ซึ่งปรับขึ้นแรงในวันนี้ เป็นเทคนิคเคิลรีบาวน์ เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก ช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ระดับราคาอยู่ในจุดที่น่าสนใจ เพราะมีแนวโน้มทางธุรกิจที่ยังดีอยู่ และมีปัจจัยพื้นฐานดีด้วย จึงคาดว่าทำให้นักลงทุนน่าจะมีการทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ตเพื่อลงทุนระยะยาว
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และอสังหาริมทรัพย์ที่พักตัวไปตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่หนาแน่นเพียงพอ
ส่วนกลุ่มพลังงานมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ ส่วนหนึ่งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มอ่อนตัวลง ล่าสุดหลุด 124 ดอลลาร์ต่อบาเรล หากมองโดยภาพรวม ถ้ากลุ่มพลังงานพักตัวลำพังแค่แบงก์กับอสังหาฯ อย่างเดียว คงยังไม่เพียงพอที่จะดันให้ดัชนี Break ตัวยอดเดิมที่ 856 จุด วอลุ่มวันนี้ไม่หนาแน่นแค่ 8,000 กว่าล้านบาท
แนวโน้มช่วงบ่ายเคลื่อนไหวยังมอง sideway ออกด้านข้างมากกว่า แนวรับ 835 จุด แนวต้าน 855 จุด คาดแกว่งตัวอยู่ในกรอบนี้ไปตลอดสัปดาห์ จับตาเรื่องผลประกอบการ จะสังเกตหุ้นหลายตัวที่ผลประกอบการออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ราคาปรับลงมาค่อนข้างมาก เช่น หุ้นโรงกลั่น
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 564.57 ล้านบาท ปิดที่ 188.00 บาท ลดลง 1.00 บาท , PTT มูลค่าการซื้อขาย 532.44 ล้านบาท ปิดที่ 346.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง , KBANK มูลค่าการซื้อขาย 453.26 ล้านบาท ปิดที่ 88.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 431.70 ล้านบาท ปิดที่ 444.00 บาท ลดลง 4.00 บาท , PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 404.07 ล้านบาท ปิดที่ 32.23 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
