ผู้จัดการรายวัน - บมจ.เอสโซ่ เปิดทางรายย่อยจองซื้อหุ้น 21-22 เมษายนนี้ หวังระดมทุนก้อนใหญ่ด้วยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 773 ล้านหุ้น และหุ้นเดิมของคลังอีก 326 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 9-13 บาท ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ แย้ม ปลายเม.ย.-พ.ค.หุ้นน้องใหม่เตรียมพาเหรดเข้าระดมทุนอีกเพียบ หลังเลื่อนเข้าจดทะเบียนมานาน ประเดิม 3 บริษัทใหญ่ "เอสโซ่ -น้ำประปา- สยามแก๊สฯ" ด้าน ชนิตร เผยบริษัทยื่นความจำนงไว้เตรียมทยอยยื่นไฟลิ่งเม.ย.รับสิทธิสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานการตลาดศูนย์ระดมทุน และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้จะมีบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)และตลาดเอ็มเอไอ จำนวน 9 บริษัท แบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 7 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท เอสโซ่ จำกัด (มหาชน) บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทสยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พรีเมียร์ มาร์เกตติ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน)
ส่วนบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ จำนวน 2 บริษัท คือ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยง้วนเอทานอล โดยบริษัทส่วนใหญ่ที่จะเข้าในปลายเดือนนี้ถึงเดือนพ.ค.นั้นจะเป็นบริษัทที่เลื่อนการเข้าจดทะเบียนในช่วงที่ผ่านมาจากภาวะตลาดยังไม่เอื้อ
ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานเพิ่มเติมว่า บมจ.เอสโซ่ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 773.33 ล้านหุ้น ราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 4.93 บาท ราคาเสนอขาย 9-13 บาท มูลค่ารวม 6959.99 -10,53.33 ล้านบาท ขณะเดียวกันกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จะนำหุ้นสามัญเดิมออกมาขายไม่เกิน 326.25 ล้านหุ้น ทำให้กระทรวงการคลังจะได้รับเงิน 2,936.25-4,241.25 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอาจพิจารณาให้มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินให้แก่ผู้ลงทุนในประเทศและผู้ลงทุนในต่างประเทศจำนวนไม่เกิน 84.58 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7.7% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายครั้งนี้ รวมทั้งกำหนดสัดส่วนการขายเสนอให้กับนักลงทุนในประเทศรวมไม่เกิน 549.79 ล้านหุ้น แบ่งเป็นเสนอขายให้นักลงทุนสถาบันไม่เกิน 228.57 ล้านหุ้น นักลงทุนทั่วไป 159.32 ล้านหุ้น ผู้จองซื้อรายย่อย 161.90 ล้านหุ้น และเสนอขายให้นักลงทุนต่างประเทศไม่เกิน 549.79 ล้านหุ้น กำหนดจองซื้อสำหรับบุคคลทั่วไปและผู้จองซื้อรายย่อยวันที่ 21-22 เมษายนนี้
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนครั้งนี้ เอสโซ่จะนำไปชำระคืนหนี้สินเชื่อระยะสั้นบางส่วนภายใต้สินเชื่อเงินกู้ร่วมจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จำนวน 19,000 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดชำระคืนเต็มจำนวนในวันที่ 8 ธันวาคม 2551 และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ด้านผลการดำเนินงานงวดประจำปี 50 บริษัทมีรายได้จากการขาย 199,904 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 7,053 ล้านบาท
นายชนิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับบริษัทที่ยื่นความจำนงที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเอ็มเอไอในปีที่ผ่านมาจำนวน 107 บริษัทนั้น ในช่วงเดือนเมษายนนี้ก็จะเริ่มทยอยเข้ามายื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หลังจากที่บริษัทได้มีการปิดงบการเงินไตรมาส 1/51 และเพื่อที่ได้รับสิทธิที่ตลท.จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าจดทะเบียน โดยหากบริษัทสามารถยื่นไฟลิ่งได้ภายในเดือนเมษายน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนค่าใช้จ่าย 300,000 บาท หากยื่นไฟลิ่งภายในเดือนพฤษภาคม จะได้รับงบสนับสนุนจำนวน 200,000 บาท และกรณีที่ยื่นไฟลิ่งภายในเดือนมิถุนายนจะได้รับงบสนับสนุน 100,000 บาท
ด้านนายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอให้ที่ปรึกษาทางการเงิน จัดช่วงเวลาในการที่จะไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)และการกำหนดวันเสนอขายหุ้นไอพีโอ ซึ่งบริษัทจะเข้าจดทะเบียนในหลักทรัพย์ฯให้เร็วที่สุด และหากช้าที่สุดภายใน 3 สัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม เนื่องจาก บริษัทไม่ต้องการที่จะต้องมีการใช้ข้อมูลใหม่ ที่จะต้องมีการเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาส1/51 ซึ่งจะใช้เวลาพอสมควร และบริษัทต้องการที่จะลดภาระดอกเบี้ยของบริษัทที่มีจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา มีบริษัทที่เข้าจดทะเบียนไปแล้วจำนวน 4 บริษัท มูลค่าระดมทุน 598.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 1 บริษัท คือ บริษัท โลหะกิจ เม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ LHK เสนอขายหุ้นจำนวน 80 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.76 บาท มูลค่าระดมทุน 220.80 ล้านบาท และเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ 3 บริษัท คือ บริษัท ไดเมท (สยาม จำกัด (มหาชน)หรือ DIMETเสนอขายหุ้น จำนวน 40 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1 บาท มูลค่าระดมทุน 40 ล้านบาท
บริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) หรือ CRANE เสนอขายหุ้นจำนวน 100 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.80 บาท มูลค่าระดมทุน 280 ล้านบาท บริษัท บิวเดอร์สมาร์ จำกัด (มหาชน)หรือ BSM เสนอขายหุ้นจำนวน 50 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.10 บาท มูลค่าระดมทุน 55 ล้านบาท
สำหรับในช่วงไตรมาส 1/51 ปีนี้ มีบริษัทเข้าจดทะเบียนมากกว่าไตรมาสเดียวกันปี 2550 ที่มีเข้าจดทะเบียนเพียง 2 บริษัท มูลค่าระดมทุน 467.5 ล้านบาท คือ บริษัท มัลติแบกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MBAX จำนวน 35 ล้านหุ้นราคาเสนอขายหุ้นละ 5 บาท มูลค่าระดมทุน 175 ล้านบาท และ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ UNIQ เสนอขายหุ้น จำนวน 162.5 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.80 บาท มูลค่าระดมทุน 292.50 ล้านบาท
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานการตลาดศูนย์ระดมทุน และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้จะมีบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)และตลาดเอ็มเอไอ จำนวน 9 บริษัท แบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 7 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท เอสโซ่ จำกัด (มหาชน) บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทสยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พรีเมียร์ มาร์เกตติ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน)
ส่วนบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ จำนวน 2 บริษัท คือ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยง้วนเอทานอล โดยบริษัทส่วนใหญ่ที่จะเข้าในปลายเดือนนี้ถึงเดือนพ.ค.นั้นจะเป็นบริษัทที่เลื่อนการเข้าจดทะเบียนในช่วงที่ผ่านมาจากภาวะตลาดยังไม่เอื้อ
ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานเพิ่มเติมว่า บมจ.เอสโซ่ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 773.33 ล้านหุ้น ราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 4.93 บาท ราคาเสนอขาย 9-13 บาท มูลค่ารวม 6959.99 -10,53.33 ล้านบาท ขณะเดียวกันกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จะนำหุ้นสามัญเดิมออกมาขายไม่เกิน 326.25 ล้านหุ้น ทำให้กระทรวงการคลังจะได้รับเงิน 2,936.25-4,241.25 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอาจพิจารณาให้มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินให้แก่ผู้ลงทุนในประเทศและผู้ลงทุนในต่างประเทศจำนวนไม่เกิน 84.58 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7.7% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายครั้งนี้ รวมทั้งกำหนดสัดส่วนการขายเสนอให้กับนักลงทุนในประเทศรวมไม่เกิน 549.79 ล้านหุ้น แบ่งเป็นเสนอขายให้นักลงทุนสถาบันไม่เกิน 228.57 ล้านหุ้น นักลงทุนทั่วไป 159.32 ล้านหุ้น ผู้จองซื้อรายย่อย 161.90 ล้านหุ้น และเสนอขายให้นักลงทุนต่างประเทศไม่เกิน 549.79 ล้านหุ้น กำหนดจองซื้อสำหรับบุคคลทั่วไปและผู้จองซื้อรายย่อยวันที่ 21-22 เมษายนนี้
