สุขภัณฑ์ “สตาร์” เตรียมขึ้นราคาสินค้าอีก 5% หลังต้นทุนพลังงานพุ่งไม่หยุด พร้อมหันทำตลาดในประเทศเพิ่มลดความเสี่ยงค่าบาท ยันเงินบาทแข็งค่ากระทบน้อย เหตุใช้เงินสกุลอื่นซื้อขาย ตั้งเป้ารายได้ปี 51 เติบโต 30% จาก 220 ล้านบาท
นายสมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการอำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต-จำหน่ายสุขภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “สตาร์ “ เปิดเผยว่า จากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นตามจนไม่สามารถแบกรับไว้ได้ บริษัทจึงมีแผนที่จะปรับราคาสินค้าขึ้นอีกประมาณ 5% ในช่วงครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับแผนการขายใหม่ ด้วยการหันมาเจาะตลาดในประเทศมากขึ้น พร้อมกับปรับลดสัดส่วนการส่งออกไปต่างประเทศเหลือ 60-65% จากก่อนหน้านี้ส่งออก 70 % ของกำหลังการผลิตทั้งสิ้น 1 ล้านชิ้น/ปี และได้ตั้งเป้ายอดขายรวมเติบโต 30% จากปีก่อนที่มียอดขายกว่า 220 ล้านบาท
การปรับแผนการขายใหม่ในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงสวนทางกับค่าเงินบาทนั้น บริษัทได้รับผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากตลาดหลักอยู่ในกลุ่มประเทศยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งใช้เงินยูโรหรือเงินเยน
“ตั้งแต่ทำธุรกิจส่งออก การซื้อขายจะใช้สกุลเงินของประเทศคู่ค้าแทนที่จะเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะง่ายต่อการแลกเปลี่ยน สะดวกต่อลูกค้าเองด้วย ซึ่งมาตอนนี้ทำให้เราได้รับผลกระทบน้อยกว่าผู้ส่งออกรายอื่น” นายสมชัยกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังต้องการเพิ่มโอกาสทางการตลาดและการขาย หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาฯ โดยจะรุกตลาดในประเทศเพิ่มมากขึ้น เน้นการทำตลาดค้าปลีกเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ เจ้าของบ้านที่ต้องการซ่อม หรือ สร้างบ้าน จึงได้เพิ่มพนักงานขาย(PC) ตามร้านค้าต่างๆเพิ่มจากที่อดีตจะเน้นเพียงบางจุดหรือบางร้านค้าเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ได้นำเอาสินค้าบางรุ่น บางคอลเลคชั่นที่เดิมผลิตเพื่อเน้นการทำการตลาดในต่างประเทศมาขายในประเทศ โดยจะเปิดตัวในงานสถาปนิก 51 ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.-4 พ.ค.นี้ ณ อิมแพค เมืองทองธานี จำนวน 2 คอลเลคชั่นคือ Black & White สุขภัณฑ์ที่มีรูปแบบจำลองจากส่วนโค้งส่วนเว้าของหญิงสาว ออกแบบผสมผสานระหว่างรูปทรงเลขาคณิต กับความโค้งมน เน้นสีขาวสลับดำ และ Zero Touch เน้นรูปทรงกลมมน เพื่อส่งเสริมการตลาดและการขาย จึงได้ตั้งงบส่งเสริมการขายไว้ที่ 10 ล้านบาท
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ผลิตสุขภัณฑ์รายใหญ่จากต่างประเทศ ได้เข้ามาซื้อ(เทคโอเวอร์)โรงงานผลิตสุขภัณฑ์ไทย จนกลายเป็นอินเตอร์แบรนด์ แต่เชื่อว่าไม่น่าห่วงในเรื่องของการแข่งขัน เพราะบริษัทมีจุดแข็งที่มีความยืดหยุ่น มีความคล่องตัวในการตัดสินใจ ในขณะที่บริษัทข้ามชาติจะต้องรอนโยบายบริษัทแม่ก่อนถึงตัดสินใจได้
