นับถอยหลัง 50 วันก่อนถึงกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ย้ำ การบรรจุ 50 ชนิดกีฬาล้วนเป็นกีฬาสากลทั้งสิ้น ด้านสนามแข่งขันทั้ง 3 เมืองหลัก พร้อมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว สามารถจัดการแข่งขันได้อย่างสง่างาม ขอเชิญคนไทยทั้งประเทศร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับมิตรประเทศอาเซียนทั้ง 10 ชาติ เพื่อให้ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจ
เหลือเวลาอีกเพียง 50 วัน จะถึงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 โดยใช้ 3 เมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วย นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ซีอีโอสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ และนายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมกันเป็นประธานในการประชุมติดตามความก้าวหน้า การจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ของจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นการประชุมติดตาม ครั้งที่ 3 โดยมี ดาโต๊ะ โลว เป่ง ชู ที่ปรึกษานักกฎหมายซีเกมส์, คริส ชาน เซ้ง เฮง ที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิคกีฬาซีเกมส์, พลเรือเอก อธินาถ ปะจายะกฤตย์ ผู้อำนวยการสหพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, นางสาวศมจรส มิ่งคำเลิศ ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ กกท., นายยุธยา จีนหีต ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. ร่วมด้วย ที่โรงแรมลากูน่า แกรนด์ โฮเทล แอนด์ สปา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568
ดร.ก้องศักด กล่าวว่า จังหวัดสงขลา จะร่วมจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 10 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย หมากรุก, กาบัดดี้, ฟุตบอล, ยูโด, คาราเต้, มวยปล้ำ, ปันจักสีลัต, วูซู, มวย และเปตอง ซึ่งเวลาในขณะนี้ก็กระชั้นเข้ามา เหลือเพียง 50 วันเท่านั้น ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทั้งเรื่องการเตรียมทัพนักกีฬาทีมชาติไทย หรือสถานที่จัดการแข่งขันทั้ง 3 จังหวัดถือว่ามีความพร้อมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว สามารถเป็นเจ้าภาพได้อย่างสง่างาม จึงอยากขอให้คนไทยทั้งประเทศเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทย รวมถึงติดตามข่าวสาร ข้อมูลการจัดการแข่งขันด้านต่าง ๆ เพื่อที่จะได้เข้าไปชมและเชียร์กีฬาซีเกมส์ที่สนามแข่งขันจริง หรือชมการถ่ายทอดสดอยู่ที่บ้าน และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับมิตรประเทศอาเซียนทั้ง 10 ชาติที่จะเดินทางมาแข่งขันที่ประเทศไทย เพื่อให้การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 เป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจมากที่สุด
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวถึงกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่มีการบรรจุกีฬาแข่งขันมากถึง 50 ชนิดว่า ทุกชนิดกีฬานั้นเป็นกีฬาสากล โดยมีถึง 27 ชนิด บรรจุแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ และ 9 ชนิด บรรจุแข่งขันในเอเชียนเกมส์ ส่วนกีฬาชนิดอื่น ๆ ต่างเคยอยู่ในเวทีแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติมาแล้วทั้งสิ้น กีฬาซีเกมส์ครั้งนี้จึงเป็นการยกระดับให้เป็นมหกรรมกีฬาสากลอย่างแท้จริง
การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 กำหนดการแข่งขันวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 บรรจุกีฬาแข่งขัน 50 ชนิด ประกอบด้วย 1.ว่ายน้ำ, 2.กรีฑา, 3.ยิงธนู, 4.แบดมินตัน, 5.บาสเกตบอล, 6.เรือแคนู-กรรเชียง, 7.จักรยาน, 8.ขี่ม้า, 9.ฟันดาบ, 10.ฟุตบอล, 11.กอล์ฟ, 12.ยิมนาสติก, 13.แฮนด์บอล, 14.ฮอกกี้, 15.ยูโด, 16.รักบี้, 17.เรือใบ, 18.ยิงปืน, 19.เทเบิลเทนนิส, 20.เทควันโด, 21.เทนนิส, 22.ไตรกีฬา, 23.วอลเลย์บอล, 24.มวยปล้ำ, 25.ไอซ์สเก็ต, 26.ไอซ์ฮอกกี้, 27.ปัญจกีฬา, 28.ยกน้ำหนัก, 29.เบสบอล-ซอฟท์บอล, 30.บิลเลียด-สนุกเกอร์, 31.มวยสากล, 32.ฟลอร์บอล, 33.อีสปอร์ต, 34.มวย, 35.เนตบอล, 36.ปันจักสีลัต, 37.เปตอง, 38.เซปักตะกร้อ, 39.สควอช, 40.โบว์ลิ่ง, 41.เอ็กซ์ตรีม, 42.คาราเต้, 43.ยูยิตสู, 44.คริกเกต, 45.วูซู, 46.กาบัดดี้, 47.เทคบอล, 48.คิกบ็อกซิ่ง, 49.วู้ดบอล, 50.หมากรุกสากล นอกจากนี้ยังมีกีฬาสาธิต 3 ชนิด ได้แก่ กีฬาทางอากาศ, ชักเย่อ, จานร่อน และกีฬาส่งเสริมมูลค่า 1 ชนิด MMA-ศิลปะการต่อสู้แบบผสม ชิงชัยทั้งสิ้น 574 เหรียญทอง