ธุรกิจประกันภัยยังไปได้สวย ไตรมาสแรกปี 52 โตถึง 14% สวนภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว คาดปีนี้ธุรกิจแข่งดุ งัดผลิตภัณฑ์ใหม่ชิงส่วนแบ่งตลาด
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด กล่าวในฐานะนายกสมาคมประกันชีวิตไทย โดยระบุว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 ทั้งอุตสาหกรรมของธุรกิจประกันชีวิตมีอัตราการเติบโตขึ้น 14% คิดเป็นเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 58,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยรับปีแรกโต 29% มูลค่าเบี้ย 13,394 ล้านบาท เบี้ยใหม่รวมเบี้ยจ่ายครั้งเดียว (Single Premium) โตขึ้น 27% มูลค่าเบี้ย 18,629 ล้านบาท ส่วนเบี้ยต่ออายุโต 9% และส่งผลให้ปัจจุบันอัตราการทำประกันของคนไทยอยู่ที่ 23-25% ในขณะที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในปีนี้คาดการณ์ว่าเติบโตติดลบ
ในส่วนของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตไตรมาสแรก บริษัทมีเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 4,940 ล้านบาท เติบโตขึ้น 30.2% แบ่งเป็นเบี้ยรับปีแรกโต 61% คิดเป็นเบี้ย 1,513 ล้านบาท เบี้ยรับใหม่รวมเบี้ยจ่ายครั้งเดียว(Single Premium)โตขึ้น 38% มูลค่าเบี้ย 2,026 ล้านบาท เบี้ยต่ออายุโต 25% มูลค่าเบี้ย 2,914 ล้านบาท
นายสาระ กล่าวว่า ในปีนี้ยอมรับว่าธุรกิจประกันชีวิตมีการแข่งขันกันสูงขึ้น ในช่วงเศรษฐกิจเช่นนี้จำเป็นที่ต้องมีผลิตภัณฑ์ตอบสนองลูกค้ามากขึ้น ล่าสุดในมหกรรมการเงินธนาคารครั้งที่ 9 บริษัทนำเสนอรูปแบบความคุ้มครองใหม่ ที่ควบคู่ไปกับการออมอย่างคุ้มค่าและมั่นคง ให้แก่ผู้เอาประกันทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ แบบประกันเมืองไทย แฮปปี้ ความคุ้มครอง 10 ปี ชำระเบี้ยประกัน 4 ปี เมื่อครบชำระเบี้ยประกัน สามารถรับเงินจ่ายคืน 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย, เมืองไทย แฮปปี้ ให้ความคุ้มครอง 14 ปี ชำระเบี้ยประกัน 4 ปี ภายหลังหยุดชำระเบี้ยประกันภัยผู้เอาประกันจะได้รับเงินจ่ายคืน 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เมืองไทย รีไทร์เมนท์ เซฟเวอร์ สำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองและความมั่นคงในช่วงภายหลังเกษียณอายุ ให้ความคุ้มครอง 40 ปี ชำระเบี้ยประกัน 25 ปี ผู้เอาประกันจะได้รับเงินจ่ายคืน 4% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เป็นต้น
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด กล่าวในฐานะนายกสมาคมประกันชีวิตไทย โดยระบุว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 ทั้งอุตสาหกรรมของธุรกิจประกันชีวิตมีอัตราการเติบโตขึ้น 14% คิดเป็นเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 58,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยรับปีแรกโต 29% มูลค่าเบี้ย 13,394 ล้านบาท เบี้ยใหม่รวมเบี้ยจ่ายครั้งเดียว (Single Premium) โตขึ้น 27% มูลค่าเบี้ย 18,629 ล้านบาท ส่วนเบี้ยต่ออายุโต 9% และส่งผลให้ปัจจุบันอัตราการทำประกันของคนไทยอยู่ที่ 23-25% ในขณะที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในปีนี้คาดการณ์ว่าเติบโตติดลบ
ในส่วนของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตไตรมาสแรก บริษัทมีเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 4,940 ล้านบาท เติบโตขึ้น 30.2% แบ่งเป็นเบี้ยรับปีแรกโต 61% คิดเป็นเบี้ย 1,513 ล้านบาท เบี้ยรับใหม่รวมเบี้ยจ่ายครั้งเดียว(Single Premium)โตขึ้น 38% มูลค่าเบี้ย 2,026 ล้านบาท เบี้ยต่ออายุโต 25% มูลค่าเบี้ย 2,914 ล้านบาท
นายสาระ กล่าวว่า ในปีนี้ยอมรับว่าธุรกิจประกันชีวิตมีการแข่งขันกันสูงขึ้น ในช่วงเศรษฐกิจเช่นนี้จำเป็นที่ต้องมีผลิตภัณฑ์ตอบสนองลูกค้ามากขึ้น ล่าสุดในมหกรรมการเงินธนาคารครั้งที่ 9 บริษัทนำเสนอรูปแบบความคุ้มครองใหม่ ที่ควบคู่ไปกับการออมอย่างคุ้มค่าและมั่นคง ให้แก่ผู้เอาประกันทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ แบบประกันเมืองไทย แฮปปี้ ความคุ้มครอง 10 ปี ชำระเบี้ยประกัน 4 ปี เมื่อครบชำระเบี้ยประกัน สามารถรับเงินจ่ายคืน 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย, เมืองไทย แฮปปี้ ให้ความคุ้มครอง 14 ปี ชำระเบี้ยประกัน 4 ปี ภายหลังหยุดชำระเบี้ยประกันภัยผู้เอาประกันจะได้รับเงินจ่ายคืน 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เมืองไทย รีไทร์เมนท์ เซฟเวอร์ สำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองและความมั่นคงในช่วงภายหลังเกษียณอายุ ให้ความคุ้มครอง 40 ปี ชำระเบี้ยประกัน 25 ปี ผู้เอาประกันจะได้รับเงินจ่ายคืน 4% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เป็นต้น