ล่าสุด ยักษ์สุขภัณฑ์จากเยอรมนี เจ้าของแบรนด์ วิลเลอร์รอย แอนด์ บอช หรือ( Villeroy & Boch : V&B) ได้เข้ามาซื้อบริษัท นามสุขภัณฑ์ จำกัดนั้น ที่มีตระกูล “เพ็ญชาติ “ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
นายสมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการอำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต-จำหน่ายสุขภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “สตาร์ “ เปิดเผยว่า จากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นตามจนไม่สามารถแบกรับไว้ได้ บริษัทจึงมีแผนที่จะปรับราคาสินค้าขึ้นอีกประมาณ 5% ในช่วงครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับแผนการขายใหม่ ด้วยการหันมาเจาะตลาดในประเทศมากขึ้น พร้อมกับปรับลดสัดส่วนการส่งออกไปต่างประเทศเหลือ 60-65% จากก่อนหน้านี้ส่งออก 70 % ของกำหลังการผลิตทั้งสิ้น 1 ล้านชิ้น/ปี และได้ตั้งเป้ายอดขายรวมเติบโต 30% จากปีก่อนที่มียอดขายกว่า 220 ล้านบาท
การปรับแผนการขายใหม่ในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงสวนทางกับค่าเงินบาทนั้น บริษัทได้รับผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากตลาดหลักอยู่ในกลุ่มประเทศยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งใช้เงินยูโรหรือเงินเยน
“ตั้งแต่ทำธุรกิจส่งออก การซื้อขายจะใช้สกุลเงินของประเทศคู่ค้าแทนที่จะเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะง่ายต่อการแลกเปลี่ยน สะดวกต่อลูกค้าเองด้วย ซึ่งมาตอนนี้ทำให้เราได้รับผลกระทบน้อยกว่าผู้ส่งออกรายอื่น” นายสมชัยกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังต้องการเพิ่มโอกาสทางการตลาดและการขาย หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาฯ โดยจะรุกตลาดในประเทศเพิ่มมากขึ้น เน้นการทำตลาดค้าปลีกเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ เจ้าของบ้านที่ต้องการซ่อม หรือ สร้างบ้าน จึงได้เพิ่มพนักงานขาย(PC) ตามร้านค้าต่างๆเพิ่มจากที่อดีตจะเน้นเพียงบางจุดหรือบางร้านค้าเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ได้นำเอาสินค้าบางรุ่น บางคอลเลคชั่นที่เดิมผลิตเพื่อเน้นการทำการตลาดในต่างประเทศมาขายในประเทศ โดยจะเปิดตัวในงานสถาปนิก 51 ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.-4 พ.ค.นี้ ณ อิมแพค เมืองทองธานี จำนวน 2 คอลเลคชั่นคือ Black & White สุขภัณฑ์ที่มีรูปแบบจำลองจากส่วนโค้งส่วนเว้าของหญิงสาว ออกแบบผสมผสานระหว่างรูปทรงเลขาคณิต กับความโค้งมน เน้นสีขาวสลับดำ และ Zero Touch เน้นรูปทรงกลมมน เพื่อส่งเสริมการตลาดและการขาย จึงได้ตั้งงบส่งเสริมการขายไว้ที่ 10 ล้านบาท
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ผลิตสุขภัณฑ์รายใหญ่จากต่างประเทศ ได้เข้ามาซื้อ(เทคโอเวอร์)โรงงานผลิตสุขภัณฑ์ไทย จนกลายเป็นอินเตอร์แบรนด์ แต่เชื่อว่าไม่น่าห่วงในเรื่องของการแข่งขัน เพราะบริษัทมีจุดแข็งที่มีความยืดหยุ่น มีความคล่องตัวในการตัดสินใจ ในขณะที่บริษัทข้ามชาติจะต้องรอนโยบายบริษัทแม่ก่อนถึงตัดสินใจได้
ล่าสุด ยักษ์สุขภัณฑ์จากเยอรมนี เจ้าของแบรนด์ วิลเลอร์รอย แอนด์ บอช หรือ( Villeroy & Boch : V&B) ได้เข้ามาซื้อบริษัท นามสุขภัณฑ์ จำกัดนั้น ที่มีตระกูล “เพ็ญชาติ “ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่