การแข่งขันเทคบอลชิงแชมป์โลก 2023 ชิงเงินรางวัลรวม 250,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 8.7 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ และยังเป็นครั้งแรกด้วย ที่รายการนี้ถูกจัดขึ้นในทวีปเอเชียที่สนามบางกอก อารีน่า ย่านหนองจอก เป็นวันสุดท้ายของการแข่งขัน ซึ่งเป็นการชิงชัยในรอบชิงชนะเลิศของประเภทคู่ชาย,คู่หญิงและคู่ผสม โดยนักกีฬาไทยผ่านเข้ามาลุ้นแชมป์โลก 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่คู่หญิงและคู่ผสม
คู่หญิง ”หยก“ จุฑาทิพย์ กันทะธง ที่เพิ่งคว้ารองแชมป์โลกประเภทเดี่ยวหญิงไป 1 วันก่อนหน้านี้ จับคู่กับ “นิด” สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ ซึ่งรอบชิงชนะเลิศโคจรมาพบกับ เปตร้า เปชี่ กับ โนร่า วิชเซค จากฮังการี ปรากฏ คู่เทคบอลสาวไทย เล่นกันได้อย่างเข้าขา ก่อนจะเอาชนะไปได้ 2-0 เซต 12-8 และ 12-6 สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเทคบอลไทยคู่แรก ที่คว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ พร้อมรับเงินรางวัล 17,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 590,000 บาท
คู่ผสมรอบชิงชนะเลิศ “ต้น ราชนาวี” พักตร์พงษ์ เดชเจริญ กับ “นิด” สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ ดวลกับ เลโอนาร์โด ลินโดโซ่ กับ วาเนีย โมราเอส ดา ครูซ จากบราซิล ก่อนที่คู่ของไทยจะเอาชนะไปได้ 2-0 เซต 12-4 และ 12-9 คว้าแชมป์โลกอีก 1 ประเภทให้ทีมเทคบอลไทย รับเงินรางวัล 17,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 590,000 บาท พร้อมกับทำให้ สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ คว้าแชมป์โลกถึง 2 ประเภททั้งคู่หญิงและคู่ผสม
ส่วนประเภทคู่ชายแม้ “ต้น ราชนาวี” พักตร์พงษ์ เดชเจริญ กับ “เก่ง บ้านบะขาม” บุญคุ้ม ทิพย์วงศ์ จะชวดเข้าชิงอย่างน่าเสียดาย หลังรอบรองชนะเลิศพ่ายต่อ ซาบา บานยิค กับ บาลัซ คัทซ์ จากฮังการี 0-2 เซต ทว่าในรอบชิงอันดับ 3 สองหนุ่มไทยยังเฉือน นิโคล่า มิโตร กับ บอกดาน มาโรเยวิช จากเซอร์เบียไป 2-1 เซต 12-10, 7-12 และ 12-8 คว้าอันดับ 3 เป็นรางวัลปลอบใจ
สรุปผลงานเทคบอลทีมชาติไทยได้มา 2 เหรียญทอง จากประเภท คู่หญิง กับ คู่ผสม , 1 เหรียญเงินจากประเภทหญิงเดี่ยว และ 1 เหรียญทองแดงจากประเภทคู่ชาย ส่วนชายเดี่ยวตกรอบ 16 คนสุดท้าย