ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ เนื่องจากรับผลกระทบจากเศรษฐกิจสหรัฐฯจะถดถอย แต่ช่วงท้ายตลาดฯ มีแรงซื้อหุ้นกลุ่ม Commodity มาหนุนดัชนีฯ ทำให้ตลาดบ้านเราปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค ขณะที่ต่างชาติยังขายสุทธิ 2.7 พันล. แนวโน้มพรุ่งนี้ คาดตลาดยังคงปรับลงต่อเนื่อง โดยยังมีโอกาสลุ้นรีบาวน์ระหว่างเทรด พร้อมให้กรอบแกว่ง 760-790 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(16 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 773.80 จุด ลดลง 5.99 จุดเปลี่ยนแปลง -0.77% มูลค่าการซื้อขาย 21,093.32 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 773.80 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 757.65 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 76 หลักทรัพย์ ลดลง 282 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 86 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุนในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,685.90 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 438.96 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,246.94 ล้านบาท
มล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ Head of Equity บล.ซิตี้ คอร์ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ เนื่องจากรับผลกระทบหลักจากเรื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯจะถดถอย แต่ตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายตลาดกลับมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่ม Commodity อย่างหุ้น PTTEP, PTTAR, BANPU ซึ่งได้หนุนให้ดัชนีฯ มีแรงดีดกลับขึ้นมาได้บ้างแม้ว่ายังอยู่ในแดนลบ
นอกจากนี้ การที่ปีนี้ ตลาดฯ ปรับตัวลงมากถึง 10% ทำให้นักลงทุนบางรายกล้าที่จะเสี่ยงเข้าไปเก็บหุ้น แม้ว่าตลาดฯ จะยังมีความเสี่ยงสูงอยู่ก็ตาม ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครเข้าไปเก็บหุ้น ในส่วนของนักลงทุนต่างชาติก็คาดว่าจะยังขายหุ้นอยู่ในวันนี้
ตอนนี้มีประเด็นอีกหนึ่งที่น่าสนใจ คือคนเริ่มที่จะหันไปจับตาดูว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะมีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยได้ก่อนการประชุมเฟดในวันที่ 30 ม.ค.นี้หรือไม่ แล้วจะลดอัตราดอกเบี้ยได้เท่าไร แต่คาดว่าอย่างน้อยเฟดจะต้องลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ซึ่งตอนนี้ก็มีคนอื่นที่มองว่าอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยเฟดได้ถึง 0.75%
ทิศทางโดยรวมของตลาดหุ้นไทยตอนนี้มองว่ายังเป็นขาลงอยู่ เนื่องจากเชื่อว่าประเด็นเรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐ คงยังไม่จบง่ายๆ และตอนนี้ก็เป็นการเริ่มต้น ส่วนเรื่องของประเทศเราเองก็เป็นเรื่องการเมือง ซึ่งในวันศุกร์นี้(18 ม.ค.) ก็ต้องจับตาดูว่า ศาลฯจะมีการพิจารณาคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องพรรคพลังประชาชน มีลักษณะเป็นนอมินี อย่างไร
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(17 ม.ค.) คาดว่า ตลาดหุ้นไทยจะยังปรับตัวลงต่อเนื่อง แต่ก็ต้องจับตาดูตลาดสหรัฐฯคืนนี้ด้วย ซึ่งตลาดฯก็มีโอกาสรีบาวน์ได้เหมือนกันเพราะได้ปรับตัวลงมามากในช่วงก่อนหน้านี้ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 760-790 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,773.49 ล้านบาท ปิดที่ 304.00 บาท ลดลง 4.00 บาท ล PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,706.77 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,509.89 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,381.49 ล้านบาท ปิดที่ 386.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท , TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,190.74 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้(16 ม.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 773.80 จุด ลดลง 5.99 จุดเปลี่ยนแปลง -0.77% มูลค่าการซื้อขาย 21,093.32 ล้านบาท โดยบรรยากาศในการซื้อขายวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 773.80 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 757.65 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 76 หลักทรัพย์ ลดลง 282 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 86 หลักทรัพย์ สำหรับสัดส่วนการลงทุนในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,685.90 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 438.96 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,246.94 ล้านบาท
มล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ Head of Equity บล.ซิตี้ คอร์ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ เนื่องจากรับผลกระทบหลักจากเรื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯจะถดถอย แต่ตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายตลาดกลับมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่ม Commodity อย่างหุ้น PTTEP, PTTAR, BANPU ซึ่งได้หนุนให้ดัชนีฯ มีแรงดีดกลับขึ้นมาได้บ้างแม้ว่ายังอยู่ในแดนลบ
นอกจากนี้ การที่ปีนี้ ตลาดฯ ปรับตัวลงมากถึง 10% ทำให้นักลงทุนบางรายกล้าที่จะเสี่ยงเข้าไปเก็บหุ้น แม้ว่าตลาดฯ จะยังมีความเสี่ยงสูงอยู่ก็ตาม ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครเข้าไปเก็บหุ้น ในส่วนของนักลงทุนต่างชาติก็คาดว่าจะยังขายหุ้นอยู่ในวันนี้
ตอนนี้มีประเด็นอีกหนึ่งที่น่าสนใจ คือคนเริ่มที่จะหันไปจับตาดูว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะมีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยได้ก่อนการประชุมเฟดในวันที่ 30 ม.ค.นี้หรือไม่ แล้วจะลดอัตราดอกเบี้ยได้เท่าไร แต่คาดว่าอย่างน้อยเฟดจะต้องลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ซึ่งตอนนี้ก็มีคนอื่นที่มองว่าอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยเฟดได้ถึง 0.75%
ทิศทางโดยรวมของตลาดหุ้นไทยตอนนี้มองว่ายังเป็นขาลงอยู่ เนื่องจากเชื่อว่าประเด็นเรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐ คงยังไม่จบง่ายๆ และตอนนี้ก็เป็นการเริ่มต้น ส่วนเรื่องของประเทศเราเองก็เป็นเรื่องการเมือง ซึ่งในวันศุกร์นี้(18 ม.ค.) ก็ต้องจับตาดูว่า ศาลฯจะมีการพิจารณาคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องพรรคพลังประชาชน มีลักษณะเป็นนอมินี อย่างไร
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(17 ม.ค.) คาดว่า ตลาดหุ้นไทยจะยังปรับตัวลงต่อเนื่อง แต่ก็ต้องจับตาดูตลาดสหรัฐฯคืนนี้ด้วย ซึ่งตลาดฯก็มีโอกาสรีบาวน์ได้เหมือนกันเพราะได้ปรับตัวลงมามากในช่วงก่อนหน้านี้ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 760-790 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,773.49 ล้านบาท ปิดที่ 304.00 บาท ลดลง 4.00 บาท ล PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,706.77 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,509.89 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท , BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,381.49 ล้านบาท ปิดที่ 386.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท , TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,190.74 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
