ตลท.เผยผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหาร บจ.จำนวน 101 แห่ง ระบุ ผู้บริหาร บจ. ต้องการให้รัฐบาลใหม่ เร่งโครงการรถไฟฟ้า และสร้างความสมานฉันท์มากที่สุด พร้อมคาดการณ์อายุรัฐบาล 1 ปี มั่นใจศก.อีก 6 เดือนข้างหน้าจะดีขึ้น เตรียมวางแผนลงทุนเพิ่ม ขณะที่ผลสำรวจ 31% มองส่งออกแย่ลง
วันนี้(19 ก.พ.) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหาร บริษัทจดทะเบียน(บจ.) ประจำไตรมาส 1 ปี 2551 จาก 101 บริษัท ที่อยู่ใน 8 หมวดอุตสาหกรรม ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 62% ของมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด โดยพบว่า ผู้บริหาร บจ.จำนวนกว่า 48% ประเมินปัจจัยการเมืองหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เชื่อว่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ผลสำรวจ 51% มองว่ารัฐบาลใหม่น่าจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ขณะที่เสถียรภาพการเมืองมีบทบาทต่อการตัดสินใจลงทุนใหม่ของ บจ. ผลสำรวจยังพบว่า หลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ นักลงทุนต่างชาติจะมองประเทศไทยดีขึ้นถึง 55% ส่วนสิ่งที่อยากให้รัฐบาลใหม่ทำมากที่สุด ได้แก่ การเร่งโครงการเมกะโปรเจกต์เพื่อให้เอกชนลงทุนตาม โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า สร้างความสมานฉันท์และกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
ส่วนภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ผู้บริหาร บจ.ส่วนใหญ่เห็นว่าจะขยายตัวประมาณ 4.0 - 4.4% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ จะสูงขึ้นอยู่ที่ 3-4% โดยพบว่า 44% เชื่อว่าภาวะโดยรวมของเศรษฐกิจไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะดีขึ้น และ คาดหวังว่าการลงทุนในอีก 12 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นถึง 58% โดยปัจจัยที่มีผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ เศรษฐกิจในประเทศ 69% การเมือง 54% ซึ่งแผนการระดมทุนจะใช้กำไรสะสมและขอสินเชื่อจากธนาคาร และพบว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า ราคาสินค้าและวัตถุดิบจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเอกชนต้องการให้ราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกลตลาด และจากผลสำรวจยังพบว่า บจ.จำนวนถึง 40% ได้รับผลกระทบเชิงลบต่อการแข็งค่าของเงินบาท และมีจำนวน 31% แนวโน้มส่งออกแย่ลง
สำหรับผลกระทบจากเศรษฐกิจสหรัฐ ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน คิดว่ามีโอกาสเฉลี่ย 55% ที่จะเกิดปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในระบบเศรษฐกิจสหรัฐและคิดว่าปัญหาภาวะเศรษฐกิจสหรัฐจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย