“ทีซีซี แคปปิตอลฯ”เริ่มอุดช่องโหว่คอนโดฯระดับกลาง นำร่องแตกแบรนด์ใหม่ โครงการแรก "เอสแอนด์เอส สุขุมวิท" 101/1 ราคาเริ่มต้น12.8ล้านบาท ประมาณ 44,000 ต่อตร.ม. ด้าน LPN ระบุเป็นการเพิ่มผู้ประกอบการรายใหม่ในตลาดที่น่ากลัว ชี้เงินทุนหนา-ที่ดินเยอะไม่ใช่สาระสำคัญ ความสำเร็จอยู่ที่การทำตลาดมากกว่า
นายเฉิน เหลียนปัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ จำกัด ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสแอนด์เอส เรสซิเดนเชียล จำกัด (S&S Residential) เปิดเผยว่า หลังจากการสำรวจความต้องการและพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยใช้เกณฑ์ในการเลือกซื้อจากความเป็นส่วนตัว เดินทางสะดวกสบาย ลักษณะที่อยู่อาศัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสามารถตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้บริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ฯ ได้เกิดแนวความคิดที่จะขยายกลุ่มการดำเนินธุรกิจใหม่ขึ้น ภายใต้แบรนด์ใหม่ “เอสแอนด์เอส เรสซิเดนเชียล จำกัด (S&S Residential)”
ด้านนายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทีซีซีฯ ในฐานะรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอสแอนด์เอสฯ กล่าวว่าเป็นโครงการแรกในปีนี้ คือ โครงการ เอสแอนด์เอส สุขุมวิท สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 101/1 ประกอบด้วยคอนโดฯ 2 อาคาร รูปแบบตัว I สูง 22 ชั้น และตัว L สูง 18 ชั้น บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ โดยจะพัฒนาเป็นห้องชุดพักอาศัยรวม 810 ยูนิต มีขนาดห้องพักตั้งแต่ 29 - 69 ตารางเมตร(ตร.ม.) มีแบบห้องพักให้เลือกแบบสตูดิโอ1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ราคาขายเริ่มต้นที่ 1.28ล้านบาท หรือต่อตร.ม.เริ่มต้นประมาณ 44,000 บาท โดยทางบริษัทจะมีการเปิดให้ลูกค้าจองซื้อในวันที่ 29 ก.พ.นี้ ณ เอสแอนด์เอส ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (S&S Customer Club) ในบริเวณโครงการ แอทธินี เรสซิเดนซ์ ซอยถนนร่วมฤดี โดยลูกค้าที่จองซื้อห้องชุดในวันที่ 29 ก.พ.-2 มี.ค. จะได้รับส่วนเงินสดสูงสุดถึง 150,000 บาท
อนึ่ง ในส่วนของโครงการคอนโดฯที่บริษัท ทีซีซี แคปปิตอลฯได้พัฒนา ส่วนใหญ่จะเน้นตลาดระดับบน ได้แก่ โครงการแอทธินี เรสซิเดนซ์ ราคาเริ่มต้น 95,500 บาทต่อตร.ม. หรือราคาขายเริ่มต้น 8.97 ล้านบาท , โครงการดิ เอ็มไพร์ เพลส 93,000 บาทต่อตร.ม. ราคาขาย 6 ล้านบาท , โครงการดิ เอ็มโพริโอ เพลส 88,400 บาทต่อตร.ม. ราคาขาย 5.74 ล้านบาท โครงการวิลล่า ราชเทวี 99,780 บาทต่อตร.ม.ราคาขาย 4.091 ล้านบาท และโครงการวิลล่า สาทร 53,000 บาทต่อตร.ม.ราคาขาย 1.9 ล้านบาท
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า การเข้ามารุกตลาดคอนโดฯระดับกลางของผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง บริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ จำกัด ถือว่าเป็นการเพิ่มผู้ประกอบการที่น่ากลัวอีกรายในตลาด เนื่องจากทีซีซีฯมีทั้งเงินทุนและที่ดินสะสมจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม การเข้ามาในตลาดดังกล่าว ถือเป็นเรื่องปกติของผู้ประกอบการ เนื่องจากตลาดใดมีกำลังซื้อมาก ผู้ประกอบการธุรกิจก็จะเข้าทำตลาดนั้นๆ
ทั้งนี้ การเข้ามาทำตลาดของ ทีซีซีฯ อาจจะส่งผลให้ในบริเวณที่บริษัทได้เข้าไปพัฒนา ทำให้เกิดการแข่งขันที่ร้อนแรงขึ้น แต่ไม่ส่งผลต่อผู้ประกอบการในตลาดรวมมากนัก เนื่องจากการมีที่ดินสะสมจำนวนมาก และมีเงินทุนหนา ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จในการทำตลาด สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการและการตลาดที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จมากกว่า
