xs
xsm
sm
md
lg

เลี้ยบฝันหวานจีดีพีโตแน่ 6% หนุนหวยพม. 1.28 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หมอเลี้ยบ” หวังมาตรการภาษีอัดฉีดเศรษฐกิจโตได้ถึง 6% ปลื้มเอสเอ็มแอลเพิ่มเงินในกระเป๋าประชาชน ฟุ้งกำลังเร่งออกมาตรการใหม่เพิ่มรายได้คนไทยตามค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นควบคู่กับการดูแลเงินเฟ้อ พร้อมออกมาตรการประหยัดพลังงาน โดยส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนให้มากขึ้น

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะพยายามรักษาอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยให้มีอัตราการขยายตัว 6% ในทุกไตรมาส หลังจากที่ตัดเลขการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมารัฐบาลสามารถผลัดดันให้สามารถเติบโตได้ที่ระดับ 6%

ทั้งนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจในระดับดังกล่าวเป็นผลมาจากที่รัฐบาลออกมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่รากหญ้าตามนโยบายเอสเอ็มแอลทำให้ประชาชนมั่นใจในการใช้จ่ายเนื่องจากมีเม็ดเงินในกระเป๋ามากขึ้นและทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคเอกชนขยายการลงทุนมากขึ้นเพราะมีความเชื่อมั่นจานโยบายของรัฐบาลมากขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นไม่มาก

"ภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่เหลืออีก 3 ไตรมาส จะโตได้ถึง 6% หรือไม่เป็นเรื่องของความเชื่อมั่น ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศมาตรการต่างๆ รองรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ซึ่งจะทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจขยายตัวมากขึ้นและทำให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้นในส่วนของภาคเอกชนที่จะลงทุนเพิ่มขึ้นตาม" นพ.สุรพงษ์ กล่าว

นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า การขยายตัวของจีดีพีที่ระดับ 6% ในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมานั้นเป็นการขยายตัวบนพื้นฐานเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับ 4.0-5.0% และเงินเฟ้อได้มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในเดือนเมษายนซึ่งเป็นเดือนแรกของไตรมาสที่ 2 เนื่องมาจากราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ประชาชนตระหนักว่าในอนาคตราคาสินค้าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนทำให้ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น

ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการต่อไปอย่างเร่งด่วนคือการออกมาตรการเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนตามค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นมาตรการที่รัฐบาลจะออกมาควบคู่กับการดูแลเงินเฟ้อ ซึ่งยืนยันว่าจะไม่ใช้วิธีควบคุมราคาสินค้าหรือบิดเบือนโครงสร้างราคา ขณะที่จะออกมาตรการด้านการประหยัดพลังงานควบคู่กันโดยส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนให้มากขึ้น

ส่วนที่กังวลกันว่าอัตราดอกเบี้ยจะติดลบเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่องนั้น เรื่องนี้รัฐบาลพยายามดูแลไม่ให้เงินเฟ้อสูงขึ้นมาก ซึ่งเงินเฟ้อที่สูงอยู่ในขณะนี้สาเหตุมาจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นไม่ใช่ต้นทุนจากอุปสงค์ ขณะที่เรื่องอัตราดอกเบี้ยติดลบนั้นได้หารือกันในเบื้องต้นแล้วกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่ายังไม่เกิดปัญหานี้

“นอกจากมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่รัฐบาลพยายามผลักดันออกมาแล้วนั้นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากกว่าคือการสร้างรากฐานของเศรษฐกิจในระยะยาวให้มีความแข็งแกร่ง โดยเน้นการให้ความรู้เสริมสร้างทักษะให้กับประชาชนมากขึ้น” นพ.สุรพงษ์กล่าว

***หนุนสลากพิเศษ พม.

นพ.สุรพงษ์กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เตรียมออกสลากการกุศลฉบับพิเศษ 1.28 หมื่นล้านบาท ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการออกสลากดังกล่าวโดยขอศึกษาหลักการและรายละเอียดจำนวนสลากที่ออกว่ามีความพร้อมสอดคล้องกับงบประมาณที่ตั้งไว้หรือไม่ ซึ่งหากการออกสลากการกุศลเกิดประโยชน์กับสังคมโดยรวมกระทรวงการคลังก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน อย่างไรก็ตาม หากหลักการในการออกสลากดังกล่าวมีความชัดเจนก็เชื่อว่าจะสามารถเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้โดยเร็ว
กำลังโหลดความคิดเห็น