xs
xsm
sm
md
lg

คนหุ้นขวัญกระเจิงแม้วกลับไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักลงทุนชะลอการลงทุนห่วง "ทักษิณ" กลับไทยจุดชนวนความรุนแรงการเมืองครั้งใหม่ วอลุ่มวูบเหลือแค่ 1.5 หมื่นล้านบาท "วิสิฐ" เผยยังไม่เห็นสัญญาณรุนแรง ชี้หุ้นไทยยังมีโอกาสผันผวนต่อในระยะนี้ กระทุ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาบจ.บิ๊กไซต์เข้าระดมทุน ขณะที่"ภัทรียา" ยอมรับคดี"ยงยุทธ" ทำให้คนหุ้นกังวล เชื่อกระทบการลงทุนแค่ระยะสั้น ด้าน "ก้องเกียรติ" จี้รัฐส่งสัญญาณให้ชัดเจน "ชักชวน-ปิดกั้น" การลงทุน

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (27 ก.พ.) ตลอดทั้งวันดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆเนื่องจากความกังวลของนักลงทุนต่อการตัดสินใจเดินทางกลับมาสู้คดีของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งอาจจะเป็นชนวนทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่การตัดสินคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สร้างความไม่มั่นใจต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่งผลทำให้ดัชนีแกว่งตัวมาปิดที่ 832.04 จุด ลดลง 2.63 จุด หรือ 0.32% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 840.09 จุดและจุดต่ำสุดอยู่ที่ 832.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 15,067.37 ล้านบาท

ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 547.94 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 213.89 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 334.05 ล้านบาท

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงความเชื่อมั่นในการลงทุนของนักลงทุนหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งเรื่องการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาลฎีกาพิจารณาว่า เรื่องดังกล่าวยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่เมื่อนักลงทุนนำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์ให้รอบด้านจึงเริ่มมั่นใจมากขึ้น ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจจะกระทบเพียงแค่นักลงทุนระยะสั้น

ทั้งนี้ นักลงทุนระยะยาวเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากส่วนใหญ่ได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลรอบด้านก่อนการถือลงทุนระยะยาว ส่วนความผันผวนของดัชนีที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่เข้ามากระทบอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งที่นักลงทุนยังรอคอยคือการเร่งสานต่อนโยบายต่างๆที่เคยประกาศไว้ของรัฐบาล

**กบข.เชื่อหุ้นไทยผันผวน

นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณความรุนแรงจากปัญหาการเมืองในประเทศที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุน แต่เชื่อว่าในช่วงต่อจากนี้การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยจะยังคงความผันผวนอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ แนวทางของหน่วยงานต่างๆที่สนับสนุนการนำรัฐวิสาหกิจเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และหากเกิดขึ้นจะทำให้เกิดเสถียรภาพต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีมากขึ้น ประกอบกับการดำเนินนโยบายต่างๆของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นการลงทุนน่าจะช่วยลดความกังวลต่อปัจจัยลบในประเทศได้

"การเพิ่มคุณภาพและจำนวนสินค้าในตลาดหุ้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจจึงเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน ส่วนปัจจัยในประเทศในขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณในทางลบแต่อาจจะทำให้ดัชนีผันผวนต่อไปได้อีก"นายวิสิฐกล่าว

**หนุนปลดล็อคการลงทุน

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า เชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของตลาดหุ้นไทยเนื่องจากถือว่าเข้าสู่วัฎจักรของการลงทุนรอบใหม่ เนื่องจากนโยบายจากภาครัฐที่สนับสนุนการลงทุนในโครงการพื้นฐานต่างๆ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงที่หนุนให้ภาคธุรกิจกู้เพื่อลงทุนมากขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจัยทางการเมืองยังถือว่ากระทบต่อจิตวิทยาในการลงทุนอยู่บ้างแต่นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นหลังการเลือกตั้งกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ขณะที่ปัจจัยที่กระทบจากการไหลเข้ามาของกระแสเงินจากต่างประเทศยังถูกจำกัดจากการส่งสัญญาณที่ยังไม่ชัดเจนของรัฐบาลต่อมาตรการบางอย่างที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยหากพิจารณาถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตในระดับประมาณ 20% ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจ แต่หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความน่าสนใจโดยการดึงบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาจดทะเบียนมากขึ้นจะยิ่งช่วยให้การลงทุนมีความชัดเจนมากขึ้น

"ข่าวการเดินทางกลับประเทศของอดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าจะน่าจะกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน หากทุกอย่างเป็นไปตามกติกาของระบอบประชาธิไตย ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง"นายก้องเกียรติกล่าว

**คนหุ้นชะลอเทรดพิษการเมือง

นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี จำกัดื กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศถูกบั่นทอนจากผลการประชุมของกกต.กรณีการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งแม้ว่าจะยังมีขั้นตอนในการพิจารณาจาของศาลแต่นักลงทุนยังคงกังวลต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจึงเริ่มชะลอการลงทุนบ้าง

ทั้งนี้ คาดว่ามูลค่าการซื้อขายจะเบาบางต่อเนื่อง ขณะที่การเคลื่อนไหวของดัชนีจะทรงตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากต้องการลดความเสี่ยงจากประเด็นการเมืองอาจจะกลับมาร้อนแรงอีกครั้งหลังการเดินทางกลับมาเมืองไทยของอดีตนายกฯพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันนี้(28ก.พ.) โดยประเด็นดังกล่าว อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านจนนำไปสู่การแตกแยกทางความคิดขึ้นในสังคมอีกครั้ง

สำหรับกลยุทธ์ในการลงทุน แนะนำซื้อหุ้นพื้นฐานดีเมื่อราคาปรับลดลง และขายทำกำไรเมื่อราคาปรับเพิ่มขึ้น แนวรับ 830 จุด แนวต้าน 840 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น