xs
xsm
sm
md
lg

กำปั้นชายล้มเหลวในโอลิมปิก 3 ครั้งซ้อน / คอลัมน์ “TKO" โดย "น็อกเอาต์ แมน"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ “TKO" โดย "น็อกเอาต์ แมน"

ถือเป็นโอลิมปิกครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ที่เหล่านักกีฬามวยสากลสมัครเล่นชายไทย ไร้เหรียญรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้าน โดยกำปั้นหนุ่มคนสุดท้ายที่คว้าเหรียญมาครองได้นั้น คือ แก้ว พงษ์ประยูร เมื่อลอนดอนเกมส์ ปี 2012

อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมมวยสากลสมัครเล่นชายไทยไม่ประสบความสำเร็จในช่วงหลัง ไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลกลับบ้านได้เลยในโอลิมปิก 3 ครั้งซ้อน MGR Sport ในคลิปนี้ จะพามาหาคำตอบไปพร้อมๆกันครับ

ถึงแม้มวยสากลสมัครเล่นของไทยจะคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จในปารีสเกมส์ แต่ก็เป็นผลงานจากนักมวยหญิง อย่าง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ในรุ่น 66 กิโลกรัม ที่เธอมีอันต้องพ่ายแพ้ให้กับ อิมาน เคลีฟ นักชกโครโมโซมชาย จากแอลจีเรีย ในรอบตัดเชือก ถือเป็นเหรียญรางวัลเดียวของสมาคมกีฬามวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ จากที่ได้โควต้าเข้ามาต่อยในโอลิมปิก 2024 ถึง 8 คน

แฟนหมัดมวยหลายคนรวมถึงสื่อมวลชนสายกีฬา ต่างมองกันเป็นเสียงเดียวกันว่าสาเหตุที่กำปั้นหนุ่มไทยไม่ประสบความสำเร็จในโอลิมปิก 3 หนหลังคน เป็นเพราะสไตล์การชกที่ยังเป็นในรูปแบบเดิม ทั้งๆที่ปัจจุบันการให้คะแนนของกรรมการนั้นเปลี่ยนไปแล้ว

สมัยก่อนนักชกของไทยที่ประสบความสำเร็จได้เหรียญทองโอลิมปิกกลับบ้าน ล้วนแล้วแต่เป็น "มวยเชิง" กันทั้งสิ้น ไล่ตั้งแต่ สมรักษ์ คำสิงห์, วิจารณ์ พลฤทธิ์, มนัส บุญจำนงค์ และ สมจิตร จงจอหอ เป็นนักชกในสไตล์บุ๋น ใช้สมองมากกว่าพละกำลัง ซึ่งการให้คะแนนของกรรมการในยุคนั้นจะดูจากหมัดที่เข้าเป้า หรือไม่เข้าเป้า มากกว่าดูการออกอาวุธของนักกีฬา

แต่ปัจจุบันโดยเฉพาะในโอลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC จัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นด้วยตัวเอง ไม่ได้ใช้บริการของ IBA (ไอบ้า) ในการจัดเหมือนดั่งก่อน จะให้ได้อย่างชัดเจนกรรมการส่วนใหญ่มักให้คะแนน "มวยเดิน" มากกว่า "มวยเชิง"

เราจะเห็นได้จากผลการแข่งขันในหลายๆคู่ที่คนไทยขึ้นไปชก อาจมีการออกอาวุธได้เข้าเป้า และจะแจ้งมากกว่า แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเดินเข้าหาคู่ต่อสู้ จะเน้นไปที่การตั้งรับแล้วรอสวนเสียมากกว่า กลับกันนักชกคู่แข่งหลายๆคน เป็นฝ่ายเดินทำ ออกหมัดเข้าเป้าบ้าง ไม่เข้าเป้าบ้าง แต่ได้คะแนนจากกรรมการมากกว่า

สิ่งสำคัญคือการฝึกซ้อมของนักมวยชาวไทยที่ปัจจุบันยังคงฝึกซ้อมกันในรูปแบบเดิม เน้นเล่นเชิง และออกอาวุธให้เข้าเป้า มากกว่าการเดินเข้าหาคู่ชกตลอดทั้ง 3 ยก ซึ่งก็แน่นอนว่ามาจากการเทรนของผู้ฝึกสอนที่ยังคงให้นักมวยฝึกซ้อมแบบเก่าๆ

ก่อนหน้านี้ในช่วงที่ ฮวน ฟรอนตาเนียล เทรนเนอร์ชื่อดังชาวคิวบากำลังจะหมดสัญญา แม้พาทีมนักชกชายไทยล้มเหลวไม่มีเหรียญติดมือในโตเกียวเกมส์ 2020 ซึ่งเจ้าตัวก็รู้แล้วว่าควรปรับแต่งทีมมวยสากลของไทยที่จุดใด ควรเปลี่ยนไปใช้สไตล์ใด แต่ทางสมาคมกีฬามวยสากลสมัครเล่นฯ ไม่ยอมต่อสัญญากับเขา สุดท้ายเลือกใช้บริการโค้ชคนไทย อย่าง สุฤทธิ์ ยิ่งกำแหง แทน ซึ่งก็ถูกวิจารณ์จากประเด็นนี้พอสมควร

ซึ่งผลการแข่งขันในปารีสเกมส์ ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่จะทำให้สมาคมกีฬามวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กลับไปกำชับให้เหล่าเทรนเนอร์เปลี่ยนวิธีการซ้อม และวิธีการชกของนักกีฬาเสียใหม่ เพราะหากยังซ้อมกันแบบเดิมๆ ก็คงยากที่จะประสบความสำเร็จ

โอลิมปิก 2028 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในอีก 4 ปีข้างหน้า ก็ยังไม่ชัวร์ว่าจะมีการจัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นหรือไม่ จากเหตุการณ์ดราม่าต่างๆ นาๆ ที่เกิดขึ้นมาตลอดเกี่ยวกับกีฬาชนิดนี้ ดีไม่ดี IOC อาจตัดทิ้งไม่จัดแข่งกีฬาชนิดนี้เลยก็ได้

อย่างไรก็ตามถ้ายังคงมีการจัดการแข่งขันเช่นเดิม ก็ถือเป็นการบ้านชิ้นโตที่สมาคมกีฬามวยสากลสมัครเล่นฯ ของเรานั้น ต้องกลับไปแก้ไข ถ้าอยากให้นักมวยชาย กลับมาประสบความสำเร็จเฉกเช่นสมัยก่อน ก็ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไปยิ่งกว่านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น