คอลัมน์ "TKO" โดย "น็อกเอาต์ แมน"
จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับคู่มวยไฟต์หยุดโลกชิงเข็มขัดแชมป์รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวต 4 สถาบัน ระหว่าง เทอเรนซ์ "บัดส์" ครอว์ฟอร์ด ผู้ท้าชิงชาวสหรัฐฯ กับ ซาอูล "คาเนโล่" อัลวาเรซ เจ้าของแชมป์ชาวเม็กซิกัน
ผลการชกก็อาจดูไม่ได้เหนือความคาดหมายเท่าไหร่ เพราะชัยชนะตกเป็นของ เทอเรนซ์ ครอว์ฟอร์ด ที่ปีนเวตขึ้นมาท้าชิงเข็มขัดในรุ่นที่ใหญ่กว่า ตอกย้ำสถานะการเป็นเบอร์ 1 แห่งยุค อย่างไร้ข้อกังขา เพราะเขาสถาปนาตัวเองกลายเป็นกำปั้นคนแรกของโลกที่ครองเข็มขัดแชมป์ 4 สถาบัน (WBA, WBC, WBO, IBF) ได้ถึง 3 รุ่นน้ำหนัก
ไฟต์ที่ผ่านมาแม้ คาเนโล่ จะเป็นฝ่ายที่เดินเข้าหามากกว่า แต่ ครอว์ฟอร์ด อาศัยความเร็ว และการเคลื่อนที่ออกด้านข้างพร้อมปล่อยหมัดแย็ปคุมเกมได้อยู่หมัด มีอาวุธที่เข้าเป้าชัดเจนกว่า ก่อนชนะคะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์ 116-112, 115-113 และ 115-113 คะแนน เพิ่มสถิติชนะรวด 42 ไฟต์ติดต่อกันแบบไร้พ่าย
อย่างไรก็ตามแม้จะมีเสียงวิจารณ์อยู่พอสมควร โดย "ริง แมกกาซีน" นิตยสารชื่อดังในวงการหมัดมวย กลับเห็นต่างจากคำตัดสินของกรรมการ โดยพวกเขามองว่าไฟต์นี้ควรจบลงที่ผลเสมอ และเข็มขัดแชมป์ควรจะอยู่ที่เดิม ซึ่งทาง "คาเนโล่" ที่พ่ายแพ้ในไฟต์นี้ ก็พูดหลังชกเหมือนกันว่าอยากจะขอรีแมตช์ถ้ามีโอกาส
สำหรับชัยชนะของ "เจ้าบัดส์" นั้น ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของเขาได้เป็นอย่างดี โดยเจ้าตัวประสบความสำเร็จมาอย่างโชกโชน คว้าแชมป์ 4 สถาบัน ในรุ่นเวลเตอร์เวต, ไลต์เวตเตอร์เวต และซูเปอร์เวลเตอร์เวต ขณะที่รางวัลส่วนตัวก็กวาดมาเยอะ
อาทิ รางวัลนักมวยยอดเยี่ยม ESPY Award ในปี 2018 และ 2024 รวมถึงการเป็นหนึ่งในกำปั้นชั้นนำของทศวรรษ 2010 และ 2020 แถมยังถูกยกย่องให้เป็นนักมวยปอนด์ต่อปอนด์ที่ดีที่สุดของโลกในปัจจุบัน จากสมาคมนักข่าวสายมวยของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2017
แม้ชีวิตนอกสังเวียนของเขาจะไม่ได้โดดเด่นเหมือนกับ ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ จูเนียร์ แต่เขากำลังมีลุ้นตามรอยสถิติไร้พ่าย 50 ไฟต์ ของ "เดอะ มันนี" โดยยังเหลืออีก 8 ไฟต์ กับวัย 37 ปี แม้จะดูยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส
ครอว์ฟอร์ด เกิด และเติบโต จากเมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา ในย่านที่เต็มไปด้วยมิจฉาชีพ โจร ปล้นจี้ อาชญากรรม และความรุนแรง ใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างยากลำบาก แถมครอบครัวก็เผชิญกับปัญหาด้านการเงินบ่อยครั้ง มีเรื่องทะเลาะวิวาทสมัยเรียน ถูกไล่ออกจากโรงเรียนถึง 5 แห่ง แม้พ่อของเขาจะรับราชการทหารเรือ ก็ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้มากเท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตามชีวิตเขากลับพบจุดเปลี่ยนเมื่อได้โอกาสไปซ้อมมวยที่ C.W. Boxing Club ที่มี คาร์ล วอชิงตัน เป็นเจ้าของ ในนอร์ทโอมาฮา ตามรอยปู่ และพ่อของเขา เจ้าตัวดูมีแววตั้งแต่วัยรุ่น จากเดิมที่ครอบครัวกลัวว่าเขาจะกลายเป็นเด็กเจ้าปัญหา ก่อเรื่องไปวันๆ เลยจับให้เล่นกีฬา และซ้อมมวย จนสุดท้ายสิ่งนี้มันกลายเป็นแหล่งทำมาหากินของเขาเมื่อโตขึ้น
มีการเปิดเผยว่าจากไฟต์ดังกล่าวที่ ครอว์ฟอร์ด เอาชนะ คาเนโล่ ด้วยคะแนนเอกฉันท์ จะทำให้เขาฟันเงินเข้ากระเป๋าตัวเองรวมทุกอย่างแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่า 3 พันล้านบาท ทั้งค่าตัว และส่วนแบ่งจากรายได้เพย์ เพอร์ วิว
ถึงแม้ชื่อของเขาจะถูกพูดถึงน้อยกว่า ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ จูเนียร์ หรือแมนนี ปาเกียว แต่ฝีมือ และชั้นเชิงในการขึ้นสังเวียนของเขาดูแล้วก็ไม่ได้เป็นรอง 2 คนนั้นเท่าไหร่ ถ้าจะยกย่องใครสักคนว่าเป็นนักมวยที่เจ๋งที่สุดในยุคนี้ เขียนชื่อ ครอว์ฟอร์ด ลงไป ก็คงไม่มีใครว่าแน่นอน