FNS ไตรมาสนี้กำไรทรุด 94% ผลจากรายได้รวมลดลง โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาการเงินและการลงทุน รวมทั้งรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทร่วม
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) (FNS ) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.79 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 45.49 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิลดลง 42.7 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 94%
เนื่องจาก บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้รวมลดลง 110.9 ล้านบาท หรือลดลง 28 % ผลจากการรับรู้ส่วนแบ่งผลขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 18.2 ล้านบาท เทียบกับการบันทึกส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 84.4 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นการลดลงของรายได้102.6 ล้านบาท หรือลดลง 122 %
นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนก็ลดลง 102.1 ล้านบาท หรือลดลง 82 % ผลจากการขายบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจดังกล่าวออกไป อย่างไรก็ ตาม บริษั ท และบริษัทย่อยมีรายได้อื่น77.3 ล้านบาท เพิ่ มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่บันทึกไว้ที่ 1.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรจากธุรกรรมการลงทุนในต่างประเทศ และรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ยังเพิ่มขึ้นจาก 89.8 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปีก่อนเป็น 107.2 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 17.4 ล้านบาท หรือ 19%
ขณะที่รายได้รวมมีจำนวนลดลง ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนก็ลดลงเช่นกัน โดยเป็นยอดลดลง 68.0 ล้านบาทหรือลดลง
20 % ซึ่งมี สาเหตุห ลัก มาจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงิ นและการ ลงทุนลดลง 45.0 ล้านบาท หรือลดลง 57 %และค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหารลดลง 23.7 ล้านบาท หรือลดลง 27%
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) (FNS ) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.79 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 45.49 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิลดลง 42.7 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 94%
เนื่องจาก บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้รวมลดลง 110.9 ล้านบาท หรือลดลง 28 % ผลจากการรับรู้ส่วนแบ่งผลขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 18.2 ล้านบาท เทียบกับการบันทึกส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 84.4 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นการลดลงของรายได้102.6 ล้านบาท หรือลดลง 122 %
นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนก็ลดลง 102.1 ล้านบาท หรือลดลง 82 % ผลจากการขายบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจดังกล่าวออกไป อย่างไรก็ ตาม บริษั ท และบริษัทย่อยมีรายได้อื่น77.3 ล้านบาท เพิ่ มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่บันทึกไว้ที่ 1.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรจากธุรกรรมการลงทุนในต่างประเทศ และรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ยังเพิ่มขึ้นจาก 89.8 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปีก่อนเป็น 107.2 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 17.4 ล้านบาท หรือ 19%
ขณะที่รายได้รวมมีจำนวนลดลง ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนก็ลดลงเช่นกัน โดยเป็นยอดลดลง 68.0 ล้านบาทหรือลดลง
20 % ซึ่งมี สาเหตุห ลัก มาจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงิ นและการ ลงทุนลดลง 45.0 ล้านบาท หรือลดลง 57 %และค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหารลดลง 23.7 ล้านบาท หรือลดลง 27%
