ผู้บริหาร ธปท.เต้น! หลังถูก รมว.คลังตำหนิบริหารค่าเงินบาทอ่อนหัด ยืนยัน “ดัชนีค่าเงินบาท” ไม่แตกต่างจากค่าเงินภูมิภาค ชี้ตั้งแต่ปีใหม่ ค่าเงินบาทแข็งแค่ 1.6% เพราะดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า โวยลั่น "รมว.คลัง" ไม่ควรมองแค่ค่าเงินสหรัฐเพียงสกุลเดียว พร้อมระบุ ผู้ว่าการฯ ได้ชี้แจงเรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (11 ม.ค.) นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่กระทรวงการคลังออกมาตำหนิการบริหารค่าเงินภายในประเทศ โดยระบุว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ธปท.บริหารเงินบาทล้มเหลว ตลาดสามารถจับทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทได้ ทั้งที่มีการกำชับหลายครั้งนั้น นางอมรา ระบุว่า ดัชนีค่าเงินบาทของไทยยังไม่แตกต่างจากเงินสกุลอื่นในภูมิภาค แสดงให้เห็นว่าไทยยังไม่เสียความสามารถในการส่งออก แม้ตั้งแต่ต้นปีนี้เงินบาทเทียบกับดอลลาร์แข็งค่ากว่า 1% แล้วก็ตาม
“กระทรวงการคลังไม่ควรเปรียบเทียบเฉพาะกับดอลลาร์เพียงสกุลเดียว พร้อมยืนยันว่า ผู้ว่าการ ธปท.และนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีการหารือกันแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน”
นางอมรา กล่าวว่า หากมีการเปรียบเทียบค่าเงินทั้งภูมิภาคแล้ว ค่าเงินบาทของไทย ยังไม่ถือว่าแข็งค่ากว่าประเทศอื่นๆ โดยพิจารณาจากดัชนีค่าเงินบาท (NEER) หรือ nominal effective exchange rate ล่าสุดของไทยเดือน ธ.ค.50 อยู่ที่ 77.8 เพิ่มขึ้นจาก 76.86 ในเดือน พ.ย.50
ทั้งนี้ ดัชนีค่าเงินบาท หรือ NEER เป็นดัชนีที่ชีวัดการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาท เปรียบเทียบกับคู่ค้าที่สำคัญของไทย 22 ประเทศ โดยถ่วงน้ำหนักตามสัดส่วนส่งออกของไทยไปยังแต่ละประเทศ
นายอมรา ชี้เพิ่มเติมว่า นับแต่ต้นปีใหม่เป็นต้นมา ค่าเงินบาทของไทยต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 1.6% มาที่ 33.14 โดยเป็นการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้วซึ่งแข็งค่า 7% หลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ท่ามกลางความกังวลต่อความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ
ด้านนางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธปท.กล่าวเสริมว่า การดูแลค่าเงินบาทควรเปรียบเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นด้วย ไม่เฉพาะเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เพียงเท่านั้น ซึ่งการพิจารณาค่าเงินบาท ควรดูที่ NEER มากกว่า
ส่วนการที่นายฉลองภพ รมว.คลัง ออกมาให้ข่าวตำหนิการบริหารเงินบาทของ ธปท.ว่า ทำให้ตลาดสามารถจับทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทได้นั้น คาดว่าผู้ว่าการฯ ธปท.ได้มีการชี้แจงรายละเอียดเรื่องดังกล่าวต่อนายฉลองภพไปเรียบร้อยแล้ว
ล่าสุด เช้าวันนี้ค่าเงินบาทของไทยอยู่ที่ระดับ 33.15/17 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับวานนี้ซึ่งปิดที่ระดับ 33.16/19 บาทต่อดอลาร์สหรัฐ