จัดสรรปรับกลยุทธ์หนีต้นทุนวัสดุแพง ชะลอพัฒนาโครงการใหม่ เน้นระบายสต็อกเดิมรอสถานการณ์ราคาวัสดุนิ่ง เชื่อทาวน์เฮาส์ใกล้เมืองปรับราคาขายรับต้นทุนใหม่ คาดความต้องการลูกค้าบ้านเดี่ยวเปลี่ยนหันซื้อทาวน์เฮาส์ เหตุความสามารถการผ่อนลูกค้าหดตามอัตราเงินเฟ้อ กานดาฯปรับแผนชะลอโครงการใหม่เร่งระบายสต็อก เหตุต้นทุนผันผวนหนักล่าสุดปรับขึ้นกว่า 20%
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการปรับตัวของราคาวัสดุก่อสร้างเช่น ปูน เหล็ก และต้นทุนการขนส่งที่ปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ เพื่อรอดภาวการณ์ปรับตัวของต้นทุนการก่อสร้าง โดยในช่วงที่ผ่านมาต้นทุนวัสดุก่อสร้างโดยรวมปรับตัวขึ้นมาแล้ว 20% ในขณะที่มีวัสดุก่อสร้างบ้านเท่านั้นที่ยังไม่มีการปรับขึ้นราคา เช่น สุขภัณฑ์ กระเบื้อง เนื่องจากยังมีทางเลือกในการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน
ทั้งนี้ เชื่อว่าตลาดบ้านระดับ 2 - 4 ล้านบาท จะยังชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ โดยผู้ประกอบการจะหันมาระบายสต็อกบ้านเดิมที่มีอยู่ออกไป เพื่อลดต้นทุนด้านดอกเบี้ยและต้นทุนการก่อสร้าง เนื่องจากไม่สามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างบ้านได้ เพราะราคาวัสดุก่อสร้างยังผันผวน ในขณะเดียวกันกำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลงจากภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวบริหารต้นทุน โดยชะลอการพัฒนาโครงการออกไป ในขณะที่ตลาดโครงการแนวสูงนั้น ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายที่ชะลอการพัฒนาโครงการออกไป เนื่องจากไม่สามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างที่ยังปรับตัวต่อเนื่องได้
“โครงการอาคารชุดนั้น ต้นทุนการก่อสร้างหลักกว่า 35% มาจากเหล็กซึ่งใช้เป็นโครงสร้างหลักของตัวอาคาร จากช่วงต้นปีถึงปัจจุบันและจากช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ราคาเหล็กขึ้นไปแล้วกว่า 100% ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างผันผวนหนัก ทำให้ผู้ประกอบการหยุดการก่อสร้างโครงการ เพื่อปรับปรุงรูปแบบโครงการใหม่ พร้อมกันนี้ก็ได้มีการปรับราคาขายใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการก่อสร้างจริงในปัจจุบัน ดังนั้น เชื่อว่าในปีนี้จะเห็นได้ว่าจำนวนการเปิดตัวโครงการแนวสูงโครงการใหม่จะมีจำนวนลดลง เพื่อรอให้ราคาวัสดุก่อสร้างนิ่ง ก่อนที่จะมีการพัฒนาโครงกรใหม่”
นายอิสระ กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วคาดว่าโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่จะมีการปรับราคาก่อน คือกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ใกล้เมือง ซึ่งคาดว่าจะได้รับการสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านเดี่ยว แต่กำลังซื้อลดลงทำให้ต้องปรับเปลี่ยนความต้องการมาซื้อทาวน์เฮาส์แทนเพื่อให้เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนส่งของลูกค้าเอง
ทั้งนี้ ในส่วนของ กานดาฯ เองในปีนี้ได้มีการปรับกลยุทธ์การทำตลาดใหม่ จากเดิมที่จะเน้นการพัฒนาโครงการใหม่ออกมารองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้า ซึ่งเดิมทีเชื่อว่าจะมีการเร่งการตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เนื่องจากต้องการโอนบ้านให้ทันกับมาตรการทางภาษี แต่หลังจากที่ต้นทุนการก่อสร้างปรับตัวขึ้นทำให้ต้องปรับรูปแบบการทำตลาดใหม่โดยหันมาเน้นการระบายสต็อกเดิมออกไป และชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ออกไปเพื่อรอให้ต้นทุนการก่อสร้างนิ่งการจะมีการพัฒนาโครงการใหม่ซึ่งจะต้องปรับราคาขายขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริง
