แบงก์พาณิชย์ เร่งอัดเงินสดกว่า 1.2 แสนล.เข้าสู่ระบบ ทั้งสาขาและตู้เอทีเอ็ม เชื่อเพียงพอต่อความต้องการใช้ 13-16 เม.ย.ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่แบงก์ชาติ เตรียมสำรองเงิน 2.84 แสนล. สำหรับการใช้ในเดือนนี้
วันนี้(13 เม.ย.) รายงานข่าวจากธนาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธนาคารต่างๆ ได้เตรียมความพร้อมในการสำรองเงินสดผ่านระบบสาขา และตู้บริการเงินด่วน (เอทีเอ็ม) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่าง วันที่ 13-16 เม.ย.นี้ ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่และขนาดกลางจำนวนเกือบ 10 แห่ง ได้สำรองเงินสดผ่านสาขาและตู้เอทีเอ็มรวม 120,000 ล้านบาท โดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) สำรองเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด จำนวน 20,000 ล้านบาท
ขณะที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) สำรองเงินดสด 16,580 ล้านบาท แบ่งเป็น กทม. 12,000 ล้านบาท และต่างจังหวัด 6,380 ล้านบาท โดยธนาคารกสิกรไทยสำรองลดลงจากปีก่อน 800 สาขา เกิดจากมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิดสำรองเงินสดใหม่ โดยคำนวณจากลูกค้าเบิกจ่ายจริง ซึ่งในกรุงเทพฯ จะเน้นเติมเงินในตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่ในจุดชุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ส่วนต่างจังหวัดเน้นสำรองผ่านตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่ในจังหวัดใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น เชียงใหม่ และภูเก็ต สำหรับธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้สำรองเงินสดผ่านสาขาและตู้เอทีเอ็ม 18,000 ล้านบาท
ด้านธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) สำรองเงินสดจำนวน 16,285 ล้านบาท แบ่งเป็น กทม. 3,270 ล้านบาท และต่างจังหวัด 13,015 ล้านบาท โดยสำรองเพิ่มจากปีที่แล้ว 10,108 ล้านบาท เนื่องจากได้เพิ่มตู้เอทีเอ็มจากปีแล้วกว่า 1,000 ตู้ และเพิ่มสาขาอีกกว่า 60 สาขา ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สำรองเงินสด 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสำรองผ่านเอทีเอ็ม 12,000 ล้านบาท และสาขา 8,000 ล้านบาท และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด(มหาชน) สำรองเงินสด 5,500 ล้านบาท และธนาคารไทยสำรองเงินสด 5,000 ล้านบาท
นางจิตติมา ดุริยะประพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายจัดการธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้สำรองธนบัตรไว้เพื่อรองรับต่อความต้องการใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ มูลค่ากว่า 284,200 ล้านบาท โดยพิจารณาจากความต้องการใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่คาดว่าในเดือน เม.ย.นี้ คาดว่าจะมียอดเบิกเงินของธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 137,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่เพิ่มขึ้น 9.9%
ส่วนสาเหตุที่ยอดเบิกจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยนั้น เนื่องจากช่วงปลายเดือน ธ.ค.50 ถึง ม.ค.51 มีเงินออกสู่ระบบจำนวนมาก ทั้งช่วงเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน และช่วงเลือกตั้ง ประกอบกับประชาชนยังมีความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศไม่ดีนัก ทำให้ประชาชนยังไม่เร่งที่จะจับจ่ายใช้สอย
อย่างไรก็ตาม การประมาณการเบิกจ่ายธนบัตรครั้งนี้ คงไม่ได้สะท้อนถึงปริมาณการใช้จ่ายทั้งหมดได้ เพราะผู้บริโภคบางส่วนใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตด้วย โดยมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลก็อาจจะทำให้มีแนวโน้มการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า ถึงแม้การเดินทางท่องเที่ยวในปะเทศของนักท่องเที่ยวชาวไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้มีแนวโน้มถดถอยลงจากปี 2550 เล็กน้อย โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศรวมทั้งสิ้นประมาณ 2.28 ล้านคน ลดลง 1.7% จากช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีที่ผ่านมา เพราะปัญหาเศรษฐกิจและราคาน้ำมันแพง แต่จากค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวคนไทยในช่วงสงกรานต์มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3%
