บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คุยงานที่ปรึกษาฯ ระดมทุนปีนี้ 3-4 ดีล มูลค่ากว่าหมื่นล้าน “มนตรี” หนุนแนวคิดกำหนดเพดานหุ้น IPO เทรดวันแรกพุ่งได้ไม่เกิน 300% ด้าน บล.บีฟิท เชื่อรายได้วาณิชฯปีนี้เพิ่มหลังรับงานอันเดอร์ไรเตอร์-ที่ปรึกษาฯกว่า 14 บริษัท ขณะที่ “เอเชีย พลัส” โอดงานวาณิชฯปีนี้โตยาก หลังปัจจัยนอก-ในประเทศ ถล่มตลาดหุ้น
นายเล็ก สิขรวิท ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจวาณิชธนกิจในปีนี้ ถือว่าเป็นปีที่ยากลำบากเพราะ IPO จะยังไม่โดดเด่นเหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงที่ภาวะการซื้อขายผันผวนหนัก จากปัจจัยทางการเมืองที่ยังเป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้น
ทั้งนี้ จากปัจจัยลบทั้งในประเทศและนอกประเทศ ส่งผลต่อการเข้ามาระดมทุนของบริษัทนอกตลาด ทำให้หลายบริษัทชะลอการระดมทุนออกไป เพื่อรอความชัดเจน
สำหรับกระแสข่าวที่อาจจะมีการนำหลักเกณฑ์ในการควบคุมการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น IPO ในระดับไม่เกิน 300% จากราคาจองส่วนตัวถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเนื่องจากช่วยลดการเก็งกำไร และที่สำคัญไม่ใช่เรื่องแปลกเนื่องจากกฎเกณฑดังกล่าวสามารถทำได้ โดยเชื่อว่าหากเกิดขึ้นจริงคงไม่ส่งผลกระทบต่องานด้านวาณิชธนกิจมากนัก
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST กล่าวว่า งานด้านวาณิชธนกิจของบริษัทปีนี้บริษัทมีงานที่ปรึกษาในการนำบริษัทเข้าระดมทุนประมาณ 3-4 บริษัท มูลค่าระดมทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยอาจจะมีการเสนอหลังไตรมาส 1/51 เพราะช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่ภาวะการซื้อขายไม่ดี
ทั้งนี้ ในส่วนแนวคิดเรื่องการจำกัดการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น IPO ไม่เกิน 300% ส่วนตัวเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงจาการลงทุนมากนักหากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างหวือหวา และเชื่อว่าเกณฑ์ดังกล่าวจะช่วยคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของนักลงทุนรายใหญ่ที่เข้ามาแสวงหาผลกำไรจากหุ้น IPO
“ผมแนวด้วยกับแนวคิดนี้ เพราะหากราคาบวก 100% หรือ 200% ก็เยอะแล้ว ซึ่งแนวคิดไม่ให้ราคาปรับขึ้นเกิน 300% ถือว่าเป็นการช่วยรายย่อยเหมือนการกำหนด Ceiling และ Floor หุ้นแต่ละตัว” นายมนตรี กล่าว
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) หรือ BSEC กล่าวว่า แผนงานของบริษัทในปีนี้จะเน้นงานทางด้านวาณิชธนกิจมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีดีลในการนำบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รวมถึงงานในการเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นประมาณ 14 บริษัท มูลค่าระดมทุนประมาณ 3.5 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้รายได้ในส่วนของงานวาณิชฯเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช กรรมการผู้อำนวยการ บล.ทรีนีตี้ ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การกำหนดเพดานการเคลื่อนไหวหุ้น IPO ในวันแรกจะต้องมีการศึกษาผลดีและผลเสียให้รอบคอบ โดยหากผลศึกษาออกมาว่าเหมาะสม สมาคมก็พร้อมจะให้ความร่วมมือในการปรับปรุงหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าว
นายเล็ก สิขรวิท ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจวาณิชธนกิจในปีนี้ ถือว่าเป็นปีที่ยากลำบากเพราะ IPO จะยังไม่โดดเด่นเหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงที่ภาวะการซื้อขายผันผวนหนัก จากปัจจัยทางการเมืองที่ยังเป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้น
ทั้งนี้ จากปัจจัยลบทั้งในประเทศและนอกประเทศ ส่งผลต่อการเข้ามาระดมทุนของบริษัทนอกตลาด ทำให้หลายบริษัทชะลอการระดมทุนออกไป เพื่อรอความชัดเจน
สำหรับกระแสข่าวที่อาจจะมีการนำหลักเกณฑ์ในการควบคุมการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น IPO ในระดับไม่เกิน 300% จากราคาจองส่วนตัวถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเนื่องจากช่วยลดการเก็งกำไร และที่สำคัญไม่ใช่เรื่องแปลกเนื่องจากกฎเกณฑดังกล่าวสามารถทำได้ โดยเชื่อว่าหากเกิดขึ้นจริงคงไม่ส่งผลกระทบต่องานด้านวาณิชธนกิจมากนัก
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST กล่าวว่า งานด้านวาณิชธนกิจของบริษัทปีนี้บริษัทมีงานที่ปรึกษาในการนำบริษัทเข้าระดมทุนประมาณ 3-4 บริษัท มูลค่าระดมทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยอาจจะมีการเสนอหลังไตรมาส 1/51 เพราะช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่ภาวะการซื้อขายไม่ดี
ทั้งนี้ ในส่วนแนวคิดเรื่องการจำกัดการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น IPO ไม่เกิน 300% ส่วนตัวเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงจาการลงทุนมากนักหากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างหวือหวา และเชื่อว่าเกณฑ์ดังกล่าวจะช่วยคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของนักลงทุนรายใหญ่ที่เข้ามาแสวงหาผลกำไรจากหุ้น IPO
“ผมแนวด้วยกับแนวคิดนี้ เพราะหากราคาบวก 100% หรือ 200% ก็เยอะแล้ว ซึ่งแนวคิดไม่ให้ราคาปรับขึ้นเกิน 300% ถือว่าเป็นการช่วยรายย่อยเหมือนการกำหนด Ceiling และ Floor หุ้นแต่ละตัว” นายมนตรี กล่าว
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) หรือ BSEC กล่าวว่า แผนงานของบริษัทในปีนี้จะเน้นงานทางด้านวาณิชธนกิจมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีดีลในการนำบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รวมถึงงานในการเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นประมาณ 14 บริษัท มูลค่าระดมทุนประมาณ 3.5 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้รายได้ในส่วนของงานวาณิชฯเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช กรรมการผู้อำนวยการ บล.ทรีนีตี้ ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การกำหนดเพดานการเคลื่อนไหวหุ้น IPO ในวันแรกจะต้องมีการศึกษาผลดีและผลเสียให้รอบคอบ โดยหากผลศึกษาออกมาว่าเหมาะสม สมาคมก็พร้อมจะให้ความร่วมมือในการปรับปรุงหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าว