“ซ้ายฟ้าผ่า” เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ จอมบู๊หมัดสั่งวัย 29 ปี จากเชียงใหม่ เครื่องร้อนพร้อมขึ้นสังเวียน ปะทะ “โมฮาเหม็ด ยูเนส ราบาห์” นักชกก้านยาว วัย 26 ปีจากแอลจีเรีย ที่อาสาขัดตาทัพ “ฟิลิปเป โลโบ” คู่ชกคนเดิมที่มีอาการบาดเจ็บจนต้องขอถอนตัวในช่วงโค้งสุดท้าย โดยทั้งคู่ตกลงจะแลกเดือดกันในกติกามวยไทย แคตช์เวต 150 ป. ในศึก ONE Fight Night 17 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค.นี้
เดิมทีไฟต์นี้ “เสมาเพชร” มีคิวจะต้องเปิดศึกรีแมตช์ล้างตากับ “ฟิลิปเป โลโบ” เพื่อทวงเก้าอี้เบอร์สองของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) กลับคืนมา แต่หลังจากที่อริตัวฉกาจต้องขอถอนตัวไปในช่วงโค้งสุดท้ายเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาต้องเจอกับคู่ปรับใหม่แกะกล่อง “โมฮาเหม็ด ยูเนส ราบาห์” นักชกจากบราซิล ที่มีส่วนสูงถึง 188 ซม. และยังยอมปีนเวตขึ้นไปสู้ในกติกามวยไทย แคตช์เวต 150 ป. นอกพิกัดแบนตัมเวตที่ตนชกอยู่ประจำ เพื่อให้การแข่งขันดำเนินต่อไป
“ผมตัดสินใจตอบรับที่จะเจอกับ “โมฮาเหม็ด” ในไฟต์นี้ เพราะโดยปกติผมไม่ใช่คนเกี่ยงคู่ชกอยู่แล้วครับ รายการเสนอใครมาผมก็พร้อมสู้หมด และอีกอย่างถ้าเกิดผมเลือกที่จะไม่ชกไฟต์นี้ก็จะเสียโอกาสไปเปล่า ๆ ตอนนี้ใกล้จะสิ้นปีแล้วด้วย ผมก็อยากจะชกทิ้งทวนเก็บชัยชนะอีกสักไฟต์ จะได้มีเงินนำไปมอบให้กับคุณแม่ในช่วงปีใหม่ด้วยครับ”
แม้ “เสมาเพชร” จะมีส่วนสูงที่น้อยกว่าคู่ชกถึง 16 ซม. แถมยังต้องยอมปีนน้ำหนักขึ้นสู้ในพิกัด 150 ป. เป็นครั้งแรก แต่นักชกใจถึงจากจังหวัดเชียงใหม่รายนี้ ก็ยืนยันไม่หวั่นใจในข้อเสียเปรียบที่เกิดขึ้น เพราะมั่นใจในสภาพร่างกายอันแข็งแกร่งของตนเองจากการเก็บตัวซ้อมหนักตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
“ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของผมเลยครับตั้งแต่ชกมวยมา ที่ต้องเจอนักมวยรูปร่างสูงใหญ่ขนาดนี้ แต่ผมก็ไม่ได้กลัว เพราะหลังจบไฟต์ล่าสุด ผมก็ไม่ได้พักปล่อยเนื้อปล่อยตัวอะไร เข้าค่ายเก็บตัวซ้อมหนัก ทำร่างกายมาตลอด หยุดพักแค่วันอาทิตย์วันเดียว ทำให้สภาพร่างกายพร้อมเต็มร้อยอยู่ตลอดครับ”
ด้วยเวลาทำการบ้านคู่ชกเพียงแค่ราว 10 วัน ทำให้ “เสมาเพชร” ตัดสินใจเลือกที่จะนำแผนการชกเดิมที่เตรียมมาไว้สู้กับ “ฟิลิปเป” มาใช้งาน เนื่องจากยังไม่สามารถวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของคู่ชกจากบราซิลรายนี้ได้ชัดเจนนัก โดยตั้งใจโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุด เพื่อเรียกความมั่นใจก่อนกลับไปเปิดศึกกับ “ฟิลิปเป” เพื่อทวงเก้าอี้แรงกิงเบอร์สองกลับคืน
“ไฟต์นี้ผมเลือกที่จะใช้แผนการชกเดียวกับที่เตรียมมาไว้ชกกับ ฟิลิปเป ก็คือจะเดินบู๊ เดินชน แจกหมัดเท้าเข่าศอกเต็มที่เหมือนเดิม แต่จะเพิ่มความรัดกุมให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะผมและทีมงานยังไม่รู้ว่า โมฮาเหม็ด เขาจะมาไม้ไหน ผมมองว่าไฟต์นี้ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ชนะหรือแพ้มาก็ไม่น่าจะส่งผลอะไรต่อแรงกิงในรุ่นแบนตัมเวตของผม แถมยังเป็นการเรียกฟอร์ม เพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้นด้วย ก่อนจะไปเจอกับ ฟิลิปเป ในอนาคตเพื่อทวงเก้าอี้แรงกิงของผมกลับคืนมา”