xs
xsm
sm
md
lg

ศก.โลกเจ๊งซับไพรม์แล้ว 9.45 แสนล.ดอลลาร์ ไอเอ็มเอฟ จี้ใช้มาตรการเด็ดขาดแทรกแซง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไอเอ็มเอฟ ประเมินผลกระทบซับไพรม์ทั่วโลกเจ๊งไปแล้ว 9.45 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมคาดการณ์ว่า ผลกระทบกำลังลุกลามไปยังสินเชื่อประเภทอื่นแล้ว แนะรัฐบาลแต่ละประเทศ ต้องใช้มาตรการเด็ดขาดเข้าไปแทรกแซงสถาบันการเงิน เตรียมหั่นตัวเลขการเติบโต ศก.โลก วันนี้

วันนี้(9 เม.ย.) สำนักข่าวเอพีรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้เปิดเผยรายงานเรื่อง "เสถียรภาพการเงินโลก" โดยระบุว่า ผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตสินเชื่อบ้านที่ปล่อยกู้แก่ผู้มีเครดิตต่ำกว่ามาตรฐาน (ซับไพรม์) อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจทั่วโลกโดยรวมประมาณ 9.45 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมระบุถึงความเสียหายที่เกิดจากสินเชื่อซับไพรม์อันเนื่องจากราคาบ้านตกต่ำลง และผู้กู้ผิดนัดชำระค่างวดนั้นอาจสูงถึง 5.65 แสนล้านดอลลาร์ และเมื่อรวมกับความเสียหายที่เกิดกับสินเชื่อประเภทอื่น อาทิ สินเชื่ออสังหาฯเพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งสินเชื่อบริโภค จะมีความเสียหายรวมกัน 9.45 แสนล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ความเสียหายจริงที่เกิดขึ้นจากการขาดทุนจากวิกฤตสินเชื่อในสหรัฐ สำนักข่าวหลายแห่งมีการประเมินว่าอาจสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากการบันทึกผลขาดทุนของสถาบันการเงินที่ผ่านมาอาจต่ำกว่าความเป็นจริง

โดยรายงานข่าวบนเว็บไซท์ บลูมเบิร์กดอทคอม ระบุว่า ราคาบ้านที่ลดลง และการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่การขาดทุนจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นมูลค่า 565 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ผลขาดทุนทั้งสิ้นซึ่งรวมถึงการขาดทุนจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ อาจเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 945 พันล้านดอลลาร์

รายงานดังกล่าว ยังระบุอีกว่า วิกฤตการเงินกำลังแพร่กระจายไปนอกเหนือจากตลาดสินเชื่อซับไพรม์ โดยกระทบไปยังตลาดสินเชื่ออสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ชั้นดี , สินเชื่อบริโภค ตลอดจนสินเชื่อที่ปล่อยกู้แก่บริษัททั่วไปด้วย

ขณะเดียวกันไอเอ็มเอฟ ยังประเมินด้วยว่า อาจมีการขาดทุนอีก 90 พันล้านดอลลาร์ ในกรณีที่มีการลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทผู้ประกันตราสารหนี้

ทั้งนี้ การคาดการณ์ของไอเอ็มเอฟ ส่งสัญญาณว่า ภาวะเลวร้ายที่ของสถานการณ์ตลาดสินเชื่อตึงตัวอาจยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากจนถึงขณะนี้บริษัทหลักทรัพย์และธนาคารหลายแห่งมีการขาดทุนและการบันทึกผลขาดทุนเพียง 232 พันล้านดอลลาร์ ด้านรัฐบาลหลายประเทศแสดงความกังวลว่างบดุลที่ลดลงของผู้ให้บริการสินเชื่อจะฉุดรั้งการขยายตัวเศรษฐกิจ และจะกดดันให้มีการเพิ่มทุนด้วย

ดังนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลของแต่ละประเทศ จะต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาดในการเข้าแทรกแซงสถานการณ์สถาบันการเงินต่างๆ เพราะสภาพการณ์ของตลาดเงินยังคงผันผวน และอาจขยายวงกว้างสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงขึ้นอีก

โดยในวันนี้ คาดว่า ไอเอ็มเอฟ จะเปิดเผยการคาดการที่เกี่ยวกับการลดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก พร้อมกับยอมรับว่า เศรษฐกิจสหรัฐ กำลังชะลอตัวลงอย่างรุนแรงทั้งนี้ ซึ่งรายงานของ ไอเอ็มเอฟ ครั้งนี้ มีขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมด้านการเงินโลก ที่สำนักงานของไอเอ็มเอฟ ที่กรุงวอชิงตันดีซี เมืองหลวงของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น