xs
xsm
sm
md
lg

CIG ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายทะลุ 50% อานิสงส์ลูกค้าแคร์เรียร์หนุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

CIG ปีนี้ตั้งเป้าโตอีกเกิน 50 % หลังรับออร์เดอร์แคร์เรียร์ ดันยอดขายพุ่ง พร้อมหาลูกค้าใหม่เพิ่มขยายฐานรายได้ หวังสัดส่วนขายในประเทศขยับขึ้นตามเป้า 50% ยันค่าเงินไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากบริษัทซื้อวัตถุดิบต่างประเทศ จะทำให้เกิดการป้องกันความเสี่ยงอัตโนมัติ

นายธีระ พุ่มเสนาะ กรรมการ บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CIG) เปิดเผยว่าปี 51 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตเกินกว่า 50 % จากปี50 หลังจากได้รับความไว้วางใจจาก แคร์เรียร์ ภาคพื้นยุโรป ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศแบรนด์ระดับโลก Carrier ให้เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศให้กับ แคร์เรียร์ ภาคพื้นยุโรป ซึ่งถือเป็นโรงงานแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับเลือกดังกล่าว

" เราคุยได้ไปมากแล้ว และกำลังเซ็นสัญญา ซึ่งก็ออร์เดอร์ทะยอยเข้ามา เราต้องดำเนินตามขั้นตอนของแคร์เรียร์เพื่อให้ได้มาตรฐาน หากทุกอย่างลงตัวก็เริ่มดำเนินการผลิต ซึ่งจะเป็นล็อตใหญ่มาก เพราะเขามีลูกค้าทั่วโลก " นายธีระกล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงที่อยู่ในระหว่างดำเนินการตามมาตรฐานแคร์เรียร์นั้นพบว่า CIG ได้ผลิตสินค้าบางรายการที่เข้ามาตรฐานเดียวกันแล้ว ก็เริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาประมาณ 7-8 ตู้คอนเทนเนอร์แล้ว เชื่อว่าการทำธุรกิจร่วมกันจะต่อเนื่องระยะยาว เพราะการเลือกซัพพลายเออร์ของแคร์เรียร์ แต่ละครั้งเป็นไปอย่างรอบคอบและใช้งบลงทุนค่อนข้างสูงในการพัฒนาสินค้าและปรับกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานของแคร์เรียร์

นอกจากนี้ CIG ยังจะหาลูกค้าแบรนด์ญี่ปุ่นและเกาหลีเพิ่ม เพราะลูกค้าดังกล่าว จะสั่งออร์เดอร์ล็อตใหญ่และมีความต้องการปริมาณมาก ขณะที่รูปแบบของสินค้าจะมีรูปแบบที่ไม่หลากหลาย ทำให้ประหยัดในด้านของต้นทุนการผลิต และขณะนี้บริษัทมีลูกค้าในมือแล้ว 4 บริษัทชั้นนำในการผลิตแอร์

" ลูกค้าที่เราได้มา จะเห็นผลในปี 51 ซึ่งจะช่วยดันยอดขายของเราให้โตได้ 2,500-3,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่เราคาดว่าเราจะทำยอดขายได้ 1,500-2,200 ล้านบาท และ ถ้าเราได้ออร์เดอร์จากลูกค้าที่มีการผลิตจำนวนมาก และโมเดลแบบเดียวกัน จะดีกว่าการรับผลิตแบบ made to order อย่างที่เราเคยทำมา เพราะแบบเดิมต้นทุนการผลิตสูง ในการทำแบบแต่ละอย่างที่ลูกค้าต้องการ " นายธีระกล่าว

โดยปีนี้ CIG จะปรับสัดส่วนการขายระหว่างในและต่างประเทศอย่างละ 50% จากเดิมที่ส่งออกเพียง 30% พร้อมยันค่าบาทแข็งค่าไม่กระทบกับผลการดำเนินงาน เนื่องจากบริษัทนำเข้าวัตถุดิบและขายเป็นสินค้าเป็นเงินดอลลาร์ฯ จึงถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงินได้อัตโนมัติ

ปัจจุบัน บริษัทมีตัวเลขหนี้สินต่อทุน (D/E RATIO) ของบริษัทลดลงจากต้นปีซึ่งอยู่ที่ 2 เท่า และเหลือต่ำกว่าตัวเลขดังกล่าว หลังบริษัทได้ออกหุ้นเพิ่มทุนงวดล่าสุด 85.50 ล้านหุ้น พาร์ละ 1 บาท และนำเงินไปใช้ชำระหนี้และใช้ขยายงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น