สมาคมประกันชีวิตปลื้มยอดเบี้ยประกันภัย 11 เดือน มีจำนวนรวม 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7 หมื่นล้านบาท เติบโต 17.74% เผยเป็นยอดเบี้ยใหม่ 5.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 2 หมื่นล้านบาท โดยเอไอเอยังครองมาเก็ตแชร์อันดับหนึ่ง 39.2% ตามด้วยไทยประกันฯ อยุธยาอลิอันซ์ ซี.พี. เมืองไทยประกันชีวิต และไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ตามลำดับ
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตในปี 2550 เป็นอัตราที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากมีอัตราการเติบโตที่สูงมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในการพิจารณาสมาคมจะดูประกอบกันทั้งการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม ซึ่งหมายถึงเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ (New Business Premium) รวมกับเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป (Renewal Premium) โดยจะมีการพิจารณาถึงอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิตประกอบด้วย และการเติบโตเฉพาะเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่เพียงอย่างเดียวด้วย
ทั้งนี้ เบี้ยประกันภัยรับรวม 11 เดือน ตั้งแต่มกราคม-พฤศจิกายน 2550 มีทั้งสิ้น 180,279.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนจำนวน 27,171.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17.74 ขณะที่ระยะเวลาเดียวกันปีก่อนมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.66 เท่านั้น โดยบริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 70,655.6 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 39.2 อันดับที่ 2 บจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 27,018.3 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 15.0 อันดับที่ 3 บมจ.อยุธยาอลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต จำนวน 17,089.1 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.5 อันดับที่ 4 บจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 12,281.0 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 6.8 และอันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำนวน 11,096.3 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 6.2
โดยเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ 11 เดือน ตั้งแต่มกราคม-พฤศจิกายน 2550 มีทั้งสิ้น 56,540.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันจำนวน 19,096.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 51 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่รวมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 15,179.8 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 26.8 อันดับที่ 2 บจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 9,209.7 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 16.3 อันดับที่ 3 บมจ.อยุธยาอลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต จำนวน 6,308.1 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 11.2 อันดับที่ 4 บจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 5,080.0 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.0 และอันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำนวน 4,925.8 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 8.7
สำหรับเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ เฉพาะเดือนพฤศจิกายน 2550 มีทั้งสิ้น 5,266.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเดียวกันจำนวน 899.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.60 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2550 สูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 1,736.4 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 33 อันดับที่ 2 บจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 516.3 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.8 อันดับที่ 3 บจ.เมืองไทยประกัน จำนวน 510.9 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.7 อันดับที่ 4 ชีวิตบมจ.อยุธยาอลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต จำนวน 453.1 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 8.6 และอันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำนวน 395.2 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 7.5
และเบี้ยประกันชีวิตรับรวมทั้งปี 2550 คาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 17 สูงกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งมีอัตราการเติบโตเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น และอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่ในอัตราที่น่าพอใจคือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 85
"สาเหตุที่ธุรกิจประกันชีวิตมีการเติบโตสูงเป็นที่น่ายินดีในปี 2550 นี้ เป็นผลมาจากการที่บริษัทประกันชีวิตต่างๆมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบต่างๆออกมาสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างหลากหลายและต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มและพัฒนาช่องทางการจำหน่ายผ่านทางธนาคาร และหน่วยงานอื่นๆนอกเหนือจากการขายผ่านตัวแทนประกันชีวิตเพียงอย่างเดียว และในขณะเดียวกันบริษัทสมาชิกเองก็ได้ผลิตตัวแทนประกันชีวิตที่มีคุณภาพออกมาเป็นจำนวนมากขึ้น"นางบุษรากล่าว
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตในปี 2550 เป็นอัตราที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากมีอัตราการเติบโตที่สูงมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในการพิจารณาสมาคมจะดูประกอบกันทั้งการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม ซึ่งหมายถึงเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ (New Business Premium) รวมกับเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป (Renewal Premium) โดยจะมีการพิจารณาถึงอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิตประกอบด้วย และการเติบโตเฉพาะเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่เพียงอย่างเดียวด้วย
ทั้งนี้ เบี้ยประกันภัยรับรวม 11 เดือน ตั้งแต่มกราคม-พฤศจิกายน 2550 มีทั้งสิ้น 180,279.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนจำนวน 27,171.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17.74 ขณะที่ระยะเวลาเดียวกันปีก่อนมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.66 เท่านั้น โดยบริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 70,655.6 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 39.2 อันดับที่ 2 บจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 27,018.3 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 15.0 อันดับที่ 3 บมจ.อยุธยาอลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต จำนวน 17,089.1 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.5 อันดับที่ 4 บจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 12,281.0 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 6.8 และอันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำนวน 11,096.3 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 6.2
โดยเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ 11 เดือน ตั้งแต่มกราคม-พฤศจิกายน 2550 มีทั้งสิ้น 56,540.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันจำนวน 19,096.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 51 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่รวมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 15,179.8 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 26.8 อันดับที่ 2 บจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 9,209.7 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 16.3 อันดับที่ 3 บมจ.อยุธยาอลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต จำนวน 6,308.1 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 11.2 อันดับที่ 4 บจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 5,080.0 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.0 และอันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำนวน 4,925.8 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 8.7
สำหรับเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ เฉพาะเดือนพฤศจิกายน 2550 มีทั้งสิ้น 5,266.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเดียวกันจำนวน 899.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.60 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2550 สูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 1,736.4 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 33 อันดับที่ 2 บจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 516.3 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.8 อันดับที่ 3 บจ.เมืองไทยประกัน จำนวน 510.9 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.7 อันดับที่ 4 ชีวิตบมจ.อยุธยาอลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต จำนวน 453.1 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 8.6 และอันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำนวน 395.2 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 7.5
และเบี้ยประกันชีวิตรับรวมทั้งปี 2550 คาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 17 สูงกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งมีอัตราการเติบโตเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น และอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่ในอัตราที่น่าพอใจคือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 85
"สาเหตุที่ธุรกิจประกันชีวิตมีการเติบโตสูงเป็นที่น่ายินดีในปี 2550 นี้ เป็นผลมาจากการที่บริษัทประกันชีวิตต่างๆมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบต่างๆออกมาสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างหลากหลายและต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มและพัฒนาช่องทางการจำหน่ายผ่านทางธนาคาร และหน่วยงานอื่นๆนอกเหนือจากการขายผ่านตัวแทนประกันชีวิตเพียงอย่างเดียว และในขณะเดียวกันบริษัทสมาชิกเองก็ได้ผลิตตัวแทนประกันชีวิตที่มีคุณภาพออกมาเป็นจำนวนมากขึ้น"นางบุษรากล่าว