xs
xsm
sm
md
lg

กกท.ส่งนักกีฬาเยาวชนไทยสู้ศึกเอเชียนยูธเกมส์ที่บาห์เรน วางเป้าคว้า 22 เหรียญทอง ต่อยอดเสนอตัวจัดยูธโอลิมปิก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
กกท. พร้อมส่งทัพนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทย 330 คน เข้าร่วมมหกรรมกีฬาเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 วันที่ 22-31 ตุลาคม 2568 ที่ประเทศบาห์เรน วางเป้าหมายร่วมกับสมาคมกีฬา คว้า 22 เหรียญทอง พร้อมต่อยอดเดินหน้าเสนอตัวเป็นเจ้าภาพยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 ปี 2030

ความเคลื่อนไหวของนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมมหกรรมกีฬาเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ซึ่งประเทศบาห์เรน เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 22-31 ตุลาคม 2568 โดยมีนักกีฬากว่า 4,300 คนจาก 45 ประเทศในเอเชีย เข้าร่วมการชิงชัยทั้งหมด 26 ชนิดกีฬา 247 เหรียญทอง 
ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า กกท. ได้ร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ดำเนินการเตรียมนักกีฬาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งนี้ ซึ่งรายการนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย ที่จะยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 ในปี 2030 ต่อไป 
“เราสนับสนุนทุกอย่างที่เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติของเยาวชนในทุกมหกรรมกีฬา เช่นเดียวกับการเสนอตัวจัดมหกรรมกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 ในปี 2030 เราก็ยังเดินหน้าเพื่อคว้าสิทธิในการเป็นเจ้าภาพให้ได้” ดร.ก้องศักด กล่าว
 
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในเดือนธันวาคมนี้ และเราได้เปิดให้เด็ก ๆ เยาวชน นักเรียน ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในซีเกมส์ ด้วย เราจะนำเรื่องนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งให้ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้นำไปพิจารณาถึงความพร้อมของประเทศไทย รวมไปถึงการจัดกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ก็จะถูกรวมเข้าไปในแผนการนำเสนอความพร้อมด้วย
 
สำหรับมหกรรมกีฬาเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 22-31 ตุลาคม 2568 ที่ประเทศบาห์เรน กกท. ร่วมกับ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ส่งนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทย รวม 330 คน เข้าร่วมการแข่งขัน 24 ชนิดกีฬา ได้แก่ ว่ายน้ำ, กรีฑา, แบดมินตัน, แฮนด์บอล, บาสเกตบอล 3x3, อีสปอร์ต, ยูโด, มวยปล้ำ, จักรยาน, กอล์ฟ, วอลเลย์บอล, เทควันโด, เทเบิลเทนนิส, ไตรกีฬา, มวยสากล, ยกน้ำหนัก, กาบัดดี้, เทคบอล, MMA-ศิลปะการต่อสู้แบบผสม, ยูยิตสู, ฟุตซอล, มวยไทย, ปันจักสีลัต และ คูราช ยกเว้น ขี่ม้า และ ขี่อูฐ
 
โดย กกท. ตั้งเป้าหมายร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ไว้ที่ 22 เหรียญทอง จาก ว่ายน้ำ 1 เหรียญทอง, กรีฑา 3 เหรียญทอง, แบดมินตัน 1 เหรียญทอง, อีสปอร์ต 1 เหรียญทอง, ยูยิตสู 2 เหรียญทอง, จักรยาน 1 เหรียญทอง, เทควันโด 2 เหรียญทอง, ไตรกีฬา 1 เหรียญทอง, มวยปล้ำ 1 เหรียญทอง, ยกน้ำหนัก 1 เหรียญทอง, เทคบอล 2 เหรียญทอง, มวยสากล 1 เหรียญทอง และ มวยไทย 5 เหรียญทอง
กำลังโหลดความคิดเห็น