xs
xsm
sm
md
lg

"เอสโซ่" ลั่นเข้าเทรด 6 พ.ค.นี้ เตรียมบินโรดโชว์ ตปท.สัปดาห์หน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอสโซ่ ประกาศความพร้อมเทรดในกระดาน 6 พ.ค.นี้ เคาะราคาขายจริง 23 เม.ย. นี้ แบ่งสัดส่วนในประเทศ 50% และต่างประเทศ 50% เตรียมโรดโชว์ต่างชาติ สัปดาห์หน้า

นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายตลาดตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด(มหาชน) หรือ PHATRA กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยระบุว่า บริษัทจะทำการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1099.6 ล้านหุ้น ของ เอสโซ่ ในวันที่ 21-22 เม.ย.นี้ โดยในจำนวนหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นของกระทรวงการคลังจำนวน 326.3 ล้านหุ้น ซึ่งบริษัทยังมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินอีกจำนวนไม่เกิน 84.6 ล้านหุ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวบริษัทแบ่งเป็นการเสนอขายให้กับนักลงทุนในประเทศ 50% และนักลงทุนต่างประเทศ 50% ส่วนราคาขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) น่าจะสามารถกำหนดได้ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ หรือหลังจากวันที่เปิดจองซื้อขายเรียบร้อยแล้ว และจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ในวันที่ 6 พ.ค.นี้ โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า "ETL"

นายอนุวัฒน์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าบริษัทจะเดินทางไปโรดโชว์ในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ สหรัฐ และยุโรป เพราะได้มีการจัดสรรให้นักลงทุนต่างประเทศด้วย

ทั้งนี้ เอสโซ่ จะเสนอขายหุ้น IPO รวม 1,099,583,300 หุ้น กำหนดช่วงราคา 9-13 บาท/หุ้น ระยะเวลาจองซื้อสำหรับผู้จองซื้อรายย่อยและบุคคลทั่วไป 21-22 เม.ย.51 ส่วนนักลงทุนสถาบันกำหนดให้จองซื้อได้ 23-25, 28 เม.ย.51 โดยจัดสรรเสนอขายต่อนักลงทุนสถาบันไม่เกิน 228,571,400 หุ้น, เสนอขายต่อบุคคลทั่วไป 159,320,300 หุ้น, เสนอขายต่อผู้จองซื้อรายย่อย 161,900, 000 หุ้น และเสนอขายต่อผู้ลงทุนในต่างประเทศจำนวนรวมไม่เกิน 549,791,600 หุ้น

นายมงคลนิมิตร เอื้อเชิดกุล กรรมการ บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนและเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อธุรกิจ จึงยังไม่สามารถประเมินรายได้และกำไรในปีนี้ เพราะจะต้องพิจารณาค่าการกลั่นประกอบด้วย แต่เชื่อว่าน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งรายได้ในปีก่อนมาจากธุรกิจการกลั่น 80-90% ที่เหลือมาจากธุรกิจปิโตรเคมี

ส่วนการที่ภาครัฐตรึงราคาน้ำมันมองว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท และแผนการลงทุนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะลงทุนในการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน Euro4 มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เพราะเม็ดเงินดังกล่าวจะมาจากกระแสเงินสด และเชื่อว่าจะสามารถสร้างได้เสร็จปี 54 และใช้ได้ในปี 55 ตามแผน

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปชำระคืนหนี้บางส่วนที่ปัจจุบันมีหนี้สินรวม 4.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ระยะสั้นประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงเหลือ 1 เท่า จาก 1.4 เท่าในปัจจุบัน

"การเติบโตของเรายอมรับว่าประเมินได้ยาก เพราะต้องขึ้นอยู่กับค่าการกลั่นและราคาน้ำมัน แต่การที่อัตราการใช้น้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 2% น่าจะส่งผลดีต่อเรา"นายมงคลนิมิตร กล่าวสรุปทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น