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการปรับตัวของราคาวัสดุก่อสร้างเช่น ปูน เหล็ก และต้นทุนการขนส่งที่ปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ เพื่อรอดภาวการณ์ปรับตัวของต้นทุนการก่อสร้าง โดยในช่วงที่ผ่านมาต้นทุนวัสดุก่อสร้างโดยรวมปรับตัวขึ้นมาแล้ว 20% ในขณะที่มีวัสดุก่อสร้างบ้านเท่านั้นที่ยังไม่มีการปรับขึ้นราคา เช่น สุขภัณฑ์ กระเบื้อง เนื่องจากยังมีทางเลือกในการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน
ทั้งนี้ เชื่อว่าตลาดบ้านระดับ 2 - 4 ล้านบาท จะยังชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ โดยผู้ประกอบการจะหันมาระบายสต็อกบ้านเดิมที่มีอยู่ออกไป เพื่อลดต้นทุนด้านดอกเบี้ยและต้นทุนการก่อสร้าง เนื่องจากไม่สามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างบ้านได้ เพราะราคาวัสดุก่อสร้างยังผันผวน ในขณะเดียวกันกำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลงจากภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวบริหารต้นทุน โดยชะลอการพัฒนาโครงการออกไป ในขณะที่ตลาดโครงการแนวสูงนั้น ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายที่ชะลอการพัฒนาโครงการออกไป เนื่องจากไม่สามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างที่ยังปรับตัวต่อเนื่องได้
“โครงการอาคารชุดนั้น ต้นทุนการก่อสร้างหลักกว่า 35% มาจากเหล็กซึ่งใช้เป็นโครงสร้างหลักของตัวอาคาร จากช่วงต้นปีถึงปัจจุบันและจากช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ราคาเหล็กขึ้นไปแล้วกว่า 100% ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างผันผวนหนัก ทำให้ผู้ประกอบการหยุดการก่อสร้างโครงการ เพื่อปรับปรุงรูปแบบโครงการใหม่ พร้อมกันนี้ก็ได้มีการปรับราคาขายใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการก่อสร้างจริงในปัจจุบัน ดังนั้น เชื่อว่าในปีนี้จะเห็นได้ว่าจำนวนการเปิดตัวโครงการแนวสูงโครงการใหม่จะมีจำนวนลดลง เพื่อรอให้ราคาวัสดุก่อสร้างนิ่ง ก่อนที่จะมีการพัฒนาโครงกรใหม่”
นายอิสระ กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วคาดว่าโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่จะมีการปรับราคาก่อน คือกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ใกล้เมือง ซึ่งคาดว่าจะได้รับการสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านเดี่ยว แต่กำลังซื้อลดลงทำให้ต้องปรับเปลี่ยนความต้องการมาซื้อทาวน์เฮาส์แทนเพื่อให้เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนส่งของลูกค้าเอง
ทั้งนี้ ในส่วนของ กานดาฯ เองในปีนี้ได้มีการปรับกลยุทธ์การทำตลาดใหม่ จากเดิมที่จะเน้นการพัฒนาโครงการใหม่ออกมารองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้า ซึ่งเดิมทีเชื่อว่าจะมีการเร่งการตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เนื่องจากต้องการโอนบ้านให้ทันกับมาตรการทางภาษี แต่หลังจากที่ต้นทุนการก่อสร้างปรับตัวขึ้นทำให้ต้องปรับรูปแบบการทำตลาดใหม่โดยหันมาเน้นการระบายสต็อกเดิมออกไป และชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ออกไปเพื่อรอให้ต้นทุนการก่อสร้างนิ่งการจะมีการพัฒนาโครงการใหม่ซึ่งจะต้องปรับราคาขายขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริง