xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นรูดรับ “หมัก” นั่งนายกฯ วงการลุ้นทีมคุม ศก.-เฟดลด ด/บ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดัชนีตลาดหุ้นทั่วเอเชียอ่วมพร้อมใจแดงเถือก หุ้นไทยร่วง 2% หลังนักลงทุนยังไม่คลายกังวลวิกฤตซับไพรม์ ประกอบกับนักลงทุนไม่ตอบรับนอมินีแม้ว “สมัคร” ขึ้นเป็นนายกฯ ชี้ต้องรอลุ้นขุนคลัง-ทีมเศรษฐกิจใหม่ ฟื้นศรัทธา โบรกฯชี้นักลงทุนให้น้ำหนักทีมเศรษฐกิจมากกว่าตำแหน่งนายกฯ ขณะที่รอผลเฟดลดดอกเบี้ยคืนนี้ ระบุ หากเกินกว่า 0.50% อาจจะสะท้อนว่า ศก.สหรัฐฯส่อทรุดหนัก “ภัทรียา” ชี้การเมืองในประเทศไม่น่าห่วง

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (28 ม.ค.) แม้สถานการณ์ทางการเมืองจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลัง นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่นักลงทุนยังไม่กล้าลงทุน เนื่องจากยังกังวลต่อปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ว่า จะขยายวงกว้างมากน้อยเพียงใด ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างหนัก ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาปิดที่ 744.36 จุด ลดลง 15.36 จุด หรือ 2.02% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 753.04 จุด ขณะที่จุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 740.34 จุด มูลค่าการซื้อขาย 13,886.42 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 625.20 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 537.36 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,162.56 ล้านบาท

นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด กล่าวว่า การปรับลดลงแรงของตลาดหุ้นเอเชียทั้ง จีน ฮ่องกง และ ญี่ปุ่น กดดันตลาดหุ้นไทยให้ปรับลดลงตาม ซึ่งคาดว่านักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิอีกครั้ง หลังเพิ่งซื้อสุทธิเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจากความกังวลในปัญหาซับไพรม์ที่มีต่อสถาบันการเงินทั่วโลกจะยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในการประชุมวันพุธนี้ก็อยู่ในการคาดหมายของนักลงทุนอยู่แล้ว ทำให้ตลาดหุ้นในวานนี้ขาดปัจจัยบวกที่จะมากระตุ้นตลาด

สำหรับปัจจัยทางการเมืองแม้จะได้นายกรัฐมนตรีแล้ว แต่มองว่า นักลงทุนให้น้ำหนักกับตัวนายกฯ น้อยกว่าทีมเศรษฐกิจที่จะมาบริหารงานมากกว่า โดยต้องรอดูว่าเมื่อมีการประกาศทีมเศรษฐกิจออกมา ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ตลาดหุ้นจะตอบรับดีหรือไม่ สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ มีโอกาสปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยอาจจะมีการรีบาวนด์เป็นบางช่วงเมื่อมีข่าวดีเข้ามา ประเมินแนวรับที่ 725-730 จุด แนวต้านที่ 750-755 จุด

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงตามทิศทางในตลาดหุ้นภูมิภาค และตลาดหุ้นดาวโจนส์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลในเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยยังคงมีอยู่ แม้เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.75% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนักวิเคราะห์ต่างประเทศ มองว่า การลดดอกเบี้ยเป็นเพียงการช่วยผ่อนคลายแรงเทขายจากความตื่นตระหนกเท่านั้น ในขณะที่มาตรการคืนภาษีให้แก่ประชาชนของสหรัฐฯ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯอาจยังไม่เพียงพอในการกระตุ้นเศรษฐกิจและกว่าจะเห็นผลก็ใช้เวลานาน ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 30 ม.ค.นี้ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหรือไม่

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ ยังผันผวนต่อเนื่องตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่มีแนวโน้มอ่อนตัวต่อเนื่อง รอข่าวเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยต้องติดตามดูว่า ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐฯ ที่จะแถลงนโยบายประจำปีคืนนี้ (28 ม.ค.) ว่า จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ออกมาอีกหรือไม่ โดยประเมินแนวรับที่ 737-739 จุด และแนวต้านที่ 753-755 จุด

