ไดเมท (สยาม) ปิดเทรดพุ่งแค่ 63 % หลังโชว์อภินิหารเปิดเทรดทะยาน 120% ผู้บริหารสุดปลื้ม ระบุเป็นผลมาจากการเดินสายโรดโชว์ทั่วประเทศ เชื่อแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องเหตุการเมืองนิ่ง เอกชนจ่อลงทุนเพียบ ขณะที่บล.บีฟิท คาดเข็นไทยง้วน เอทานอล ระดมทุนได้ในไตรมาสนี้
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัทไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET หุ้นที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นบริษัทแรกในปีนี้ โดยจากราคาจองซื้อหุ้นที่ 1 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเปิดที่ระดับ 2.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 120% ก่อนจะราคาจะปรับตัวลดลงมาปิดที่ 1.63 บาท เพิ่มขึ้น 0.63 บาท หรือ 63% มูลค่าการซื้อการขาย 208.94 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) หรือ BSEC ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบมจ.ไดเมท (สยาม) กล่าวว่า ราคาเปิดที่สามารถเปิดตัวยืนเหนือราคาจองที่ 1 บาทได้ค่อนข้างมาก เพราะฃได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีประกอบกับราคาเสนอขาย ถือว่าเหมาะสมที่จะลงทุนในระยะกลาง
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับปริมาณความต้องการใช้สินค้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนยิ่งมั่นใจต่อแนวโน้มการเติบโตทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมและของบริษัท โดยบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิมปีละ 4.5 ล้านลิตรให้เป็น 6 ล้านลิตรต่อปี
นายสุรพล รุจิกาญจนา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไดเมท (สยาม) กล่าวว่า บริษัทพอใจกับราคาหุ้น DIMET ที่สามารถยืนเหนือราคาจองซื้อและสามารถยืนเหนือราคาจองหลังปิดการซื้อขายได้ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการไปโรดโชว์ในต่างจังหวัดเพื่อนำเสนอข้อมูลให้นักลงทุนรับทราบอย่างทั่วถึง
" ผมหมดห่วงไปแล้วเรื่องราคาหุ้นเพราะสูงกว่าราคาจองค่อนข้างมาก เพราะหุ้นบริษัทเรามีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและนักลงทุนค่อนข้างตอบรับเป็นอย่างดี"นายสุรพลกล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปีนี้คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรกเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น และมีโครงการขนาดใหญ่ที่เตรียมจะลงทุนโดยจากการสำรวจของกรมส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่ามีโปรเจกต์ที่อยู่ระหว่างการเตรียมลงทุนประมาณ 200,000 ล้านบาท
สำหรับรายได้ในปีนี้ (1 ก.ค. 50-30 มิ.ย.51) บริษัทคาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ระดับ 10-15% เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสีป้องกันสนิมที่จำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าปิโตรเคมีและอุตสาหรกรรมที่เยวข้องกับพลังงาน ซึ่งงวด 3 เดือนแรกของบัญชีปี 2551 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 72.01 ล้านบาทส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.22 ล้านบาท
นายวรชาติ ทวยเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.บีฟิท หรือ BSEC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะนำหุ้นบริษัท ไทยง้วน เอทานอล จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้สิ้นไตรมาส 1/51 หลังการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน นอกจากนี้ในปัจจุบันมีดีลไอพีโอที่เตรียมจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานก.ล.ต. อยู่ประมาณ 10 บริษัท คิดเป็นมูลค่า 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มไอที แพ็คเก็จจิ้ง อุตสาหกรรมเหล็ก ก่อสร้าง ผู้รับเหมา เวชภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจส่งออกซึ่งจะทยอยนำบริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนภายในปีนี้
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัทไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET หุ้นที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นบริษัทแรกในปีนี้ โดยจากราคาจองซื้อหุ้นที่ 1 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเปิดที่ระดับ 2.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 120% ก่อนจะราคาจะปรับตัวลดลงมาปิดที่ 1.63 บาท เพิ่มขึ้น 0.63 บาท หรือ 63% มูลค่าการซื้อการขาย 208.94 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) หรือ BSEC ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบมจ.ไดเมท (สยาม) กล่าวว่า ราคาเปิดที่สามารถเปิดตัวยืนเหนือราคาจองที่ 1 บาทได้ค่อนข้างมาก เพราะฃได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีประกอบกับราคาเสนอขาย ถือว่าเหมาะสมที่จะลงทุนในระยะกลาง
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับปริมาณความต้องการใช้สินค้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนยิ่งมั่นใจต่อแนวโน้มการเติบโตทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมและของบริษัท โดยบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิมปีละ 4.5 ล้านลิตรให้เป็น 6 ล้านลิตรต่อปี
นายสุรพล รุจิกาญจนา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไดเมท (สยาม) กล่าวว่า บริษัทพอใจกับราคาหุ้น DIMET ที่สามารถยืนเหนือราคาจองซื้อและสามารถยืนเหนือราคาจองหลังปิดการซื้อขายได้ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการไปโรดโชว์ในต่างจังหวัดเพื่อนำเสนอข้อมูลให้นักลงทุนรับทราบอย่างทั่วถึง
" ผมหมดห่วงไปแล้วเรื่องราคาหุ้นเพราะสูงกว่าราคาจองค่อนข้างมาก เพราะหุ้นบริษัทเรามีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและนักลงทุนค่อนข้างตอบรับเป็นอย่างดี"นายสุรพลกล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปีนี้คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรกเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น และมีโครงการขนาดใหญ่ที่เตรียมจะลงทุนโดยจากการสำรวจของกรมส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่ามีโปรเจกต์ที่อยู่ระหว่างการเตรียมลงทุนประมาณ 200,000 ล้านบาท
สำหรับรายได้ในปีนี้ (1 ก.ค. 50-30 มิ.ย.51) บริษัทคาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ระดับ 10-15% เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสีป้องกันสนิมที่จำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าปิโตรเคมีและอุตสาหรกรรมที่เยวข้องกับพลังงาน ซึ่งงวด 3 เดือนแรกของบัญชีปี 2551 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 72.01 ล้านบาทส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.22 ล้านบาท
นายวรชาติ ทวยเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.บีฟิท หรือ BSEC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะนำหุ้นบริษัท ไทยง้วน เอทานอล จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้สิ้นไตรมาส 1/51 หลังการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน นอกจากนี้ในปัจจุบันมีดีลไอพีโอที่เตรียมจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานก.ล.ต. อยู่ประมาณ 10 บริษัท คิดเป็นมูลค่า 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มไอที แพ็คเก็จจิ้ง อุตสาหกรรมเหล็ก ก่อสร้าง ผู้รับเหมา เวชภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจส่งออกซึ่งจะทยอยนำบริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนภายในปีนี้
