xs
xsm
sm
md
lg

อะเมซิ่ง มวยไทย มาสเตอร์คลาส ภารกิจส่งเสริมมวยไทยสู่ระดับโลก ขน 3 ซูเปอร์สตาร์บุกฮ่องกง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ในคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ยกทัพนักมวยชื่อดัง นำโดย “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิ่งแคมป์”, “เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” และ “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” ไปจัดกิจกรรม “Amazing Muaythai Masterclass 2025” ที่ the PORTAL Hong Kong ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวท้องถิ่นจำนวนมาก

มวยไทยถือเป็นอีกหนึ่งในศาสตร์แห่งศิลปะการป้องกันตัวที่คนทั่วโลกให้การยอมรับและสนใจ ด้วยอาวุธที่มีความร้ายฉกรรจ์ แต่แอบแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่สวยงามในทุกท่วงท่าทั้ง หมัด เท้า เข่า ศอก จึงทำให้มวยไทยเป็นที่นิยมเล่าเรียนกันอย่างแพร่หลาย

ปัจจุบันศาสตร์แห่งการโจมตีทั้ง 8 นี้ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการศิลปะการต่อสู้เป็นอย่างมาก มียิมมวยไทยเปิดตัวขึ้นหลายแห่งทั่วทุกมุมโลก ความนิยมมวยไทยในต่างแดนมีมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงผลักดันให้มวยไทยเป็นวาระแห่งชาติ ต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดก่อน จนมาถึงรัฐบาลในยุคนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และถูกหยิบยกเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” โดยมีการยกระดับเปิดเป็นโรงเรียนสอนมวยไทยเพื่อบ่มเพาะครูมวยที่มีคุณภาพ จากนั้นก็ส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ

เพื่อต่อยอดความสำเร็จของศิลปะแม่ไม้มวยไทย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ได้จัดโครงการ Amazing Muaythai Masterclass 2025 ครั้งที่ 1 ประจำปีนี้ พร้อมมีการมอบโล่ Standard Muaythai Gym หรือ SMG ที่รับรองโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ให้แก่ยิมมวยไทยในฮ่องกง 10 แห่ง เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ ที่ได้มาเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมไทย โดยมี นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเป็นประธานในพิธี พร้อมคณะกรรมการท่านอื่น ๆ ประกอบด้วย ชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา, โปรดปราน สมานมิตร, ชุติมา หาญเผชิญ, อรชัย บุญจิตเสรี, ไพฑูรย์ ชุติมากรกุล, ราณี อินทรัตน์, ธนพล ภักดีภูมิ, ลลิส วรพชิรากูร, ณัฐพล อันตรเสน และคียยา คูเวอร์ ท่ามกลางผู้เข้าร่วมชาวฮ่องกง ทุกเพศทุกวัยกว่า 300 คน

โดยกิจกรรมภายในงาน มีทั้งการสอนออกอาวุธ และเทคนิคต่าง ๆ ในรูปแบบมวยไทยจาก 3 ซูเปอร์สตาร์ดังดีกรีแชมป์โลก รวมถึงมีกิจกรรมถ่ายรูปและพบปะพูดคุยกับซูเปอร์สตาร์ทั้ง 3 ราย โดยต่างพกอุปกรณ์และชุดซ้อมมวยมาครบชุด เพื่อมารอต่อคิวเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง และสนุกสนาน ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น

นายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า รู้สึกประทับใจที่มวยไทย กลายเป็นไลฟ์สไตล์ของคนฮ่องกง แม้เป็นประเทศเล็ก ๆ แต่มีคนให้ความสนใจ และเรียนกีฬาชนิดนี้สูงมาก โดยเฉพาะเด็ก ๆ และเยาวชน

“ฮ่องกง อาจไม่ได้เป็นประเทศที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เหมือนบางประเทศ แต่มียิมมวยไทยเยอะมาก ต้องเรียนว่าสิ่งที่ประทับใจ คือ วันนี้เราได้เห็นมวยไทยได้รับความสนใจสูงมาก คนมีความตื่นตัวที่จะมาเข้าร่วมโครงการ Amazing Muaythai Master Class ไม่ใช่ในแง่มุมต่อสู้ แต่เป็นเรื่องการเรียนมวยไทยเพื่อการออกกำลังกาย และสุขภาพ เราจะเห็นได้ว่ามีทั้งเด็กผู้ชาย ผู้หญิง จำนวนมากที่มาเข้าร่วมงาน ตั้งแต่อายุ 5-6 ขวบก็มากันแล้ว กลายเป็นว่ามวยไทยเป็นกีฬาของครอบครัวได้”

“การออกมาทำโครงการ Amazing Muaythai Masterclass 2025 เป็นการสร้างกระแสความตื่นตัว และบอกกันปากต่อปาก หรือถ้าอยากจะไปฝึกฝนที่ประเทศไทยก็สามารถขอวีซ่า มวยไทย ซึ่งมีระยะเวลานานถึง 180 วัน ทั้งหมดนี้ถือเป็นกระบวนการที่เราคิด ว่าจะส่งเสริมมวยไทยได้อย่างไร นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้” นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าว

ขณะที่ “ซุปเปอร์บอน” หรือ ศุภชัย หมื่นสังข์ ยอดนักชกชาวไทย กล่าวว่ารู้สึกอบอุ่นกับการได้รับการต้อนรับ และสนใจในกีฬามวยไทยมากขนาดนี้จากคนฮ่องกง และตนมีความตั้งใจสืบสานวัฒนธรรมศิลปะการต่อสู้ของคนไทยอย่างเต็มที่