**ลุ้นว่าที่ขุนคลังรัฐบาลใหม่

นายกิตติ เหมนิลรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า นักลงทุนจับตาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในรอบนี้ว่าจะเท่าไหร่ ซึ่งหากมีการปรับลดดอกเบี้ยมากก็เป็นเรื่องที่น่ากลัว เพราะจะแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ไม่ดี ขณะที่ประเด็นการเมืองไทย แม้ว่าจะได้ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็เป็นเรื่องที่ตลาดหุ้นคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่นักลงทุนจับตาคือตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยจะต้องเป็นผู้ที่สามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันนี้ คาดว่า ตลาดน่าจะปรับตัวลงต่อ แต่ระหว่างวันอาจจะมีการรีบาวนด์ตามสัญญาเทคนิคได้

นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) หรือ KGI กล่าวว่า นักลงทุนต่างประเทศยังมีการขายหุ้นอย่างต่อเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ที่ถดถอยจากปัญหาซับไพรม์ รวมถึงวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรง จึงทำให้มีนักลงทุนบางส่วนขายหุ้นเพื่อทำกำไร โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลดงประมาณ 2% นั้น ยังถือว่าเป็นระดับที่น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ที่ดัชนีปรับตัวลดลงโดยเฉลี่ย 3%

สำหรับวันนี้แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ เชื่อว่า ตลาดจะผันผวนตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยต้องติดตามผลการประชุมของเฟดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยเท่าไหร่ และนักลงทุนจะตอบรับกับการประชุมครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 740 จุด แนวต้านที่ระดับ 750 จุด โดยหากดัชนีปรับตัวลดลงมามากกว่าแนวรับ ก็อาจมีโอกาสที่ดัชนีปรับตัวลดลงได้อีกอยู่ที่ 715 จุดได้

**ปัจจัยลบนอก ปท.ถล่มหุ้น

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในขณะนี้ปัจจัยที่กระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไม่ใช่ปัญหาการเมืองในประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมาความชัดเจนหลายเรื่อง ทำให้ปัจจัยดังกล่าวคลายความกังวลลงไป แต่ปัจจัยที่ยังถือว่ากระทบต่อการลงทุนส่วนใหญ่เป็นปัจจัยจากต่างประเทศอันเนื่องมาจากปัญหาซับไพรม์

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังคงความผันผวนต่อไป โดยตลาดหุ้นจะเข้าสู่สภาวะปกติก็ต่อเมื่อสถานการณ์จากต่างประเทศมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งในเรื่องตัวเลขของผลเสียหายที่เกิดจากซับไพรม์ รวมถึงแนวทางในการแก้ไข หรือบรรเทาปัญหาของรัฐบาลสหรัฐฯ

**ตลาดหุ้นเอเชียทรุดทั่วหน้า

ด้านตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปรับลดลงโดยทั่วหน้า โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนปิดติดลบถึง 342.39 จุด หรือ 7.19% ปิดที่ 4,419.29 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีกครั้งประกอบกับตลาดหุ้นดาวโจนส์ติดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รวมถึงผลกระทบจากสภาพอากาศที่เลวร้ายในประเทศตามด้วย เช่นเดียวกับตลาดหุ้นฮ่องกงที่ติดลบ 1,068.76 จุด หรือ 4.25% ปิดที่ 24,053.61 จุด ขณะที่ ดัชนีนิกเกอิ 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลดลง 541.25 จุด หรือ 3.97% ที่ 13,087.91 จุด

ดัชนีสเตรตส์ไทมส์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดลดลง 118.42 จุด หรือ 3.7% ปิดที่ 3,041.06 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดลดลง 253.80 จุด หรือ 3.28% ปิดที่ 7,485.79 จุด โดยนักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อนช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนและก่อนการเปิดเผยรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ในสัปดาห์นี้ โดยตลาดหุ้นไต้หวันจะเปิดทำการซื้อขายวันสุดท้ายในวันศุกร์นี้ ก่อนที่จะปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีนไปจนถึงวันที่ 12 ก.พ.ดัชนี BSE 30 ตลาดหุ้นอินเดียปรับลดลง 208.88 จุด หรือ 1.14% ปิดที่ 18,152.78 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น