สถานการณ์ข้าวถุงเริ่มวิกฤติ หลายยี่ห้อขาดตลาด ห้างสรรพสินค้าเริ่มจำกัดปริมาณการซื้อแล้ว "คาร์ฟูร์" ยอมรับข้าวเกลี้ยงสต็อก เหลือขายได้แค่ 5 วัน พร้อมจำกัดให้ซื้อได้ไม่เกินรายละ 5 ถุง ขณะที่ผู้ประกอบการชี้ คนไทยกังวล หลังรัฐบาลปั่นราคาข้าวในประเทศ-ส่งออก ชาวบ้านแห่ซื้อกักตุนจ้าละหวั่น ต้นเหตุสินค้าขาดตลาด
วันนี้(1 เม.ย.) มีรายงานข่าวสถานการณ์ข้าวถุงในห้างสรรพสินค้า ซึ่งหลายแห่งเริ่มประสบปัญหาการขาดแคลน และจำกัดปริมาณการซื้อ โดยผลการสำรวจล่าสุด พบว่าข้าวถุงหลายยี่ห้อเริ่มขาดตลาด ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง เริ่มติดประกาศจำกัดปริมาณการซื้อไว้ไม่เกินครอบครัวละ 5-6 ถุง เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการข้าวถุงหลายยี่ห้อส่งของน้อยกว่าปกติจาก 50 - 100 กระสอบ เหลือเพียง 5-10 กระสอบ ซึ่งบางยี่ห้อก็ไม่ส่งของมาขายเลย
หัวหน้าตรวจสอบสต็อกสินค้าของห้างคาร์ฟูร์ สาขาลาดพร้าว ยอมรับว่า ขณะนี้ข้าวในสต็อกของห้างคาร์ฟูร์เหลือขายได้เพียง 5 วันเท่านั้น แต่ก็หวังว่าโรงสีจะส่งข้าวให้กับห้างเพิ่มเติม
ล่าสุด ห้างคาร์ฟูร์ สาขาลาดพร้าว ต้องขึ้นป้ายว่าขออภัยสินค้าหมด จากสินค้าข้าวถุงมากกว่า 10 ราย ขณะผู้บริโภคหลายคนยอมรับว่าราคาข้าวที่สูงขึ้นถุงละกว่า 10 บาทในช่วงที่ผ่านมา และขณะนี้มีหลายยี่ห้อเริ่มขาดแคลนทำให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อ โดยไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องซื้อเป็นข้าวหอมมะลิ 100% อาจเป็นแค่ข้าวที่มีคุณภาพพอรับประทานได้
นายวัลลภ มานะธัญญา ประธานกรรมการปฏิบัติการ บริษัท เจีย เม้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวถุงรายใหญ่ยี่ห้อ หงษ์ทอง กล่าวยอมรับว่า ข้าวหงษ์ทองที่ขายตามห้างสรรสินค้าต่างๆ มีปริมาณลดลงจากเชล์ฟเหมือนกับว่าสินค้าขาดตลาด แต่จริงๆ แล้วเกิดจากการที่ห้างสั่งซื้อข้าวหงษ์ทองลดลงเป็นจำนวนมาก เพราะบริษัทไม่สามารถจะขายข้าวในราคาเดิม ยกตัวอย่างข้าวหอมมะลิถุงขนาด 5 กิโลกรัม ห้างต้องการให้ขายที่ราคา 130 บาทต่อถุง ซึ่งเป็นราคาตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันต้นทุนราคาข้าวขยับสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องปรับราคาขายให้สูงขึ้นเป็น 150-155 บาทต่อถุง
กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ข้าวถุงหงษ์ทองต้องหายไปจากเชล์ฟของห้างสรรพสินค้า และโมเดิร์นเทรดหลายแห่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าเรามีสต็อกข้าวน้อยลง เพียงแต่ว่าเราหันไปขายข้าวตามร้านค้าย่อยและตลาดสดมากขึ้น
นายวัลลภ กล่าวยืนยันว่า ปริมาณข้าวในประเทศยังมีเพียงพอให้แก่ผู้บริโภคคนไทย ไม่ถึงขั้นขาดแคลนอย่างที่มีการคาดการณ์กัน ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องซื้อข้าวตุนไว้ เพราะทำให้เกิดการปั่นราคาข้าวขึ้นได้
น.ส.กรองทิพย์ ธนถาวรลาภ ผู้บริหารบริษัท ข้าวแสนดี จำกัด ระบุว่า ตอนนี้ผู้บริโภคกำลังวิตกกังวลปัญหาข้าวราคาแพง เพราะเป็นปัจจัยสำคัญต่อค่าครองชีพ จึงแห่ไปซื้อข้าวถุงเก็บตุนไว้ล่วงหน้า ทำให้ข้าวสารบรรจุถุงหลายยี่ห้อในห้างสรรพสินค้า ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต และ ดิสเคาท์สโตร์ เริ่มขาดตลาด แม้ว่าทางผู้ประกอบการค้าปลีกจะมีการจำกัดจำนวนซื้อ
น.ส.กรองทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้าวถุงแสนดีได้เตรียมแผนรับมือ ด้วยการบริหารจัดการสต็อกข้าวให้ถี่ขึ้นจากเดิม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สินค้าขาดสต็อก พร้อมกันนั้นได้ส่งข้าวสารบรรจุถุงขนาด 1 กิโลกรัมออกมาวางจำหน่าย เพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคพร้อมกับแตกแบรนด์ข้าวบรรจุถุงยี่ห้อใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อ
นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการนำสต๊อกข้าวรัฐบาลทำข้าวถุงราคาถูกขายประชาชน โดยต่ำกว่าราคาตลาดประมาณ 30-40% เพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมมองว่า การส่งสัญญาณว่าราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้นนั้น เพื่อให้ผู้ส่งออกสามารถทำกำไรได้ซึ่งราคาข้าวที่สูงขึ้นขณะนี้ เป็นการปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 70 ปี และทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์
นายสมฤกษณ์ กล่าวอีกว่า ผู้ค้าได้ทยอยปรับขึ้นราคาข้าวถุงในต้นเดือนเมษายนนี้ประมาณ 10% เพราะหากไม่ปรับราคาขึ้นจะทำให้ผู้ค้าขนาดเล็กและขนาดกลางต้องปิดกิจการได้ เนื่องจากเงินทุนมีจำกัดยืนยันว่าราคาข้าวที่ปรับตัวขึ้นสูงจะไม่เพิ่มอัตราเงินเฟ้อในประเทศให้มากขึ้น เพราะมีราคาถูกกว่าสินค้าคาร์โบไฮเดรตชนิดอื่นอยู่มาก ขณะที่ราคาข้าวในไทยไม่ได้แพงกว่าต่างประเทศ
