xs
xsm
sm
md
lg

กกท.จัดเสวนามวยไทย สร้างมาตราฐานไปสู่ระดับโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานเปิดงานเสวนาทิศทางกีฬามวยไทย ที่ห้องจตุรทิศ ชั้น 3 โรงแรมโกลเต้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน พระรามเก้า กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม

โดยสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. จัดขึ้นงานเสวนาทิศทางกีฬามวยไทยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์สร้างการรับรู้ของผู้ที่มีสวนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนถึงการกำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานกีฬามวยไทยให้มีประสิทธิภาพของสำนักงานฯ ที่ดำเนินงานขับเคลื่อนมวยไทยสู่สากลตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาลที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการกีฬามวย กำกับดูแล ในการสร้างความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดโลกให้เกิดเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน

ดร.ก้องศักด ยอดมณี กล่าวว่า กกท. มีนโยบายการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ด้านกีฬามวยไทยใน 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ 1.การกำกับ ควบคุมดูแล ส่งเสริม และคุ้มครองกีฬามวยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ที่เราจะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ให้บุคคลในวงการกีฬามวยทั้ง 7 ประเภท สามารถดำเนินกิจกรรมกีฬามวยได้อย่างมีมาตรฐาน มีความปลอดภัย และได้รับการช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุน ทั้งด้านการพัฒนาศักยภาพวิชาชีพ และสวัสดิการคุ้มครอง รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ

2.การกำหนดมาตรฐาน และยกระดับมาตรฐานกีฬามวย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นต่อกีฬามวยไทยให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เรากำลังทบทวนปรับปรุงมาตรฐานกีฬามวยไทย 5 ด้าน และสร้างการยอมรับจากทั้งภายในและต่างประเทศ ประกอบด้วย มาตรฐานผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน การจัดการแข่งขัน การบริหาร จัดการค่ายมวยไทย และการเรียนการสอนกีฬามวยไทย รวมทั้งแผนแม่บทการพัฒนาบุคลากรกีฬามวยไทย เพื่อนำไปใช้เผยแพร่ทั้งในและต่างประเทศ

ซึ่งในอนาคตเราสามารถมั่นใจได้ว่า บุคลากรทุกระดับที่เกี่ยวข้องกับกีฬามวยไทย จะมีกระบวนการพัฒนาองค์ความรู้ การทดสอบ และรับรองสมรรถนะการปฏิบัติหน้าที่ มีการกำหนดมาตรฐาน คุณธรรม จริยธรรม เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งการดำเนินงานสำคัญนี้ จะควบคู่ไปกับการจัดตั้ง “สถาบันมวยไทยแห่งชาติ” ที่จะเป็นองค์กรทำหน้าที่กำกับรับรองมาตรฐานบุคลากร องค์ความรู้ และนวัตกรรม กีฬามวย และการสร้างแบรนด์มวยไทย ต่อยอดสู่มูลค่าทางธุรกิจให้กับประเทศไทยในอนาคต

3.การเผยแพร่ อนุรักษ์ และยกย่องเชิดชูกีฬามวยไทย เป็นอีกยุทธศาสตร์สาคัญ ที่มุ่งเน้นการสร้างฐานประชากรมวยไทยให้มีจำนวนมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาเรามุ่งเน้นการส่งเสริมสนับสนุนมาตรฐานให้กับบุคลากรกีฬามวยตาม พ.ร.บ. แล้ว โดยเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการแข่งขันมวยไทยเท่านั้น หรือเรียกกลุ่มนี้ว่ากลุ่ม Hardcore Fan แต่ส่วนสำคัญกลุ่มใหญ่ที่จะสร้างมูลค่ามวยไทยให้กับประเทศ ยังมีกลุ่มที่นิยมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ (Healthy) และกลุ่มใช้กีฬาเป็นวิถีชีวิต (Life Style) ซึ่งเหล่านี้จะมีกำลังซื้อและจำนวนมวลชนที่มากกว่า เราจึงมุ่งเน้นในการเข้าถึงประชากรกลุ่มนี้ สร้างการยอมรับ ความนิยม และดึงดูดให้เข้ามาสู่ตลาด กีฬามวยไทยให้มากขึ้น

โดยมีกิจกรรมทั้งการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อกีฬามวยไทย มากกว่ากีฬาการต่อสู้ที่มีทั้งมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของประเทศ ความสวยงามของศิลปะท่าทางการต่อสู้ ความเคารพกฎ กติกา ครูบาอาจารย์ต่างๆ การสื่อสารข้อมูลเหล่านี้ จะต้องสร้างกระแสความนิยมและการเข้าถึงจากชาวไทยและต่างชาติซึ่งสามารถส่งเสริมผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม การยกระดับเข้าถึงสถานที่เรียนมวยไทย ค่ายมวย ยิมมวยที่มีมาตรฐาน หรือกระทั่งการบูรณาการร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น สินค้า บริการแฟชั่น ภาพยนต์ ที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของมวยไทย เป็นต้น

