" ไทยเบฟ" ปฏิเสธข่าวลือ "เจ้าสัวเจริญ" เจรจาซื้อหุ้น SHIN จากกลุ่มเทมาเสก สิงคโปร์ ยืนยัน ไม่เคยอยู่ในความสนใจ แม้จะมีการร่วมลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ 40%
วันนี้(8 ก.พ.) มีรายงานข่าวกรณีที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ระบุว่าหุ้นของ บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ(ชินคอร์ป : SHIN) ปรับขึ้นเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน โดยมีกระแสข่าวลืนสะพัดไปตามห้องค้าหลักทรัพย์ฯ โดยบอกว่า กลุ่มเทมาเสกของสิงคโปร์ เตรียมเจรจาขายหุ้นส่วนหนึ่งให้กับนายเจริญ สิริวัฒนภักดีประธานกรรมการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) หรือไทยเบฟ ทำให้ล่าสุด ราคาหุ้น SHIN บวก 2.25 บาท หรือ 8.82% มาที่ 27.75 บาท หลังปรับขึ้นสูงสุดที่ 29 บาท เทียบจากระดับสูงสุดที่ 29.50 บาท เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 50 นั้น
ล่าสุด แหล่งข่าวจาก บมจ.ไทยเบฟ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดย นายเจริญไม่เคยสนใจหุ้นของ SHIN เลย และไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีการซื้อขายหุ้นดังกล่าว โดยเห็นว่ากระแสข่าวการซื้อขายหุ้นทางบริษัทได้ยินมานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า การเจรจาซื้อขายหุ้นดังกล่าว จะมีความชัดเจนหลังจากที่กลุ่ม นายเจริญ เสร็จสิ้นการตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อเข้าซื้อหุ้นบริษัท คาราบาวตะวันแดง เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง
ปัจจุบัน มีข้อมูลระบุว่า กลุ่มเทมาเสกได้ร่วมลงทุนกับ นายเจริญ จัดตั้งบริษัท ที.ซี.ซี.แคปปิตอล แลนด์ เงินลงทุนขั้นต้น 2 พันล้านบาทเพื่อเจาะตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเทมาเสกถือหุ้นผ่าน บริษัท แคปปิตอล แลนด์ ในสัดส่วนถึง ร้อยละ 40
นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เอเซียพลัส กล่าวว่า ราคาหุ้น SHIN เช้านี้ดีดตัวขึ้น คาดว่าจะเป็นการรีบาวน์ทางเทคนิค เนื่องจากพื้นฐานราคาหุ้นได้ต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดฯ และเป็นการตอบรับเรื่องที่อดีตนายกรัฐมนตรี(พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) จะกลับเมืองไทย รวมทั้งยังรับประโยชน์จากบริษัทลูก ADVANC ด้วยที่คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้น
ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ แนะซื้อเก็งกำไร โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 31 บาท/หุ้น แม้การถือครองหุ้นชินคอร์ปของเทมาเสกจะเงียบไปในช่วงที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าความพยายามที่จะลดการถือครองหุ้นดำเนินมาโดยตลอด ซึ่งเป็นไปตามที่บริษัทเคยแถลงไว้ และเป็นไปตามนโยบายการลงของเทมาเสก ในช่วงหลังที่เริ่มตระหนักถึงความละเอียดอ่อนของปัญหาการลงทุนในภูมิภาค ทั้งเคยเผชิญปัญหาความขัดแย้งเชิงผลประโยชน์จากการเข้าถือหุ้นใน 2 กิจการที่เป็นคู่แข่งกันในประเทศอินโดนีเซีย ทำให้เทมาเสกระมัดระวังปัญหาจากการลงทุนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลดสัดส่วนการลงทุนหรือระบายการลงทุนออกไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากหากเทมาเสกจะลดสัดส่วนลง 42% จาก 91% เหลือ 49% จะใช้เงินอย่างน้อย 3196 x 42% x 25.50 = 34,229 ล้านบาท (ที่ราคาตลาด) หรือสูงถึงกว่า 6.6 หมื่นล้านบาทหากอิงจากราคารับซื้อที่ 49.25 บาท ในอดีต ทำให้มีผู้ที่สามารถซื้อได้น้อยราย ดังนั้นดีลนี้จึงไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด ตลอดจนจะเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปัจจุบันน่าสนใจจากมูลค่าที่ต่ำกว่า NAV มาก
โดยวันนี้ ราคาหุ้น SHIN ราคาพุ่งขึ้น 7.84% มาอยู่ที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท มูลค่าซื้อขาย 14.55 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.11 น. ราคาเปิดตลาดที่ 26 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 29 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 26 บาท