xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด "บีโอไอ" ถกนัดแรก อนุมัติลงทุนกว่า 6 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บอร์ดบีโอไอ ประชุมนัดแรก อนุมัติลงทุนเมกะโปรเจกต์ 7 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 6 หมื่นล้าน อีโคคาร์-ปตท. ผ่านฉลุย

นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วานนี้ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) อนุมัติส่งเสริมโครงการลงทุนกว่า 6 หมื่นล้านบาท เช่น โครงการเกี่ยวพลังงานท่อก๊าซเส้นที่ 4 ของ ปตท.วงเงิน 41,000 ล้านบาท โครงการขยายการลงทุนผลิตน้ำมันอากาศยาน ของโรงกลั่นเอสพีอาร์ซี โครงการอีโคคาร์ รวมทั้งโครงการผลิตไบโอดีเซล

ทั้งนี้ โครงการอีโคคาร์ มีผู้ที่แสดงความสนใจเข้ามาลงทุน 7 ราย ได้รับอนุมัติแล้ว 6 ราย เหลือเพียง โฟล์กสวาเกน จากประเทศเยอรมนี ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา เนื่องจากบริษัทยังไม่มีฐานผลิตในประเทศไทย ซึ่งหากลงทุนครบจะมีเม็ดเงินลงทุนเกือบ 7 หมื่นล้านบาท

รถขนาดเล็ก กำลังเป็นที่ต้องการในภาวะราคาน้ำมันแพง และตามแผนการส่งเสริมการลงทุนคาดว่า ภายใน 5 ปี จะทำให้ประเทศไทยมีการส่งออกรถเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้าน

นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการ บีโอไอ เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด โดยกล่าวถึงรายละเอีดของโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนว่า ที่ประชุมมีมติให้การส่งเสริมการลงทุนรวม 7 โครงการ ประกอบด้วยโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) จำนวน 3 โครงการเงินลงทุนประมาณ 16,670 ล้านบาท และโครงการอื่นๆ อีก 4 โครงการ รวมเงินลงทุนทั้ง 7 โครงการมีมูลค่าทั้งสิ้น 62,834.7 ล้านบาท มีรายละเอียดดังนี้

1.บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับส่งเสริมผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (Eco-Car) มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 4,711 ล้านบาท มีกำลังการผลิตปีละประมาณ 107,000 คัน โดยจะเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ร้อยละ 12 และส่งออกร้อยละ 88 ตลาดหลักได้แก่ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น เป็นต้น เริ่มผลิตปี 2553 ตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง

2.บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้รับส่งเสริมผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (Eco-Car) มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 4,642 ล้านบาท กำลังผลิตปีละประมาณ 100,000 คัน โดยตามแผนการผลิต จะจำหน่ายในประเทศ และส่งออกสัดส่วนเท่ากัน คือ ร้อยละ 50 ซึ่งตลาดส่งออกหลัก คือ อาเซียน และโอเชเนีย เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 2555 ตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ จังหวัดฉะเชิงเทรา

3.บริษัท ทาทา มอเตอร์ ประเทศอินเดีย ได้รับส่งเสริมผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (Eco-Car) มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,317 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 100,000 คัน โดยจำหน่ายในประเทศร้อยละ 48 และส่งออกร้อยละ 52 ในประเทศในกลุ่มอาเซียน เอเซียแปซิฟิก และประเทศแอฟริกาใต้ ตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 2553

4.บริษัทโกลบอล ไบโอดีเซล จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนผลิตน้ำมันดีเซล จากเศษวัสดุทางการเกษตร มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,900 ล้านบาท มีกำลังผลิต 33,000,000 ลิตรต่อปี หรือประมาณ 100,000 ลิตรต่อวัน ตั้งโรงงานที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้วัตถุดิบในประเทศทั้งสิ้น 183,500 ตันต่อปี ได้แก่ ทะลายปาล์มเปล่า คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 115.5 ล้านบาทต่อปี

5.บริษัท ปราจีนบุรีกล๊าส อินดัสทรี จำกัด ได้รับส่งเสริมผลิตขวดแก้ว มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,165 ล้านบาท กำลังผลิตปีละประมาณ 64,800 ตัน หรือประมาณ 446,897 ขวด โดยตามแผนการผลิตขวดแก้วของโครงการนี้ จะใช้วัตถุดิบที่เป็นเศษแก้วในประเทศทั้งหมด ตั้งโรงงานในจังหวัดปราจีนบุรี

6.บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด ได้รับการส่งเสริมขยายกิจการผลิตน้ำมันอากาศยาน 20,000 บาเรลต่อวัน เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,533.7 ล้านบาท ตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยโครงการนี้จะมีการติดตั้งหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันอากาศยานที่จะทำให้ได้น้ำมันอากาศยานมีคุณภาพ มาตรฐานระดับโลก

7.บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้รับส่งเสริมขยายกิจการขนส่งทางท่อ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 41,566 ล้านบาท ซึ่งตามโครงการจะให้บริการขนส่งก๊าชธรรมชาติทางท่อ ปีละประมาณ 620,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต จัดส่งให้กับโรงไฟฟ้า รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม จากนิคมอุตสหากรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ไปสิ้นสุดโครงการที่ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร
กำลังโหลดความคิดเห็น