xs
xsm
sm
md
lg

ทริสฯคงอันดับทุนธนชาติที่A/Stable บริหารความเสี่ยงดีกระจายธุรกิจสำเร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ บ. ทุนธนชาต ที่ระดับ "A/Stable" ผลจากความสามารถของผู้บริหาร และความสำเร็จระบบบริหารความเสี่ยงและการกระจายธุรกิจสู่ฐานรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดำเนินแนวทางแบงก์พานิชย์เต็มรูปแบบ คาดจะช่วยให้เกิดการขยายตัวและสร้างรายได้ในระยะยาวให้แก่กลุ่ม

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกัน (TCAP103A) ของบริษัทที่ระดับ "A" ด้วยแนวโน้ม "Stable" หรือ "คงที่" โดยอันดับเครดิตสะท้อนฐานะการเป็นบริษัทโฮลดิ้งของกลุ่มธนชาต ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลจากการถือหุ้น 74.92% ในบริษัทลูกคือ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) อันดับเครดิตพิจารณาถึงความสามารถของคณะผู้บริหารของบริษัท ผลสำเร็จในการพัฒนาระบบการบริหารความเสี่ยง และการกระจายธุรกิจสู่ฐานรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังพิจารณาถึงการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจธนาคารภายใต้แนวทางธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เกิดการขยายตัวและสร้างรายได้ในระยะยาวให้แก่กลุ่ม การบรรลุผลในการเกื้อหนุนซึ่งกันและกันภายในกลุ่มยังเป็นสิ่งที่ต้องรอการพิสูจน์ และคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวให้แก่กลุ่มได้ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีผลกระทบจากการที่กลุ่มธนชาตมีมูลค่าทางธุรกิจ (Franchise Value) ที่จำกัดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ รวมถึงปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่เอื้ออำนวยน้อยลงซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวทางธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรของกลุ่ม

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงความคาดหมายว่าพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อที่เหลืออยู่จะยังสร้างกระแสเงินสดให้แก่บริษัททุนธนชาตและบริษัทจะได้รับรายได้เงินปันผลจากธนาคารธนชาต การมีคณะผู้บริหารที่มีความสามารถ ระบบบริหารความเสี่ยงที่ดี และฐานเงินทุนที่เพียงพอน่าจะช่วยลดความเสี่ยงของบริษัทในอนาคตได้

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัททุนธนชาตถือหุ้นจำนวน 74.94% ในบริษัทลูกคือธนาคารธนชาตซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจภายใต้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ และเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มธนชาต ในปี 50 ธนาคารจึงได้ซื้อบริษัทลูก 8 แห่งจากบริษัททุนธนชาต ในเดือนกรกฎาคม 50 บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ Bank of Nova Scotia (BNS) เพื่อลงทุนในธนาคารธนชาต และมีผลให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของธนาคารธนชาตเปลี่ยนแปลงไป

โดยสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารธนชาตของบริษัทลดลงจาก 99.36% เป็น 74.92% ณ วันที่ 15 มกราคม 51 และ BNS มีสัดส่วน 24.98% เมื่อพิจารณาจากขนาดของสินทรัพย์ตามงบการเงินรวม ณ สิ้นเดือนธันวาคม 50 แล้ว บริษัทจัดอยู่ในอันดับที่ 8 ในบรรดาธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบทั้ง 14 แห่งของไทย บริษัทได้พัฒนาคณะผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถให้การสนับสนุนบริษัทลูกคือธนาคารธนชาตให้แข่งขันได้และมีความยืดหยุ่นในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ภายใต้การปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ บริษัททุนธนชาตมีพัฒนาการในการเปลี่ยนแปลงจนเป็นบริษัทโฮลดิ้งของกลุ่มธนชาตอย่างค่อยเป็นค่อยไป บริษัทได้พัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงโดยรวมอย่างต่อเนื่อง จนสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และคณะผู้บริหารที่มากประสบการณ์ก็มีผลงานที่เป็นที่ยอมรับ การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อในระดับสูง และการแข่งขันที่สูงในธุรกิจธนาคารพาณิชย์อาจมีผลจำกัดการขยายตัวและความสามารถในการทำกำไรของธนาคารธนชาตและบริษัทลูกรายอื่นๆ ที่ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพใน 2-3 ปีข้างหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น