ธปท.เผยไม่พบเงินไหลเข้าเก็งกำไรบาท เตือนผู้ส่งออก-นำเข้าหยุดเทขายเงินดอลลาร์ คาดช่วง 1-2 ปีนี้ เงินทุนทั่วโลกไหลเข้าอุดรูรั่ว ศก.ในสหรัฐฯ ต้นเหตุเงินดอลลาร์ผันผวนหนัก พร้อมยืนยันค่าเงินบาทแข็งเกาะกลุ่มในภูมิภาค
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.ไม่พบเงินไหลเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาทในระยะนี้ แม้บาททรงตัวในระดับแข็งค่า และไม่พบว่านักลงทุนสถาบันเข้ามาเก็งกำไรด้วย ส่วนกรณีที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นในระยะนี้ก็ยังไม่ได้ไหลออกไปจากประเทศ
นางธาริษา ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้บาทแข็งค่ามาจากการคาดการณ์แนวโน้มค่าเงินบาทว่าจะแข็งค่าขึ้น ทำให้มีการเทขายดอลลาร์เพียงข้างเดียว ธปท.จึงขอเตือนทั้งด้านผู้ส่งออกและผู้นำเข้าไม่ควรจะเก็งค่าเงินบาทหรือดอลลาร์ไปทางใดทางหนึ่ง เนื่องจากจะมีโอกาสเจ็บตัวได้มาก และทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเกิดความผันผวน แต่สิ่งที่ควรทำ คือ การป้องกันความเสี่ยง
“ถ้าเก็งถูกก็ดีไป ถ้าเก็งผิดก็อาจจะเจ็บตัวได้ ผู้ส่งออกควรทำประกันความเสี่ยงทั้งสองด้าน จะดีที่สุด” ผู้ว่าการ ธปท.ระบุ
นางธาริษา กล่าวว่า มุมมองต่อแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ขณะนี้ยังมีหลายมุมมองที่แตกต่างกัน มุมหนึ่งมองว่า ดอลลาร์อ่อนลงมากแล้วในช่วง 1-2 ปีนี้ จึงคาดว่าจากนี้ไปจะมีเงินไหลเข้าสหรัฐฯ เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาถูกลงจากผลกระทบปัญหาซับไพรม์ และจะมีเงินไหลเข้าไปเพิ่มทุนในสถาบันการเงินที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาซับไพรม์เช่นกัน ส่วนอีกมุมหนึ่งมองว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น และ ธปท.เองก็ไม่รู้ว่าทิศทางที่แท้จริงแล้วจะเป็นอย่างไร
ขณะนี้ค่าเงินบาทก็ไม่ได้แข็งค่าไปมากกว่าค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค จะเห็นได้จากค่าเงินเปโซและริงกิต ทำนิวไฮเป็นรายวัน ทั้งนี้ ธปท.เห็นว่าไม่ควรมองค่าเงินเป็นรายวัน แต่ควรจะดูในภาพรวม ซึ่งการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท.ถือว่าไม่มีปัญหา โดยจะพยายามดูแลให้เงินบาทเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มค่าเงินในภูมิภาค
ผู้ว่าการ ธปท.ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้มีแนวโน้มที่ดี การนำเข้าในช่วงไตรมาส 3/50 ที่เร่งตัวขึ้น สะท้อนให้เห็นสัญญาณว่าการลงทุนจะปรับตัวดีขึ้น ส่วนการนำเข้าจะยังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ขึ้นกับการใช้จ่ายภายในประเทศ สิ่งสำคัญคือ การทำให้เศรษฐกิจมีตัวหลักในการขับเคลื่อนเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากที่มีการส่งออกอยู่แล้ว ซึ่งปัจจัยสำคัญตัวหนึ่งคือการลงทุน
