“หมัก” ฉุนข่าวงาบผลประโยชน์ ขึ้นราคาข้าว-น้ำตาล พร้อมท้าสาบาน หากได้รับผลประโยชน์สักบาทเดียว ขอให้มีอันไป ลั่นต่างคนต่างอยู่กับนักข่าว พร้อมใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันเข้าจัดการ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ สนทนาประสาสมัคร
วันนี้ (4 พ.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT กรมประชาสัมพันธ์ โดยระบุถึงกรณีการปรับขึ้นราคาข้าวและราคาน้ำตาลทราย โดยปฏิเสธข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ที่ระบุว่า ตนเองได้รับผลประโยชน์จำนวนกว่า 500 ล้านบาท จากการปั่นราคาข้าวและการประกาศขึ้นราคาน้ำตาล โดยยืนยันว่าไม่เป็นความเป็นจริง พร้อมกับท้าสาบานว่า หากได้รับผลประโยชน์สักบาทเดียวขอให้มีอันไป
“ถ้าผมหากินกับน้ำตาล ไปยุ่งเกี่ยวหรือได้มาสักบาท ต้องให้มีอันบรรลัยวายวอดทั้งวงศ์ตระกูล อย่าได้มีความเจริญในบ้านเมืองนี้ในวันข้างหน้า แต่ถ้าผมไม่ได้เป็นอย่างนั้น ไม่ได้แตะต้องสักบาทเดียว ผมทำเพื่อบ้านเมือง ทำเพื่อคนปลูกอ้อย ก็ขอให้คนเขียนคอลัมน์มีอันเป็นไป ให้บรรลัยวายวอดให้ทันตาเห็น ผมบอกว่าผมทำให้ ผมไม่ได้ทำเอา”
นายสมัคร กล่าวถึงการแก้ปัญหาราคาอ้อย ที่รัฐบาลตัดสินใจขึ้นราคาให้เป็น 807 บาทต่อตันนั้น เพราะได้ไปพบปะหารือกับเกษตรกรชาวไร่อ้อยมาแล้ว และเห็นใจที่เกษตรกรต้องแบกรับเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ของตลาดมากมาย และพร้อมช่วยเหลือในเรื่องของน้ำและชนิดพันธุ์อ้อยเพื่อทำให้ราคาน้ำตาลปรับขึ้นอีก
“เรื่องทั้งหมดนี้มาจากความเห็นชอบของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล และนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเพื่อลงมติเห็นชอบ แต่กลับมีสื่อบางฉบับกล่าวหาว่า ตนเองมีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ ซึ่งขอยืนยันและสาบานว่าเป็นการดำเนินการบริหารอย่างตรงไปตรงมา ทำบนข้อเท็จจริง” นายสมัคร กล่าวและเพิ่มเติมว่า
อย่างนี้ก็คงต้องต่างคนต่างอยู่ กับสื่อมวลชนต้องประเภทตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ต้องพูดจากันไม่เสนอข่าวก็ไม่เป็นไร
“ถ้าไม่ตัดสินใจ และไม่ดำเนินการ จะไปทำตอนไหน จะนั่งรอเหรอ ผมไม่รอหรอก ผมทำเพราะผมรู้ว่าวงจรเขาควบคุมอยู่ เงินเขาต้องจ่ายให้ทางนี้ (ชาวไร่) ได้ ไม่ว่าจะขึ้นราคาเวลาไหน สตางค์มันอยู่ที่โรงงานน้ำตาลที่เขาคุมสตอกกันอยู่ ผมไม่ได้คิดอะไรอื่น ถ้ามานั่งรอให้ถึงหีบอ้อยเดือน พ.ย.นายกฯ อาจไม่ได้ชื่อสมัคร ก็ได้”
ส่วนปัญหาราคาข้าว นายสมัคร ตั้งข้อสังเกตกรณีถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่ทำข้าวถุงจัดจำหน่าย โดยยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการที่ทำให้ราคาข้าวของชาวนาต้องตกต่ำลง แต่เป็นการระบายข้าวในสตอกของ 3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม นายสมัคร ยังได้รับปากจะดูแลปัญหาของประชาชนหลายเรื่องจากการตอบจดหมายในรายการ โดยเฉพาะราคาค่ารถโดยสารและการปรับขึ้นเงินเดือนค่าราชการ
นายสมัคร ระบุว่า สถานการณ์ข้าวในประเทศขณะนี้ไม่มีปัญหา และยังมีพอเพียงที่จะส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ส่วนที่ราคาข้าวแพงเป็นไปตามกลไกตลาด แต่ระยะหลังรัฐบาลมีความคิดที่จะเข้าไปแทรกแซงราคาในตลาด เพราะข้าวบรรจุถุงมีราคาสูงถึง 200 บาท จึงได้จัดโครงการข้าวบรรจุถุงราคาถูกออกมาจำหน่ายให้กับประชาชน โดยเป็นข้าวหอมมะลิกว่า 3 แสนตัน และข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์อีก 1 ล้านตัน ซึ่งข้าวจำนวน 3 แสนถุงแรก คาดว่า จะผลิตออกจำหน่ายได้ภายในวันที่ 12 พ.ค.นี้
นายสมัคร ยังกล่าวอีกว่า รายการนี้เลิกไม่ได้เแม้จะพูดอยู่ข้างเดียว เพราะมีไว้เพื่อตอบโต้สื่อและชี้แจงต่อสาธารณชนให้ทราบข้อเท็จจริง มาถึงป่านนี้แล้วไม่จำเป็นต้องวิ่งเข้าหาสื่อมวลชนอีกแล้ว ตนมีช่องทางไว้เผยแพร่ข่าวสารและจะยังคงหยุดให้สัมภาษณ์ต่อไปในวันอังคารและวันศุกร์