เอดีบี เตือนไทยรับมือความเสี่ยงเงินเฟ้อพุ่งสูงสุด 5.1% ทำสถิติในรอบทศวรรษ ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจ ยังคงที่ระดับ 5% ภายใต้เงื่อนไขทางการเมืองที่ต้องนิ่งพอ
วันนี้(1 เม.ย.) นายณอง ปิแอร์ เวอร์บิสท์ ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กล่าวถึงการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2551 – 2552 โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้น โดยปีนี้มีการขยายตัวประมาณ 5.0% ส่วนในปี 2552 มีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 5.2% โดยมีเงื่อนไขว่า รัฐบาลผสมจะต้องมีเสถียรภาพ และเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประกาศออกมา ไม่ว่าจะเป็นมาตรการลดหย่อนภาษีหรือยกเว้นภาษีวิสาหกิจขนาดย่อม เพื่อดึงความเชื่อมั่นของธุรกิจ ผู้บริโภค และนักลงทุนกลับคืน รวมทั้ง การลงทุนของภาครัฐในการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายปีนี้
สำหรับการส่งออกไทยชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกนั้น เอดีบี ยังมั่นใจว่าปีนี้จะขยายตัวอยู่ที่ 10% โดยผู้ส่งออกไทยสามารถส่งขายในตลาดใหม่ๆ ได้มากขึ้น ในขณะที่การนำเข้าจะโตขึ้นถึง 16% ในปีนี้
ทั้งนี้ ไทยยังต้องเผชิญความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านราคาน้ำมันที่สูงขึ้น , เศรษฐกิจโลกชะลอตัว , การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ล่าช้า และอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับสูงถึง 5.1% ในปีนี้ และอาจแตะระดับสูงสุดในรอบทศวรรษ
ผู้อำนวยการฯ เอดีบี ยังคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศที่กำลังพัฒนาในเอเชียว่า ปีนี้ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียมีการเจริญเติบโตที่แข็งแกร่ง แม้ประเทศอุตสาหกรรมหลักจะชะลอตัว แต่คงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวในปีนี้ประมาณ 7.6% ส่วนปี 2552 ขยายตัวประมาณ 7.8% และต้องระวังอัตราเงินเฟ้อที่เป็นตัวการสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย
อย่างไรก็ตาม เอดีบีคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในเอเชีย ไม่รวมประเทศญี่ปุ่น จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 7.6% ในปีนี้ เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้นทำให้อัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี
"เราคาดว่าเศรษฐกิจเอเชียมีแนวโน้มชะลอตัวลงในปีนี้และปีหน้า แต่มีเศรษฐกิจของไทยเพียงประเทศเดียวที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น หลังจากสถานการณ์การเมืองของไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ"
ผู้อำนวยการฯ เอดีบี ยังกล่าวอีกว่า ราคาอาหารและราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่น่ากังวลสำหรับภูมิภาคเอเชีย โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะทำให้ธนาคารกลางในบางประเทศประกาศใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงินและการคลัง
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่ายอดส่งออกที่ชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม
ทั้งนี้ เอดีบีคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 10.0% ปีนี้ แต่จะชะลอตัวลงแตะระดับ 9.8% ปีหน้า เศรษฐกิจฮ่องกงจะขยายตัว 4.5% ปีนี้และ 4.8% ปีหน้า เศรษฐกิจเกาหลีใต้ 5.0% ปีนี้และ 5.2% ปีหน้า เศรษฐกิจไต้หวัน 4.2% ปีนี้และ 5.6% ปีหน้า เศรษฐกิจอินโดนีเซีย 6.0% ปีนี้และ 6.2% ปีหน้า เศรษฐกิจมาเลเซีย 5.4% ปีนี้ และ 5.9% ปีหน้า เศรษฐกิจสิงคโปร์ 5.2% ปีนี้ และ 5.8% ปีหน้า เศรษฐกิจเวียดนาม 7.0% ปีนี้และ 8.1% ปีหน้า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ 6.0% ปีนี้และ 6.2% ปีหน้า