“ผมรู้สึกอบอุ่นและภูมิใจครับ ที่ได้มารับหน้าที่สอนมวยไทยในวันนี้ และรู้สึกสนุก เพราะว่าผู้คนสนใจเยอะในการที่จะเรียนมวยกับเรา เขาให้ความสนใจจริง ๆ หลายคนก็เป็นแฟนคลับของผม เข้ามาเรียนเข้ามารับชมผม ผมว่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมากสำหรับตัวผมเอง”

“และด้วยความที่เด็กกับผู้หญิงเข้ามาเรียนเยอะ ทำให้เราเห็นได้ชัดว่ามวยไทยเข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศทุกวัยจริง ๆ ในอนาคตผมคิดว่าจะมีคนเข้ามาเรียนและสนใจมวยไทยอีกเยอะ ก็เด็กเยาวชนเหล่านี้แหละครับเมื่อโตขึ้นไป พวกเขาก็จะแนะนำให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานได้รู้จักมวยไทย ผมมองว่ามวยไทยอนาคตจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนวันนี้ผมก็ได้นำเทคนิคและประสบการณ์จริงที่ใช้ในการแข่งขันมาส่งต่อให้กับทุกคนที่เข้ามาเรียน จากที่สังเกตหลายคนเป็นมือใหม่ที่เข้ามาฝึกออกกำลังกาย หรือบางคนมาฝึกเพื่อใช้แข่งในอนาคต ผมก็ได้นำประสบการณ์ที่ดีในการแข่งขันจริงของผมไปถ่ายทอดให้พวกเขา บางเทคนิคที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนก็รู้สึกตื่นเต้นไปกับเรา”

“จริง ๆ มันเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ในการสืบสานวัฒนธรรมศิลปะการต่อสู้ของคนไทยเอง และมวยไทยเป็นกีฬาชนิดเดียวที่คนทั่วโลกรู้จักและเข้าถึงได้ง่าย ถ้าเราจะเอาประเทศไทยไปสื่อสารให้คนทั่วโลกรู้จักผมว่ามวยไทยนี่แหละครับเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ พอพูดว่ามวยไทย ทุกคนจะต้องรู้ว่ามาจากประเทศไทยมันสามารถต่อยอดไปจนถึงเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกินที่อร่อย” ซูเปอร์บอน กล่าว

ส่วน “เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” หรือ นิลดา มีคุณ นักชกสาว กล่าวว่าตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้มีส่วนร่วมกับโครงการนี้

“คนที่นี่ (ฮ่องกง) ให้ความสนใจกันเยอะเลยค่ะ วันนี้ก็มาสอนเรื่องเทคนิคการออกอาวุธมวยไทยทุกอย่างเลยค่ะ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ที่ได้เห็นชาวต่างชาติหันมาสนใจ และอยากลองเรียนรู้มวยไทย ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ได้โอกาสมาสอน ที่นี่คนเยอะไม่ต่างจากที่ ออสเตรเลีย และ อังกฤษ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นกว่าเดิมค่ะ”

“มวยไทยมีประโยชน์ทั้งฝึกซ้อมเพื่อแข่งขัน หรือจะฝึกซ้อมเพื่อออกกำลังกายก็ได้ ก็อยากให้ชาวต่างชาติทุกคนหันมาซ้อม หันมาสนใจมวยไทยมากขึ้นค่ะ ก็อยากให้กิจกรรมนี้มีต่อไปเรื่อง ๆ เพื่อที่ทุกคนจะได้รู้จักมวยไทยมากขึ้นค่ะ” เพชรจีจ้า เผย

ด้าน “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” หรือ ชินพรรธน์ อธิชัยวนานนท์ อีกหนึ่งนักชกดังของไทยเผยว่า ตนมีโอกาสได้มาสอนในโครงการ Amazing Muaythai Masterclass จึงรู้สึกตื่นเต้น และให้ความเห็นว่าโครงการนี้ จะยิ่งช่วยให้ครูมวยไทยมีอาชีพ และรายได้ที่ดีขึ้น

“ผมรู้สึกตื่นเต้นมากครับเพราะผู้คนที่นี่ให้ความสนใจและบรรยากาศคึกคักมากครับ ผมว่าซอฟต์พาวเวอร์ปีนี้ค่อนข้างแรงแล้วก็เด็ก ๆให้ความสำคัญ ก็ถือว่าเป็นกระแสและเป็นแนวทางดีให้กับมวยไทยของเรา”

“สำหรับผมปีนี้มาสอนครั้งแรกก็พยายามถ่ายทอดความรู้ที่มีทั้งหมดให้กับคนรุ่นหลัง และเป็นการประกาศนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ให้กับชาวต่างประเทศได้รู้จักด้วยครับ ก็ถือเป็นเรื่องดีครับได้สื่อสารออกไปในเรื่องของการท่องเที่ยวด้วย ที่สำคัญกิจกรรมนี้ทำให้นักมวยมีรายได้เพิ่มมากขึ้นในการออกมาสอนออกมาโชว์ตัว และกระแสก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ถือว่ามวยไทยมาถูกทางแล้วครับ”

“จริง ๆ ตอนนี้ยิมมวยไทยในต่างประเทศค่อนข้างคึกคัก คนให้ความสนใจค่อนข้างเยอะถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ครับ เพราะครูมวยคนไทย หรือแม้แต่นักกีฬาอย่างผมก็จะได้รายได้ ก็ขอฝากให้ทุกคนช่วยผลักดันส่งเสริมมวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์ไทย กันด้วยครับ” เพชรทนง ทิ้งท้าย

สำหรับโครงการ Amazing Muaythai Masterclass 2025 จะเดินทางไปเผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทยทั้งหมด 10 ประเทศ โดยสถานที่ต่อไปเป็นเมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ต่อจากนั้นเป็นประเทศอังกฤษ, สกอตแลนด์, ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, เยอรมัน, สเปน และโปรตุเกส












กำลังโหลดความคิดเห็น