เมเจอร์ฯ มั่นใจซับไพรม์ไม่กระทบธุรกิจ ระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน กำลังซื้อสูง ย้ำคอนโดฯไฮเอนด์โตต่อเนื่องอีก 1-3 ปี เหตุปริมาณยูนิตในตลาดยังต่ำ ขณะที่ความต้องการซื้อแนวโน้มยังมีสูง ด้าน “รสาฯ” เผยยังเน้นทำตลาดเฉพาะกลุ่มลูกค้า ล่าสุดเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว”รสา พาร์คเลน วัชรพล” บนพื้นที่ 30 ไร่ มูลค่า 650 ล้านบาท มั่นใจผู้บริโภคให้การตอบรับ
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เปิดเผยถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอยว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับกำลังซื้อของลูกค้า เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าชัดเจน มีกำลังซื้อสูง พร้อมที่จะตัดสินใจซื้อ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จะเป็นเพียงปรากฎการณ์ในระยะสั้นๆ ที่ไม่น่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจของกลุ่มลูกค้าหลัก
นอกจากนี้ จำนวนยูนิต(ซัปพลาย)คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ยังไม่มีจำนวนน้อยกว่าความต้องการในตลาด ซึ่งจากการสำรวจความต้องการคอนโดฯเกรดเอ ราคาสูงกว่า 5 ล้านบาท ยังมีความต้องการอยู่มาก เมื่อเทียบกับคอนโดฯระดับกลาง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ ขณะที่ทุกโครงการของบริษัทฯตั้งอยู่ในทำเลที่มีความต้องการสูงและใกล้เส้นทางรถไฟฟ้าทั้งBTSและMRT
“ เชื่อว่า ตลาดคอนโดฯระดับบน ยังมีโอกาสเติบโตอย่างน้อย1 – 3 ปีนี้ แต่หากความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด บริษัทฯ ก็ไม่กังวล เพราะทุกโครงการมีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการให้เป็นประเภทอื่นๆ ได้ เช่น โครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์หรือโรงแรม เป็นต้น”
ปัจจุบัน บริษัทเมเจอร์ฯ มีโครงการคอนโดฯที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวม 13,800 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายไดหลักจากโครงการ วอเตอร์มาร์ค ทาวเวอร์ เอ มีมูลค่า 3,900 ล้านบาท โครงการแมนฮัตตัน ชิดลม มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท และบางส่วนจากโครงการ ฟูลเลอตัน สุขุมวิท มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ส่วนปี 2551 บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากทั้ง 8 โครงการที่ขายอยู่
ด้านนายรพิ พินิจชอบ รองกรรมการผู?จัดการ สายการตลาดและการขาย บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ยังเน้นนโยบายพัฒนาอสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในทำเลที่สามารถตอบสนองพฤติกรรม(ไลฟ์สไตล์)ของลูกค้า โดยล่าสุดได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว “รสา พาร์คเลน“ ใน ซอยวัชรพล มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท จำนวน 95 แปลง โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างบ้านในเฟสแรก คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปีนี้
สำหรับแบบในโครงการดังกล่าวแบ่งออกเป็น 4 แบบ คือ Daytona พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.ราคา 6.4 – 7.4 ล้านบาท Orlando พื้นที่ 229.21 ตร.ม. ราคา6.6 – 8 ล้านบาท Newport พื้นที่ 260.16 ตร.ม.ราคา 7.7 – 9.5 ล้านบาท และ Malibu พื้นที่ 178.54 ตร.ม.ราคา 5.6 – 6.2 ล้านบาท
ปัจจุบัน รสาฯมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรสา สแปนิช คอร์ทยาร์ เกษตร-นวมินทร์ โครงการ วิลมอร์ คอนโดฯ ซอยพหลโยธิน 32 โครงการ เดอะ ไลท์เฮ้าส์ คอนโดฯ ถนนสาทร-เจริญนคร 14 โครงการอินโทร คอนโดฯพหลโยธิน และโครงการ รสา พาร์คเลน วัชรพล
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เปิดเผยถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอยว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับกำลังซื้อของลูกค้า เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าชัดเจน มีกำลังซื้อสูง พร้อมที่จะตัดสินใจซื้อ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จะเป็นเพียงปรากฎการณ์ในระยะสั้นๆ ที่ไม่น่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจของกลุ่มลูกค้าหลัก
นอกจากนี้ จำนวนยูนิต(ซัปพลาย)คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ยังไม่มีจำนวนน้อยกว่าความต้องการในตลาด ซึ่งจากการสำรวจความต้องการคอนโดฯเกรดเอ ราคาสูงกว่า 5 ล้านบาท ยังมีความต้องการอยู่มาก เมื่อเทียบกับคอนโดฯระดับกลาง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ ขณะที่ทุกโครงการของบริษัทฯตั้งอยู่ในทำเลที่มีความต้องการสูงและใกล้เส้นทางรถไฟฟ้าทั้งBTSและMRT
“ เชื่อว่า ตลาดคอนโดฯระดับบน ยังมีโอกาสเติบโตอย่างน้อย1 – 3 ปีนี้ แต่หากความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด บริษัทฯ ก็ไม่กังวล เพราะทุกโครงการมีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการให้เป็นประเภทอื่นๆ ได้ เช่น โครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์หรือโรงแรม เป็นต้น”
ปัจจุบัน บริษัทเมเจอร์ฯ มีโครงการคอนโดฯที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวม 13,800 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายไดหลักจากโครงการ วอเตอร์มาร์ค ทาวเวอร์ เอ มีมูลค่า 3,900 ล้านบาท โครงการแมนฮัตตัน ชิดลม มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท และบางส่วนจากโครงการ ฟูลเลอตัน สุขุมวิท มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ส่วนปี 2551 บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากทั้ง 8 โครงการที่ขายอยู่
ด้านนายรพิ พินิจชอบ รองกรรมการผู?จัดการ สายการตลาดและการขาย บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ยังเน้นนโยบายพัฒนาอสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในทำเลที่สามารถตอบสนองพฤติกรรม(ไลฟ์สไตล์)ของลูกค้า โดยล่าสุดได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว “รสา พาร์คเลน“ ใน ซอยวัชรพล มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท จำนวน 95 แปลง โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างบ้านในเฟสแรก คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปีนี้
สำหรับแบบในโครงการดังกล่าวแบ่งออกเป็น 4 แบบ คือ Daytona พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.ราคา 6.4 – 7.4 ล้านบาท Orlando พื้นที่ 229.21 ตร.ม. ราคา6.6 – 8 ล้านบาท Newport พื้นที่ 260.16 ตร.ม.ราคา 7.7 – 9.5 ล้านบาท และ Malibu พื้นที่ 178.54 ตร.ม.ราคา 5.6 – 6.2 ล้านบาท
ปัจจุบัน รสาฯมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรสา สแปนิช คอร์ทยาร์ เกษตร-นวมินทร์ โครงการ วิลมอร์ คอนโดฯ ซอยพหลโยธิน 32 โครงการ เดอะ ไลท์เฮ้าส์ คอนโดฯ ถนนสาทร-เจริญนคร 14 โครงการอินโทร คอนโดฯพหลโยธิน และโครงการ รสา พาร์คเลน วัชรพล
