ผู้ว่าฯ ธปท.ชี้สาเหตุค่าเงินบาทแข็งค่าหลุดกรอบ 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เพราะตลาดคาดการณ์ออกว่า ธปท.จะยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% แต่แบงก์ชาติ มีการดูแลใกล้ชิด ทำให้ค่าเงินบาทยังแข็งค่าเกาะกลุ่มในภูมิภาค แนะไม่ควรดูทิศทางในระยะสั้น พร้อมเมินคำแนะนำ 4 มาตรการของ เลขาฯ ก.ล.ต. ขณะที่วงในยอมรับ มีข่าวลือปลดธาริษา สะพัดในหน่วยงานคลัง-แบงก์ชาติ ตลอดทั้งวัน
วันนี้(28 ก.พ.) นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ในขณะนี้ โดยวันนี้แข็งค่าทะลุที่ระดับ 31.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับวานนี้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ 32.085-32.105 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นการแข็งค่าในรอบ 18 เดือน โดยนางธาริษา ระบุว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอาจจะเกิดจากการคาดการณ์ว่า ธปท.จะมีการยกเลิกมาตรการกันสำรอง30% อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าในทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค และไม่ควรดูทิศทางค่าเงินบาทในระยะสั้นๆ
นายธาริษา ตำหนิว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน การคาดการณ์เป็นเรื่องแล้วแต่ละคนจะคาดการณ์กัน อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทก็แข็งขึ้นเป็นลำดับ ก่อนหน้านี้หลายประเทศก็มีการทำนิวไฮ สลับกันไป ส่วนเราก็ทำนิวไฮเป็นครั้งคราว" นางธาริษา กล่าว
นางธาริษา ยังกล่าวว่า หากต้องการทราบว่า ธปท.เข้าแทรกแซงเงินบาทในช่วงนี้หรือไม่ ก็ให้ดูข้อมูลปริมาณทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศจากเว็บไซต์ ธปท. ก็จะทราบว่า ธปท.เข้าแทรกแซงค่าเงินบาทมากเพียงใด และย้ำว่านโยบายการดูแลบริหารจัดการของ ธปท.ไม่เปลี่ยนแปลง
"แต่ที่บอกว่าเงินบาทแข็ง เพราะผู้ว่าการ ธปท.ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่เด็ดขาด ก็แล้วแต่คนเขาจะคิด เพราะความจริง ธปท.จะคิดอะไรต้องเป็นประโยชน์กับประเทศที่สุดอยู่แล้ว"
ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มองว่า ธปท.ไม่มีความเด็ดขาดหรือชัดเจนในการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ประเด็นนี้ นางธาริษา กล่าวว่า ถือเป็นมุมมอง แต่ ธปทจะดำเนินการอะไร จะต้องพิจารณาให้เป็นประโยชน์มากที่สุด
แหล่งข่าววงใน ธปท.เปิดเผยว่า วันนี้ ตลอดทั้งวัน มีการปล่อยข่าวลือสะพัดว่า รัฐบาลจะมีคำสั่งปลดนางธาริษา ออกจากตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. เนื่องจากขัดนโยบายเรื่องการลดดอกเบี้ยและยืนยันว่าจะไม่เลิกนโยบาย 30% ในระยะนี้ ขณะที่รัฐบาลต้องการกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กำลังซื้อ และจูงใจนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
"ท่านผู้ว่าฯ โกรธมาก กรณีที่นายธีรระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. ออกมาเสนอหน้าให้ความเห็นว่า ธปท.ควรใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่แบบชั่วคราวในการดูแลค่าเงินบาท จากปัจจุบันที่ใช้อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการบริหารจัดการ (Manage Float) ตรงนี้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเสียมารยาทมาก" แหล่งข่าวจาก ธปท.กล่าว และเสริมว่า
คูณธาริษา และคุณธีระชัย ต่างเคยเป็นคู่แข่งขับเคี่ยวกันมาโดยตลอด แต่ก่อนหน้านี้ รมว.คลัง มักจะเชื่อมือคุณธาริษา ทำให้เกิดความอินฉาริษยาขึ้น พอมีจังหวะเปลี่ยนช่วงรัฐบาลใหม่ ก็เลยรีบเข้าไปเลียนายนกฯ และคุณสุรพงษ์ เพื่อหวังให้มีการปลดคุณธาริษา แต่คุณสุรพงษ์ ไม่กล้าพอ จึงโยนไปให้คุณทักษิณ(ชินวัตร) เป็นผู้ตัดสินใจแทน
ด้านแหล่งข่าวกระทรวงการคลังกล่าวในเรื่องเดียวกันว่า มีข่าวลือและข่าวปล่อยในการปลดผู้ว่าการ ธปท.จริง เพราะไม่ทำตามที่รับปากไว้ แต่ไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด และจากการตรวจสอบก็ไม่เห็นท่าทีว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง จะตัดสินใจเช่นนั้น