คอลัมน์ “TKO" โดย "น็อกเอาต์ แมน"
ได้วันชกใหม่ที่ลงตัวเสียทีสำหรับมวยไฟต์หยุดโลก ระหว่าง ไมค์ ไทสัน ที่เตรียมคัมแบ็คขึ้นสังเวียนผืนผ้าใบอีกครั้ง โดยจะพบกับกำปั้นรุ่นน้องที่อายุห่างกันถึง 30 ปี ในคืนวันที่ 15 พฤษศจิกายน หรือตรงกับช่วงเช้า 16 พ.ย.ตามเวลาประเทศไทย ณ สังเวียนเอที แอนด์ ที สเตเดียม เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีคิวขึ้นชกกันในวันที่ 20 กรกฎาคม แต่เจ้าของฉายา "มฤตยูดำ" อดีตแชมเปี้ยนโลกรุ่นยักษ์ ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม ทำให้ขอขยับวันออกไป สุดท้ายจึงได้วัน และเวลา อย่างเป็นทางการใหม่ แต่ยังคงยิงสดผ่านช่องทาง Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิงยักษ์ใหญ่ของโลกเช่นเดิม
หลังจากมีประกาศว่าคู่นี้จะชกกันจริงๆ ก็เกิดดราม่าในโลกโซเชียล ว่า ไมค์ ไทสัน ที่มีดีกรีเป็นถึงอดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวตระดับตำนาน ไม่น่าลดตัวมาชกกับรุ่นน้องที่ห่างกันถึง 30 ปี และไม่ได้มีเส้นทางชีวิตจากการเป็นนักมวยอาชีพที่แท้จริงด้วยซ้ำ ถ้าแพ้ขึ้นมาแบบหมดรูป ทุกอย่างที่ตัวเองเคยทำมาสมัยก่อนอาจหายวับไปกับตาก็ได้
อย่างไรก็ตามตัวของ ไมค์ ไทสัน เอง ไม่ได้คิดว่าตัวเขาตัดสินใจผิดพลาดที่รับชกไฟต์นี้ เขาบอกว่าเมื่อได้ยินถึงโปรเจกต์นี้ก็แทบตอบรับแบบไม่ต้องคิด ถึงแม้ตัวเองจะอายุอานามใกล้หลัก 6 แล้วก็ตาม
หากใครติดตามโซเชียลมีเดียของอดีตแชมเปี้ยนโลกรุ่นยักษ์ จะเห็นได้ว่าเขาลงนวมฝึกซ้อมกับเทรนเนอร์คู่ใจอยู่เป็นประจำไม่ขาดสาย แถมความหนัก และความเร็ว ก็ยังติดตัวมาเหมือนกับสมัยหนุ่มๆ จะว่าไปก็น่าเป็นห่วงทางฝั่งของ เจค พอล มากกว่าด้วยซ้ำ
ถึงแม้ยูทูบเบอร์ชื่อดังวัย 27 ปี จะผันตัวมาฝึกซ้อม และขึ้นสังเวียนเป็นนักชกอาชีพแบบจริงจัง แถมมีสถิติที่ยอดเยี่ยม ชนะ 9 แพ้ 1 แต่คู่ต่อสู้ที่เขาเจอนั้นหลายคนก็มองว่ายังไม่ใช่ของจริง และส่วนใหญ่ก็เจอแต่เหล่ากำปั้นที่หมดสภาพ หรือไม่ได้อยู่ในช่วงพีคแล้วทั้งนั้น แต่การต้องมาเจอกับ ไมค์ ไทสัน เปรียบเสมือนการเจอนักมวยระดับตำนาน แม้ปัจจุบันคู่ชกของเขาจะแก่กว่าถึง 30 ปี ก็ตาม
ไฟต์นี้ เจค พอล จะได้รับค่าตัวราว 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.1 พันล้านบาท ส่วน ไมค์ ไทสัน จะได้รับค่าตัว 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 730 ล้านบาท หลายคนอาจสงสัยว่า "มฤตยูดำ" ทำไมถึงได้ค่าตัวน้อยกว่า พอล ทั้งๆที่เขามีดีกรีเป็นถึงอดีตแชมเปี้ยนโลก
เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน ในส่วนของ เจค พอล ก็ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง ก่อนที่เขาจะผันตัวมาเป็นนักมวย เขาคือหนึ่งในยูทูบเบอร์ที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของโลกไม่แพ้ มิสเตอร์ บีสต์ มีผู้ติดตามมากกว่า 20 ล้านคน การได้ค่าตัวระดับนี้ก็ถือว่าไม่แปลก ในส่วนของ ไมค์ ด้วยวัยที่ใกล้แตะหลัก 6 การได้ค่าตัว 20 ล้านเหรียญฯ ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่น้อยๆ กับคนในวัยนี้
ขณะเดียวกัน Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิงยักษ์ใหญ่ระดับโลก ในช่วงหลังเริ่มมาเกาะติดวงการกีฬามากยิ่งขึ้น ทั้งสารคดีต่างๆ ที่เกี่ยวกับกีฬา ภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬา เหลือแต่เพียงการถ่ายทอดสดกีฬาที่พวกเขายังเพิ่ง "ตั้งไข่"
ส่วน Prime Video คู่แข่งของพวกเขา เอาดีทางด้านการถ่ายทอดสดกีฬาไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้ง NFL หรือ ONE Championship ฯลฯ ก็ไม่แปลกที่ไฟต์นี้เราจะเป็นการโปรโมตของ Netflix ตั้งแต่ไก่โห่ เพราะถ้าพวกเขาสามารถตีตลาดการถ่ายทอดสดกีฬาได้ ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหาเงินเข้ากระเป๋าได้อีกมากโข
สำหรับ ไมค์ ไทสัน ไม่ได้ขึ้นชกบนเวทีอย่างเป็นทางการมานานถึง 19 ปี และช่วงหลังจะทำธุรกิจอยู่หลายอย่าง แต่เขายังคงเข้ายิมฝึกซ้อมมวยอยู่เป็นประจำ โดยเจ้าตัวเพิ่งขึ้นชกไฟต์พิเศษ กับ รอย โจนส์ จูเนียร์ เมื่อปี 2020
ทั้งนี้ ไฟต์ที่ทั้งคู่จะดวลเดือดกันในวันที่ 15 พฤศจิกายน มีการคาดการณ์จากสื่อในสหรัฐอเมริกาว่าอาจทำเงินได้สูงถึง 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 3 พันล้านบาทเลยทีเดียว ยังไม่รวมเงินจากยอดค่าสมัครสมาชิกใหม่ที่คาดว่า Netflix จะได้เพิ่มอีกหลายหมื่นบัญชี และเงินอัดฉีดที่น่าจะมีเพิ่มเติมมาอีกหลังจากนี้ บอกเลยว่าไฟต์นี้ไม่มีใครเสียประโยชน์ มีแต่ได้กับได้เท่านั้น