4.การส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมกีฬามวยให้เป็นอุตสาหกรรมกีฬา เป็นเป้าหมายสุดท้ายของประเทศที่การดำเนินการทั้งหมดทั้งมวลจะเป็นผลสัมฤทธิ์ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวเชิงกีฬา สิ่งเหล่านี้จะต้องมีระบบฐานข้อมูลและการกำกับติดตามที่ดี เราจะมุ่งเน้นข้อมูลการท่องเที่ยวกีฬามวยไทยที่มีคุณภาพ การอัพเดตข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน Real-Time และอำนวยความสะดวกให้กับผู้เกี่ยวข้อง การดำเนินงานหลายส่วนจะต้องเข้าไปอยู่ในระบบออนไลน์ ทำให้การสืบค้นข้อมูลง่ายมากขึ้น (User Interface : UI) ทำให้ผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งบุคคลตาม พ.ร.บ. ทำงานสะดวกยิ่งขึ้น ลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับมวยไทย มีความเป็นมิตรกับฐานข้อมูล มีประสบการณ์เข้าถึงมวยไทยที่ดีขึ้น (User Experience : UX) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ กกท. ที่จะเป็นองค์กร Green Data Driven ในอนาคตอันใกล้นี้

“วันนี้เป็นโอกาสที่ดีเราได้มีบุคลากรของการกีฬาแห่งประเทศไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการกีฬามวยไทย โดยเฉพาะภูมิภาค ที่ได้มาฟังแนวทางการพัฒนามวยไทย เราจะเน้นเรื่องของการสร้างมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนการสอน, เรื่องการฝึกมวยไทย, การพัฒนาครูมวย ค่ายมวย และมาตรฐานการแข่งขัน ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้จะเป็นการต่อยอด ในการสร้างมูลค่าให้มวยไทยไปสู่สากลโลก เราจะส่งออกครูมวยที่ได้การรับการรับรอง จากสถาบันมวยไทยแห่งชาติ ไปประจำตามค่ายมวยทั่วโลก เพื่อให้การฝึกสอนมวยไทยไม่ผิดเพี้ยน หรือผิดตำรา”

“สิ่งเหล่านี้เป็นนโยบายและทิศทางสำคัญที่ภาครัฐ ตั้งใจจะสร้างสรรค์ และกำหนดทิศทางให้กับวงการกีฬามวยไทย ผมคาดหวังว่าทุกภาคส่วนจะร่วมมือกันดำเนินการส่งเสริมมวยไทยอย่างเต็มความสามารถ มีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนมวยไทยสู่ผลสัมฤทธิ์และสร้างคุณค่าให้กับประเทศไทยได้อย่างมั่นคง” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว

กิจกรรมการเสวนานี้ยังได้รับเกียรติจาก นายอินทเดช พิทักษ์สรยุทธ บรรยายหัวข้อ “Cool Muaythai มวยไทยเท่แท้ บูรณาการความรู้ จากนั้นเป็นการเสวนาหัวข้อ “ทิศทางการส่งเสริมกีฬามวยไทยในการก้าวสู่กีฬาระดับโลก” จากบุคคลในวงการกีฬามวย และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ “เป้“ อารักษ์ อมรศุภศิริ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้าไทย “ลงนวมบอยส์ (Long Nuam Boyz)” ที่พูดคุยหัวข้อมุมมองด้านแฟชั่น กับธุรกิจค่ายมวยไทย, ”ตอง“ ธัญชนกไทยมณี อินฟลูเอ็นเซอร์สื่อมวยไทย และเอก ชุมพร นักพากย์มวย และผู้สื่อข่าวกีฬามวย มาร่วมพูดคุยเรื่องการสร้างอิทธิพลและแรงลูงใจด้านสื่อสู่มูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมกีฬามวยไทย

ปิดท้ายด้วยการเสวนาหัวข้อ ความต้องการในการส่งเสริมนักกีฬามวยไทยสู่ความเป็นมืออาชีพในระดับสากลจาก หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ยอดมวยดีกรีอดีตแชมป์เฉพาะกาลรุ่นเวลเตอร์เวท เวทีราชดำเนิน, นักมวยยอดเยี่ยม สนามมวยลุมพินี ประจำปี 2019 และรองแชมป์มวยรอบ RWS ทัวร์นาเมนต์ ปี 2023
กำลังโหลดความคิดเห็น