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนครั้งนี้ เอสโซ่จะนำไปชำระคืนหนี้สินเชื่อระยะสั้นบางส่วนภายใต้สินเชื่อเงินกู้ร่วมจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จำนวน 19,000 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดชำระคืนเต็มจำนวนในวันที่ 8 ธันวาคม 2551 และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ด้านผลการดำเนินงานงวดประจำปี 50 บริษัทมีรายได้จากการขาย 199,904 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 7,053 ล้านบาท
นายชนิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับบริษัทที่ยื่นความจำนงที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเอ็มเอไอในปีที่ผ่านมาจำนวน 107 บริษัทนั้น ในช่วงเดือนเมษายนนี้ก็จะเริ่มทยอยเข้ามายื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หลังจากที่บริษัทได้มีการปิดงบการเงินไตรมาส 1/51 และเพื่อที่ได้รับสิทธิที่ตลท.จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าจดทะเบียน โดยหากบริษัทสามารถยื่นไฟลิ่งได้ภายในเดือนเมษายน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนค่าใช้จ่าย 300,000 บาท หากยื่นไฟลิ่งภายในเดือนพฤษภาคม จะได้รับงบสนับสนุนจำนวน 200,000 บาท และกรณีที่ยื่นไฟลิ่งภายในเดือนมิถุนายนจะได้รับงบสนับสนุน 100,000 บาท
ด้านนายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอให้ที่ปรึกษาทางการเงิน จัดช่วงเวลาในการที่จะไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)และการกำหนดวันเสนอขายหุ้นไอพีโอ ซึ่งบริษัทจะเข้าจดทะเบียนในหลักทรัพย์ฯให้เร็วที่สุด และหากช้าที่สุดภายใน 3 สัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม เนื่องจาก บริษัทไม่ต้องการที่จะต้องมีการใช้ข้อมูลใหม่ ที่จะต้องมีการเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาส1/51 ซึ่งจะใช้เวลาพอสมควร และบริษัทต้องการที่จะลดภาระดอกเบี้ยของบริษัทที่มีจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา มีบริษัทที่เข้าจดทะเบียนไปแล้วจำนวน 4 บริษัท มูลค่าระดมทุน 598.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 1 บริษัท คือ บริษัท โลหะกิจ เม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ LHK เสนอขายหุ้นจำนวน 80 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.76 บาท มูลค่าระดมทุน 220.80 ล้านบาท และเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ 3 บริษัท คือ บริษัท ไดเมท (สยาม จำกัด (มหาชน)หรือ DIMETเสนอขายหุ้น จำนวน 40 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1 บาท มูลค่าระดมทุน 40 ล้านบาท
บริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) หรือ CRANE เสนอขายหุ้นจำนวน 100 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.80 บาท มูลค่าระดมทุน 280 ล้านบาท บริษัท บิวเดอร์สมาร์ จำกัด (มหาชน)หรือ BSM เสนอขายหุ้นจำนวน 50 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.10 บาท มูลค่าระดมทุน 55 ล้านบาท
สำหรับในช่วงไตรมาส 1/51 ปีนี้ มีบริษัทเข้าจดทะเบียนมากกว่าไตรมาสเดียวกันปี 2550 ที่มีเข้าจดทะเบียนเพียง 2 บริษัท มูลค่าระดมทุน 467.5 ล้านบาท คือ บริษัท มัลติแบกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MBAX จำนวน 35 ล้านหุ้นราคาเสนอขายหุ้นละ 5 บาท มูลค่าระดมทุน 175 ล้านบาท และ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ UNIQ เสนอขายหุ้น จำนวน 162.5 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.80 บาท มูลค่าระดมทุน 292.50 ล้านบาท