xs
xsm
sm
md
lg

ความผันผวนตลาดหุ้นจีนปีนี้ ทำเทรดเดอร์ไม่ผลีผลามลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไฟแนนเชียลไทมส์ – นักลงทุนเชื่อตลาดหุ้นจีนจะปรับตัวลงต่อเนื่องในปีนี้ ความผันผวนและความเสี่ยงของตลาดหุ้นจีน ทำให้นักลงทุนงัดกลยุทธ์ต่าง ๆ มาใช้อย่าง ไม่ผลีผลาม เลิก “ซื้ออะไรก็ได้” เหมือนในปีที่แล้ว

หลังจากเป็นดาวเด่นในภูมิภาคเอเชียมานานท่ามกลางความวุ่นวายในตลาดโลกจากวิกฤตสินเชื่อด้อยคุณภาพในสหรัฐฯ หรือซับไพร์ม และความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย แต่ขณะนี้นักลงทุนกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีนอย่างระมัดระวัง โดยมองว่าตลาดหุ้นจีนในปีนี้กำลังอยู่ภาวะขาลง ซึ่งปรับตัวลงมาราว10% และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงอีก

ขณะนี้ ทางการจีนกำลังใช้มาตรการคุมเข้ม เพื่อปรับการเกินดุลการค้าของประเทศให้อยู่ในภาวะสมดุล, ควบคุมเงินเฟ้อ และแก้ไขปัญหาการส่งออก ที่ลดลง อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสภาวการณ์เช่นนี้ การลงทุนในตลาดหุ้นจีนจึงจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ซิกแซกยิ่งกว่าในปีก่อน

ในการดิ่งเหวของตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวันอังคาร (22 ม.ค.) สัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ดำดิ่งลง 7.2% หลังจากดิ่งลงแล้ว 5% ในวันก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีหั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงดิ่งลง 8.7% อย่างไรก็ตาม เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ ตลาดหุ้นก็ดีดตัวขึ้น โดยดัชนีตลาดเซี่ยงไฮ้ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วัน แม้ขาดทุนตลอดสัปดาห์ 8.7% ก็ตาม เทียบกับตลาดหุ้นฮ่องกงที่ขาดทุนตลอดสัปดาห์ 0.3%

ความผันผวนของตลาดหุ้นจีนทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งหันมาใช้กลยุทธ์เข้าถือหุ้นในระยะสั้นทางอ้อม โดยทำช็อร์ตเซลผ่านกองทุนETF (exchange-traded funds) ของจีนเนื่องจากการทำช็อร์ตเซลในตลาดหลักทรัพย์กระดานเอของจีนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เช่นการทำช็อร์ตเซลผ่าน iShares A50 China หรือ CSI 300 China ETF

ขณะที่นักลงทุนอีกส่วนหนึ่งเข้าถือครองหุ้นระยะสั้นในหุ้นบริษัทจีน ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ทว่า ยังมีนักลงทุนอีกจำนวนหนึ่งที่ยังคงถือครองหุ้นเพื่อเก็งกำไรในระยะยาวในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีการตั้งรับที่ดีกว่า และปล่อยชะตากรรมให้อยู่ในอุ้งมือผู้บริโภคภายในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อของจีน ซึ่งขณะนี้แตะระดับสูงสุดในรอบ 11ปี ได้กลายเป็นปัญหาหนักหน่วงสำหรับผู้กำหนดนโยบายของจีน และมาตรการควบคุมต่าง ๆ เช่น ปล่อยเงินหยวนแข็งค่า, เพิ่มสัดส่วนเงินสำรองธนาคาร และเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นจีนมากขึ้น ในช่วงที่การส่งออกไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปกำลังชะลอตัว รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม โรเบิร์ต ฟอน บาเท็นเบิร์ก นักวิเคราะห์ของหลุยส์ แคพปิตอล มาร์เก็ตส์ บริษัทโบรกเกอร์ ซึ่งมีกองทุนป้องกันความเสี่ยงเป็นลูกค้าด้วยนั้นชี้ว่า เป็นสภาวการณ์ที่นักลงทุนเหมือนหนีเสือปะจระเข้ ซึ่งหาทางออกลำบากมาก เขายังมองด้วยว่าตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น จะปรับตัวลง 20-50% ในปีนี้ จากระดับเมื่อวันที่ 22 มกราคม

นักวิเคราะห์ยังมองว่า ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารของจีนจะปรับตัวลง อันเป็นผลจากที่รัฐบาลจีนออกมาตรการเข้มงวดในการปล่อยกู้ของธนาคาร โดยธนาคารจีน ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง และสามารถทำช็อร์ตเซลได้นั้น รวมทั้งไชน่า คอนสตรั๊คชั่น แบงก์ ,ไชน่า ซิติก แบงก์ และไชน่า เมอร์แชนต์ แบงก์

เวนดี้ หลิว นักวิเคราะห์ของเอบีเอ็ม อัมโร เชื่อว่า ดัชนีหุ้นธนาคารจีนจะปรับตัวลงอย่างมาก โดยดัชนีหุ้นธนาคารหลายแห่งปรับตัวลงกว่า 30% แล้วจากที่เคยแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนตุลาคม นอกจากนั้นมาตรการปล่อยกู้ที่เข้มงวดมากขึ้น ยังมีแนวโน้มส่งผลเสียต่อธนาคารรายย่อยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น