“การเข้าในมาเล่นตลาดกลางของ ทีซีซีฯ ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกและน่ากลัวมากมาย แต่เป็นการเพิ่มคู่แข่งในตลาดของผู้ประกอบการรายเดิมเท่านั้น แต่ที่น่ากลัวกว่า คือผู้ที่ไม่เล่นตามกติกาของตลาด ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อตลาดรวม”
นายเฉิน เหลียนปัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ จำกัด ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสแอนด์เอส เรสซิเดนเชียล จำกัด (S&S Residential) เปิดเผยว่า หลังจากการสำรวจความต้องการและพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยใช้เกณฑ์ในการเลือกซื้อจากความเป็นส่วนตัว เดินทางสะดวกสบาย ลักษณะที่อยู่อาศัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสามารถตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้บริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ฯ ได้เกิดแนวความคิดที่จะขยายกลุ่มการดำเนินธุรกิจใหม่ขึ้น ภายใต้แบรนด์ใหม่ “เอสแอนด์เอส เรสซิเดนเชียล จำกัด (S&S Residential)”
ด้านนายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทีซีซีฯ ในฐานะรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอสแอนด์เอสฯ กล่าวว่าเป็นโครงการแรกในปีนี้ คือ โครงการ เอสแอนด์เอส สุขุมวิท สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 101/1 ประกอบด้วยคอนโดฯ 2 อาคาร รูปแบบตัว I สูง 22 ชั้น และตัว L สูง 18 ชั้น บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ โดยจะพัฒนาเป็นห้องชุดพักอาศัยรวม 810 ยูนิต มีขนาดห้องพักตั้งแต่ 29 - 69 ตารางเมตร(ตร.ม.) มีแบบห้องพักให้เลือกแบบสตูดิโอ1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ราคาขายเริ่มต้นที่ 1.28ล้านบาท หรือต่อตร.ม.เริ่มต้นประมาณ 44,000 บาท โดยทางบริษัทจะมีการเปิดให้ลูกค้าจองซื้อในวันที่ 29 ก.พ.นี้ ณ เอสแอนด์เอส ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (S&S Customer Club) ในบริเวณโครงการ แอทธินี เรสซิเดนซ์ ซอยถนนร่วมฤดี โดยลูกค้าที่จองซื้อห้องชุดในวันที่ 29 ก.พ.-2 มี.ค. จะได้รับส่วนเงินสดสูงสุดถึง 150,000 บาท
อนึ่ง ในส่วนของโครงการคอนโดฯที่บริษัท ทีซีซี แคปปิตอลฯได้พัฒนา ส่วนใหญ่จะเน้นตลาดระดับบน ได้แก่ โครงการแอทธินี เรสซิเดนซ์ ราคาเริ่มต้น 95,500 บาทต่อตร.ม. หรือราคาขายเริ่มต้น 8.97 ล้านบาท , โครงการดิ เอ็มไพร์ เพลส 93,000 บาทต่อตร.ม. ราคาขาย 6 ล้านบาท , โครงการดิ เอ็มโพริโอ เพลส 88,400 บาทต่อตร.ม. ราคาขาย 5.74 ล้านบาท โครงการวิลล่า ราชเทวี 99,780 บาทต่อตร.ม.ราคาขาย 4.091 ล้านบาท และโครงการวิลล่า สาทร 53,000 บาทต่อตร.ม.ราคาขาย 1.9 ล้านบาท
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า การเข้ามารุกตลาดคอนโดฯระดับกลางของผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง บริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ จำกัด ถือว่าเป็นการเพิ่มผู้ประกอบการที่น่ากลัวอีกรายในตลาด เนื่องจากทีซีซีฯมีทั้งเงินทุนและที่ดินสะสมจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม การเข้ามาในตลาดดังกล่าว ถือเป็นเรื่องปกติของผู้ประกอบการ เนื่องจากตลาดใดมีกำลังซื้อมาก ผู้ประกอบการธุรกิจก็จะเข้าทำตลาดนั้นๆ
ทั้งนี้ การเข้ามาทำตลาดของ ทีซีซีฯ อาจจะส่งผลให้ในบริเวณที่บริษัทได้เข้าไปพัฒนา ทำให้เกิดการแข่งขันที่ร้อนแรงขึ้น แต่ไม่ส่งผลต่อผู้ประกอบการในตลาดรวมมากนัก เนื่องจากการมีที่ดินสะสมจำนวนมาก และมีเงินทุนหนา ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จในการทำตลาด สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการและการตลาดที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จมากกว่า
“การเข้าในมาเล่นตลาดกลางของ ทีซีซีฯ ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกและน่ากลัวมากมาย แต่เป็นการเพิ่มคู่แข่งในตลาดของผู้ประกอบการรายเดิมเท่านั้น แต่ที่น่ากลัวกว่า คือผู้ที่ไม่เล่นตามกติกาของตลาด ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อตลาดรวม”